พบผลลัพธ์ทั้งหมด 17 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 438/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือรับสภาพหนี้ทำให้อายุความสะดุดหยุด และเริ่มนับใหม่ตามอายุความของมูลหนี้เดิม คดีขาดอายุความหากเกินกำหนด
หนังสือรับสภาพหนี้เป็นหนังสือที่ลูกหนี้ยอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องต่อเจ้าหนี้ มีผลแต่เพียงทำให้อายุความสะดุดหยุดลงแล้วเริ่มนับอายุความขึ้นใหม่ตามอายุความแห่งมูลหนี้ที่ลูกหนี้รับสภาพต่อเจ้าหนี้ ตั้งแต่เวลาเมื่อเหตุที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงนั้นสุดสิ้นไป
จำเลยทำหนังสือรับสภาพหนี้ค่าซื้อสินค้าเงินเชื่อให้โจทก์ไว้เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2511 สัญญาว่าจะนำเงินที่เป็นหนี้มาชำระให้โจทก์เสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2511 ถึงกำหนดแล้วจำเลยไม่ชำระให้ โจทก์มาฟ้องคดีเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2514 นับแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2511 เกินสองปีแล้ว คดีโจทก์จึงขาดอายุความ
จำเลยทำหนังสือรับสภาพหนี้ค่าซื้อสินค้าเงินเชื่อให้โจทก์ไว้เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2511 สัญญาว่าจะนำเงินที่เป็นหนี้มาชำระให้โจทก์เสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2511 ถึงกำหนดแล้วจำเลยไม่ชำระให้ โจทก์มาฟ้องคดีเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2514 นับแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2511 เกินสองปีแล้ว คดีโจทก์จึงขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2486-2487/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสภาพหนี้โดยผู้จัดการมรดกทำให้ อายุความเริ่มนับใหม่ ไม่ถือเป็นฟ้องซ้ำ
ผู้จัดการมรดกและเป็นผู้รับมรดกทั้งหมดตามพินัยกรรมได้ชำระดอกเบี้ยให้แก่เจ้าหนี้ ย่อมถือได้ว่าเป็นการรับสภาพหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 อายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 ที่มิให้เจ้าหนี้ฟ้องเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปีนับแต่เมื่อเจ้ามรดกตายก็สะดุดหยุดลงอายุความสำหรับสิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้จึงต้องตั้งต้นนับใหม่ตามอายุความแห่งมูลหนี้โดยเริ่มนับอายุความขึ้นใหม่แต่เวลานั้นสืบไป
เมื่อศาลได้มีคำพิพากษาไว้ในคดีก่อนว่าไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องคดีนี้ใหม่ในทางที่ถูกต้องได้ โจทก์ย่อมฟ้องคดีนี้ใหม่ได้ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
เมื่อศาลได้มีคำพิพากษาไว้ในคดีก่อนว่าไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องคดีนี้ใหม่ในทางที่ถูกต้องได้ โจทก์ย่อมฟ้องคดีนี้ใหม่ได้ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 940/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความสะดุดหยุดชะงักจากการรับสภาพหนี้ การเริ่มต้นนับอายุความใหม่
จำเลยใช้เงินบางส่วนให้โจทก์ เป็นการรับสภาพหนี้ จึงเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลง
อายุความสะดุดหยุดลงตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม ระยะเวลาที่ล่วงไปแล้วคือตั้งแต่วันหนี้ค้างชำระจนถึงวันที่ 5 ตุลาคม จึงเป็นอายุความเดิมซึ่งล่วงไปแล้ว ไม่นับเข้าในอายุความใหม่ ถ้านับด้วยก็จะเป็นนับเวลาซ้อนกันไปกับอายุความเดิมอายุความที่ให้เริ่มนับใหม่ตามมาตรานี้จึงเริ่มตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม เป็นต้นไป.
ในกรณีที่ระยะเวลานับเป็นปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 158 มิให้นับวันแรกแห่งระยะเวลารวมเข้าด้วย จึงต้องนับวันรุ่งขึ้นเป็นต้นไป.
อายุความสะดุดหยุดลงตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม ระยะเวลาที่ล่วงไปแล้วคือตั้งแต่วันหนี้ค้างชำระจนถึงวันที่ 5 ตุลาคม จึงเป็นอายุความเดิมซึ่งล่วงไปแล้ว ไม่นับเข้าในอายุความใหม่ ถ้านับด้วยก็จะเป็นนับเวลาซ้อนกันไปกับอายุความเดิมอายุความที่ให้เริ่มนับใหม่ตามมาตรานี้จึงเริ่มตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม เป็นต้นไป.
ในกรณีที่ระยะเวลานับเป็นปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 158 มิให้นับวันแรกแห่งระยะเวลารวมเข้าด้วย จึงต้องนับวันรุ่งขึ้นเป็นต้นไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 940/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความสะดุดหยุดเมื่อมีการรับสภาพหนี้ การเริ่มนับอายุความใหม่
จำเลยใช้เงินบางส่วนให้โจทก์ เป็นการรับสภาพหนี้ จึงเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลง
อายุความสะดุดหยุดลงตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม ระยะเวลาที่ล่วงไปแล้วคือตั้งแต่วันหนี้ค้างชำระจนถึงวันที่ 5 ตุลาคม จึงเป็นอายุความเดิมซึ่งล่วงไปแล้ว ไม่นับเข้าในอายุความใหม่ ถ้านับด้วยก็จะเป็นนับเวลาซ้อนกันไปกับอายุความเดิม อายุความที่ให้เริ่มนับใหม่ตามมาตรานี้จึงเริ่มตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคมเป็นต้นไป
ในกรณีที่ระยะเวลานับเป็นปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 158 มิให้นับวันแรกแห่งระยะเวลารวมเข้าด้วย จึงต้องนับวันรุ่งขึ้นเป็นต้นไป
อายุความสะดุดหยุดลงตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม ระยะเวลาที่ล่วงไปแล้วคือตั้งแต่วันหนี้ค้างชำระจนถึงวันที่ 5 ตุลาคม จึงเป็นอายุความเดิมซึ่งล่วงไปแล้ว ไม่นับเข้าในอายุความใหม่ ถ้านับด้วยก็จะเป็นนับเวลาซ้อนกันไปกับอายุความเดิม อายุความที่ให้เริ่มนับใหม่ตามมาตรานี้จึงเริ่มตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคมเป็นต้นไป
ในกรณีที่ระยะเวลานับเป็นปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 158 มิให้นับวันแรกแห่งระยะเวลารวมเข้าด้วย จึงต้องนับวันรุ่งขึ้นเป็นต้นไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 873/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสภาพหนี้ทำให้ระยะเวลาอายุความสะดุดหยุดลง แม้หนี้มีหลักฐานก็ได้ และอายุความนับใหม่จากวันรับสภาพ
แม้วันที่จำเลยได้กู้เงินโจทก์ไปถึงวันฟ้องเป็นเวลาเกิน 10 ปีแล้วก็ตามแต่เมื่อวันที่จำเลยรับสภาพหนี้นั้นถึงวันฟ้องยังไม่เกิน 10 ปีเช่นนี้ คดีโจทก์ก็ยังไม่ขาดอายุความ
การรับสภาพหนี้นั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นหนี้ที่ไม่มีหลักฐานแม้หนี้ที่มีหลักฐานกู้ยืมอยู่แล้วก็มีการรับสภาพหนี้กันได้
จำเลยทำสัญญากู้ให้โจทก์ไว้เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม2496 และต่อมาเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2501 จำเลยได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้นั้นซึ่งเป็นฉบับท้ายฟ้องโจทก์ดังนี้ เมื่อปรากฏว่าโจทก์ฟ้องเรียกหนี้เงินกู้ซึ่งจำเลยกู้ไปเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2496 ส่วนเดียวเท่านั้น ฟ้องโจทก์จึงหาใช่ฟ้องให้ชำระหนี้ ส่วนอุปกรณ์ซึ่งมีหนี้ในส่วนที่เป็นประธานแต่อย่างใดไม่ จะนำมาตรา 190 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาปรับแก่คดีนี้ไม่ได้
การรับสภาพหนี้นั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นหนี้ที่ไม่มีหลักฐานแม้หนี้ที่มีหลักฐานกู้ยืมอยู่แล้วก็มีการรับสภาพหนี้กันได้
จำเลยทำสัญญากู้ให้โจทก์ไว้เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม2496 และต่อมาเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2501 จำเลยได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้นั้นซึ่งเป็นฉบับท้ายฟ้องโจทก์ดังนี้ เมื่อปรากฏว่าโจทก์ฟ้องเรียกหนี้เงินกู้ซึ่งจำเลยกู้ไปเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2496 ส่วนเดียวเท่านั้น ฟ้องโจทก์จึงหาใช่ฟ้องให้ชำระหนี้ ส่วนอุปกรณ์ซึ่งมีหนี้ในส่วนที่เป็นประธานแต่อย่างใดไม่ จะนำมาตรา 190 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาปรับแก่คดีนี้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1896/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความค่าเสียหายจากการเช่า: การนับอายุความใหม่เมื่อมีการรับสภาพหนี้
การฟ้องเรียกค่าเสียหายอันเกี่ยวแก่สัญญาเช่านั้น จะต้องฟ้องภายในกำหนด 6 เดือนและแม้จะมีการรับสภาพหนี้กันซึ่งทำให้อายุความสดุดหยุดลง ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 172 ก็ตาม แต่เมื่อเริ่มนับใหม่ตามมาตรา 181 ก็ต้องถือว่าอายุความเดิมเป็นแต่ตั้งต้นใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4922/2563
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความบัตรเครดิต: การชำระหนี้ครั้งสุดท้ายทำให้อายุความสะดุดหยุดนับใหม่ได้
จำเลยชำระหนี้แก่โจทก์ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2558 อันเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลง ต้องเริ่มนับอายุความใหม่นับจากวันที่จำเลยชำระหนี้ครั้งสุดท้ายถึงวันฟ้องเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 ยังไม่เกิน 2 ปี ฟ้องโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ จำเลยซึ่งเป็นผู้ใช้บัตรเครดิตซึ่งเป็นบัตรเสริมจึงต้องรับผิดซำระหนี้จากการใช้บัตรเครดิตซึ่งเป็นบัตรเสริมในการซื้อสินค้าและบริการพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์