คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ธนาคารปฏิเสธ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 25 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1723/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องบังคับชำระหนี้ตามเช็ค โดยไม่จำเป็นต้องเสียค่าอ้างเอกสาร หากจำเลยยอมรับเป็นผู้สั่งจ่ายและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน
โจทก์ฟ้องคดีโดยแนบสำเนาภาพถ่ายเช็คพิพาทกับใบคืนเช็คมาท้ายฟ้อง จำเลยให้การและนำสืบยอมรับว่าจำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทตามฟ้อง และไม่ได้ให้การปฏิเสธว่าธนาคารมิได้ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คพิพาท ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ตามคำรับของจำเลยอยู่แล้วว่า จำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทและธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค ดังนี้แม้โจทก์ไม่ได้เสียค่าจ้างเอกสารเช็คและใบคืนเช็คพิพาท ศาลก็พิพากษาให้จำเลยชำระเงินตามเช็คพิพาทแก่โจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3014/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คผู้ถือ: ผู้ถือเช็คมีสิทธิฟ้องได้หากธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน แม้เช็คจะถูกนำไปใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน
โจทก์ออกเช็คผู้ถือ จำเลยเป็นผู้ถือย่อมเป็นผู้ทรงเช็คนั้นเมื่อเช็คถึงกำหนด จำเลยนำไปขึ้นเงินจากธนาคาร ธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงิน จำเลยย่อมมีอำนาจที่จะฟ้องโจทก์ว่ากระทำผิดอาญาฐานออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คได้ ไม่เป็นฟ้องเท็จ และการที่จำเลยเบิกความไปตามคำฟ้องก็ไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 796/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทุจริตออกเช็ค – แก้ไขตัวเลข – ลงชื่อไม่ตรงตัวอย่าง – ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน – ความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
เช็คของจำเลยจะต้องลงชื่อผู้สั่งจ่าย 2 คน แต่จำเลยที่ 2 ลงชื่อสั่งจ่ายเพียงคนเดียว โดยเซ็นทั้งชื่อและนามสกุลไม่ตรงกับตัวอย่างที่ให้ไว้แก่ธนาคารซึ่งมีแต่'ชื่อ' เท่านั้นเป็นเหตุให้ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินแสดงว่า เมื่อจำเลยที่ 2 ออกเช็คฉบับนี้ จำเลยที่ 2 เจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3421/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คพิพาท: สิทธิผู้ทรงเช็ค, ความรับผิดของผู้สลักหลัง, และการคิดดอกเบี้ยเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน
เช็คพิพาทเป็นเช็คอันสั่งให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ ย่อมโอนให้แก่กันได้โดยการส่งมอบ เมื่อโจทก์ได้รับเช็คพิพาทไว้ในครอบครอง โจทก์จึงเป็นผู้ทรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904 ถึงแม้โจทก์จะสลักหลังโอนเช็คให้ ป. และ ป. นำเช็คไปเรียกเก็บเงินจากธนาคารไม่ได้ ซึ่งถือว่า ป. เป็นผู้เสียหายในขณะที่เช็คถูกปฏิเสธการจ่ายเงินก็ตาม แต่เมื่อโจทก์ได้รับเช็คพิพาทคืนมา โจทก์ก็ย่อมมีสิทธิเช่นเดียวกับผู้ทรงในการที่จะบังคับเอาแก่ผู้ที่มีความผูกพันอยู่แล้วก่อนตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 967 ประกอบกับมาตรา 989
การที่โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีอาญา หาทำให้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีแพ่งไปด้วยไม่
จำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อไว้ที่ด้านหลังเช็ค ย่อมเป็นผู้สลักหลังเมื่อจำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลังอยู่ก่อนโจทก์ก็ต้องรับผิดต่อโจทก์
หนี้เงินตามเช็คที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินนั้น จะคิดดอกเบี้ยได้ตั้งแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินซึ่งถือว่าจำเลยตกเป็นผู้ผิดนัด จะคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ลงในเช็คหาได้ไม่
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 901/2505)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 429/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้เช็คจากการเล่นแชร์: โจทก์มีสิทธิเรียกดอกเบี้ยนับแต่วันธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน แม้จำเลยเสียผลประโยชน์จากการประมูล
หนี้ตามเช็คเป็นหนี้เงิน โจทก์ (ลูกมือแชร์) ซึ่งเป็นผู้ทรงย่อมมีสิทธิเรียกดอกเบี้ยนับแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินอันเป็นวันผิดนัดได้แม้จำเลยที่ 2 (ลูกมือแชร์ผู้เปียแชร์ได้) ผู้สลักหลังเช็คนั้นจะได้เสียผลประโยชน์ในการประมูลแชร์ให้แก่ผู้ที่เปียไม่ได้ไปแล้วก็ตาม แต่ก็มิใช่การเสียดอกเบี้ยในการกู้ยืมจึงหาใช่เป็นการคิดดอกเบี้ยซ้อนดอกเบี้ยไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1989/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิไล่เบี้ยเช็ค: ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินไม่ต้องทวงถาม, ศาลฟังต่างกันได้ทั้งคดีอาญาและแพ่ง
ผู้ทรงมีสิทธิไล่เบี้ยผู้สั่งจ่ายเช็คได้เมื่อธนาคารปฏิเสธการใช้เงินไม่จำเป็นต้องทวงถามอีก
คดีเรื่องเช็คมิใช่คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ศาลคดีอาญาฟังว่าออกเช็คประกันการเล่นราคาทองคำ ไม่มีมูลหนี้ พิพากษายกฟ้อง ศาลคดีแพ่งไม่จำต้องฟังข้อเท็จจริงตามคดีอาญา และเชื่อคำพยานโจทก์ว่าออกเช็คเพื่อชำระหนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1529/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาออกเช็คเพื่อปิดบังการยักยอก ไม่ถือเป็นความผิดตามพ.ร.บ.เช็ค แม้ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน
จำเลยเป็นผู้รักษาเงินของบริษัทโจทก์ มีหน้าที่รับเงินจากพนักงานขายนำฝากธนาคารเป็นรายวันตามยอดที่รับไว้ จำเลยยักยอกเงินสดของโจทก์ที่จะต้องฝากเข้าธนาคารแล้วออกเช็คของจำเลยนำเข้าฝากธนาคารแทน เพื่อจะไม่ให้โจทก์รู้ความจริง และต้องการปิดบังความผิดฐานยักยอกธนาคารปฎิเสธการจ่ายเงินตามเช็คที่จำเลยออก โจทก์ดำเนินคดีแก่จำเลยฐานยักยอกศาลพิพากษาลงโทษจำเลย คดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์จึงฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ฯ ดังนี้ จำเลยมิได้ออกเช็คที่ฟ้องโดยเจตนาที่จะให้มีการใช้เงินตามเช็ค ทั้งศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยในความผิดฐานยักยอกเงินตามเช็คที่โจทก์นำมาฟ้องไปจนคดีถึงที่สุดแล้วด้วย การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 452/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาออกเช็คที่ไม่มีเงินในบัญชีเป็นองค์ประกอบความผิดฐานออกเช็คโดยเจตนาทุจริต ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินไม่ใช่ความผิดเสมอไป
การเป็นความผิดฐานออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค มิใช่ว่าเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินแล้วเกิดเป็นความผิดเสมอไป กรณีจะต้องประกอบด้วยว่าเช็คที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเช่นนั้น จำเลยได้ออกโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คในวันที่สั่งให้ธนาคารจ่ายเงิน เจตนาดังกล่าวเป็นข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบความผิด เมื่อโจทก์นำสืบแต่เพียงว่าเช็คนั้นถูกนำไปขึ้นเงินภายหลังจากวันที่ที่จำเลยสั่งให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็คแล้วธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จึงจะฟังว่าในวันที่ที่สั่งธนาคารจ่ายเงิน จำเลยไม่มีเงินในบัญชีและมีเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้นยังไม่แน่นอน จำเลยยังไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ มาตรา 3 (1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 579/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาออกเช็ค: ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ไม่ใช่ความผิดเสมอไป ต้องมีเจตนาที่จะไม่ให้ใช้เงิน
การที่จะเป็นความผิดฐานออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น มิใช่ว่าเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินแล้วก็เกิดเป็นความผิดเสมอไปกรณีจะต้องปรากฏด้วยว่าเช็คที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินนั้น จำเลยได้ออกด้วยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คด้วยเจตนาดังกล่าวเป็นข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบความผิดดังนั้นเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ในวันที่จำเลยสั่งจ่ายเช็คหรือวันออกเช็คจำเลยเป็นเจ้าหนี้ธนาคารอยู่เป็นจำนวนเงินสูงกว่าจำนวนเงินตามเช็คที่จำเลยสั่งจ่ายซึ่งถือไม่ได้ว่าจำเลยออกเช็คโดยมีเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น เช่นนี้ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิด(อ้างฎีกาที่ 259/2513)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2380/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องคดีเช็ค: เริ่มนับแต่วันธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน แม้ผู้ทรงเช็คจะเปลี่ยนมือ
เช็คพิพาทได้ถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินครั้งแรก เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2515 ผู้ทรงเช็คในขณะนั้นทราบเรื่องแต่ได้สลักหลังโอนเช็คให้โจทก์ โจทก์นำไปขึ้นเงินและถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินอีกครั้ง เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2515 ต้องถือว่าวันที่ 14 เมษายน 2515 เป็นวันที่ความผิดได้เกิดขึ้น และเป็นวันรู้เรื่องการกระทำผิด เมื่อโจทก์นำเช็คดังกล่าวมาฟ้องคดีในวันที่ 1 สิงหาคม 2515 เป็นเวลาเกินกว่าสามเดือน คดีของโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96 แม้โจทก์จะเป็นผู้ทรงเช็คภายหลังก็ตาม
of 3