คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
น.ส.3ก.

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 53 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1038/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้อง, สิทธิครอบครอง, ที่ดินแปลงเดียวกัน, น.ส.3ก., การโต้แย้งสิทธิ
ข้อที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ การออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของโจทก์ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของโจทก์กับที่ดินตามแบบหมายเลข 3 เป็นที่ดินแปลงเดียวกันหรือไม่นั้น ปัญหาดังกล่าวจำเลยได้ยกเป็นประเด็นข้อพิพาทขึ้นโต้แย้งในการชี้สองสถานของศาลชั้นต้นและในคำแก้อุทธรณ์ของจำเลยไว้แล้ว แต่ศาลอุทธรณ์หาได้วินิจฉัยให้จำเลยไม่ จึงเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยไปทีเดียวโดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาใหม่
ที่พิพาทตาม น.ส.3 ก.เลขที่ 5141 ตำบลหนองขาม อำเภอ-ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ของโจทก์ และที่ดินตามแบบหมายเลข 3 ตำบลหนองขามอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เป็นที่ดินแปลงเดียวกันและโจทก์มีสิทธิครอบครอง การที่จำเลยนำเจ้าพนักงานที่ดินไปรังวัดที่พิพาทเพื่อออกโฉนดเป็นของจำเลย ถือได้ว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 55 โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง
ปัญหาที่ว่าการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3)เลขที่ 5141 ของโจทก์ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ แม้ศาลชั้นต้นจะกำหนดประเด็นข้อพิพาทในการชี้สองสถานไว้เพียงข้อเดียวว่า โจทก์หรือจำเลยมีสิทธิครอบครองที่พิพาทก็ตาม แต่ประเด็นข้อนี้ย่อมครอบคลุมไปถึงปัญหาข้อนี้ด้วยแล้ว ส่วนปัญหาที่ว่าที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 5141 และที่ดินตามแบบหมายเลข 3 เป็นที่ดินแปลงเดียวกันหรือไม่นั้น เมื่อปรากฏในการชี้สองสถานคู่ความทั้งสองรับกันแล้วว่าเป็นที่ดินแปลงเดียวกัน ปัญหาข้อนี้จึงเป็นอันยุติไปแล้วในศาลชั้นต้น ถือว่าเป็นข้อฎีกาที่ไม่เป็นสาระอันควรได้รับการวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1038/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้อง, สิทธิครอบครอง, น.ส.3ก. และการโต้แย้งสิทธิในที่ดิน ศาลฎีกาวินิจฉัยประเด็นที่ศาลอุทธรณ์ไม่ได้วินิจฉัย
ข้อที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่การออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของโจทก์ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่และที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของโจทก์กับที่ดินตามแบบหมายเลข3เป็นที่ดินแปลงเดียวกันหรือไม่นั้นปัญหาดังกล่าวจำเลยได้ยกเป็นประเด็นข้อพิพาทขึ้นโต้แย้งในการชี้สองสถานของศาลชั้นต้นและในคำแก้อุทธรณ์ของจำเลยไว้แล้วแต่ศาลอุทธรณ์หาได้วินิจฉัยให้จำเลยไม่จึงเป็นการไม่ชอบศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยไปทีเดียวโดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาใหม่ ที่พิพาทตามน.ส.3ก.เลขที่5141ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรีของโจทก์และที่ดินตามแบบหมายเลข3ตำบลหนองขามอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรีเป็นที่ดินแปลงเดียวกันและโจทก์มีสิทธิครอบครองการที่จำเลยนำเจ้าพนักงานที่ดินไปรังวัดที่พิพาทเพื่อออกโฉนดเป็นของจำเลยถือได้ว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา55โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง ปัญหาที่ว่าการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3)เลขที่5141ของโจทก์ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่แม้ศาลชั้นต้นจะกำหนดประเด็นข้อพิพาทในการชี้สองสถานไว้เพียงข้อเดียวว่าโจทก์หรือจำเลยมีสิทธิครอบครองที่พิพาทก็ตามแต่ประเด็นข้อนี้ย่อมครอบคลุมไปถึงปัญหาข้อนี้ด้วยแล้วส่วนปัญหาที่ว่าที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3ก.)เลขที่5141และที่ดินตามแบบหมายเลข3เป็นที่ดินแปลงเดียวกันหรือไม่นั้นเมื่อปรากฎในการชี้สองสถานคู่ความทั้งสองรับกันแล้วว่าเป็นที่ดินแปลงเดียวกันปัญหาข้อนี้จึงเป็นอันยุติไปแล้วในศาลชั้นต้นถือว่าเป็นข้อฎีกาที่ไม่เป็นสาระอันควรได้รับการวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8187/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องละเมิดต่อเนื่อง: การฟ้องให้ถอนคำคัดค้านการออก น.ส.3ก. ไม่ใช่การเรียกค่าเสียหาย
การที่จำเลยยื่นคำคัดค้านการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่ที่ดินอำเภอเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์ แต่การที่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยถอนคำคัดค้านดังกล่าวไม่ใช่เป็นการฟ้องเรียกค่าเสียหายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 คดีของโจทก์จึงไม่อยู่ในบังคับอายุความบทบัญญัติดังกล่าว นอกจากนี้คำคัดค้านการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์นั้นยังไม่มีการเปรียบเทียบต้องถือว่าคำคัดค้านนั้นยังมีอยู่ ดังนั้นแม้การที่จำเลยยื่นคำคัดค้านเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์อยู่ ในวันนั้น แต่เมื่อจำเลยไม่ยอมถอนคำคัดค้านทำให้คำคัดค้านนั้นยังมีอยู่ จึงเป็นการทำละเมิดต่อเนื่องกันตลอดมาจนถึงวันฟ้อง คดีของโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8187/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความละเมิดต่อเนื่อง: การคัดค้านการออก น.ส.3ก. จนกว่าจะมีการถอนคำคัดค้าน
แม้การที่จำเลยยื่นคำคัดค้านการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของโจทก์และสามีโจทก์เป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์ก็ตาม แต่การที่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยถอนคำคัดค้านการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของโจทก์ไม่ใช่การฟ้องเรียกค่าเสียหายอันเกิดแต่มูลละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 คดีของโจทก์จึงไม่อยู่ในบังคับอายุความตามบทบัญญัติดังกล่าว และเมื่อคำคัดค้านของจำเลยยังไม่มีการเปรียบเทียบ ต้องถือว่าคำคัดค้านนั้นยังมีอยู่ตลอดไปการที่จำเลยไม่ยอมถอนคำคัดค้านทำให้คำคัดค้านนั้นยังมีอยู่ ดังนี้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำละเมิดต่อเนื่องกันตลอดมาจนถึงปัจจุบัน คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 633/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแย่งการครอบครองต้องมีการเข้าครอบครองจริง การขอออกน.ส.3ก.ไม่ถือเป็นการแย่งการครอบครอง
ผู้แย่งการครอบครองจะต้องเข้าไปครอบครองที่ดินด้วยตนเองหรือโดยผู้แทนศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงเพียงว่าประมาณเดือนกุมภาพันธ์2531 ก. ไปบอกโจทก์ว่าได้ออกน.ส.3ก.ทับที่ดินพิพาทของโจทก์ยังไม่พอจะนำมาวินิจฉัยว่า ก.ได้แย่งการครอบครองที่ดินพิพาทตั้งแต่เวลาดังกล่าวการที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าโจทก์ทราบว่า ก. ออกน.ส.3ก.ทับที่ดินพิพาทของโจทก์ย่อมแสดงให้เห็นอยู่ในตัวว่าโจทก์ได้ทราบว่า ก. ได้แย่งการครอบครองที่ดินพิพาทตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์2531แล้วโจทก์ฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองเกินกว่าหนึ่งปีขาดสิทธิฟ้องเอาคืนเป็นคำวินิจฉัยที่ไม่ชอบเมื่อ ก. ไม่เคยเข้าไปครอบครองที่ดินพิพาทหรือให้บุคคลอื่นครอบครองแทน ก.เพียงขอออกน.ส.3ก.ทับที่ดินโจทก์แม้โจทก์ทราบการกระทำดังกล่าวของ ก.แล้วก็ไม่ใช่การแย่งการครอบครองที่ดินพิพาทจากโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4819/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องเพิกถอน น.ส.3ก. ต้องมีสิทธิครอบครองที่ดินก่อน หากไม่มีสิทธิครอบครอง โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
การฟ้องขอให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์มิได้ขอให้ห้ามจำเลยเข้าเกี่ยวข้องกับที่ดิน มิใช่เป็นการฟ้องขอให้ปลดเปลื้องการรบกวนการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1374 โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ออกให้แก่จำเลยโดยโจทก์อ้างว่าทำขึ้นโดยไม่สุจริต แต่เมื่อโจทก์ไม่อาจอ้างได้ว่าโจทก์ได้สิทธิครอบครองในที่ดินมาตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 4โดยชอบอย่างไร โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์สำหรับที่ดิน ไม่ว่าหนังสือ รับรองการทำประโยชน์จะออกโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4819/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องเพิกถอน น.ส.3ก. ต้องมีสิทธิครอบครองที่ดินก่อน หากไม่มีสิทธิครอบครอง ไม่มีอำนาจฟ้อง
การฟ้องขอให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์มิได้ขอให้ห้ามจำเลยเข้าเกี่ยวข้องกับที่ดินมิใช่เป็นการฟ้องขอให้ปลดเปลื้องการรบกวนการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1374 โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ออกให้แก่จำเลยโดยโจทก์อ้างว่าทำขึ้นโดยไม่สุจริตแต่เมื่อโจทก์ไม่อาจอ้างได้ว่าโจทก์ได้สิทธิครอบครองในที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา4โดยชอบอย่างไรโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์สำหรับที่ดินไม่ว่าหนังสือรับรองการทำประโยชน์จะออกโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3565/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดิน น.ส.3ก. และข้อสันนิษฐานตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 1373
ที่พิพาทซึ่งจำเลยครอบครองอยู่เป็นส่วนหนึ่งของที่ดินตามน.ส.3ก.ที่โจทก์มีชื่อเป็นผู้มีสิทธิครอบครองต้องด้วยข้อสันนิษฐานตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1373ว่าโจทก์ซึ่งมีชื่อในทะเบียนเป็นผู้มีสิทธิครอบครอง ข้อสันนิษฐานตามบทบัญญัติดังกล่าวรวมถึงที่ดินที่มีน.ส.3หรือน.ส.3ก.ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 350/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนชื่อจากน.ส.3ก. กรณีสิทธิร่วม และการยกคำขอเนื่องจากฎีกาต้องห้าม
คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ภาค1แสดงให้เห็นว่าโจทก์ที่3มิได้มีสิทธิแต่ผู้เดียวในที่ดินพิพาทอันจะมีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนชื่อ ท. ออกจากหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่ดินพิพาทตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ทั้งสามได้เท่านั้นหาได้เป็นการวินิจฉัยในเรื่องแบ่งปันที่ดินพิพาทจึงมิใช่เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นแต่อย่างใด ส่วนที่โจทก์ทั้งสามขอให้ถอนชื่อ ท. ออกจากน.ส.3ก.สำหรับที่ดินพิพาทนั้นศาลอุทธรณ์ภาค1วินิจฉัยว่าโจทก์ที่3และท. มีสิทธิในที่ดินพิพาทคนละครึ่งกรณีจึงไม่อาจเพิกถอนชื่อ ท.ออกจากหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่ดินพิพาทได้ย่อมมีผลเท่ากับยกคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ทั้งสามแต่ศาลอุทธรณ์ภาค1พิพากษายกฟ้องโจทก์ที่1และที่2เท่านั้นมิได้พิพากษายกฟ้องโจทก์ที่3ด้วยศาลฎีกาจึงเห็นสมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้องนอกจากนี้ที่โจทก์ทั้งสามขอให้พิพากษาว่าพินัยกรรม ท. ใช้บังคับไม่ได้นั้นศาลอุทธรณ์ภาค1วินิจฉัยว่าที่ดินพิพาทเป็นทรัพย์มรดกของ จ.ย่อมมีผลเท่ากับพินัยกรรมใช้บังคับได้แต่ศาลอุทธรณ์ภาค1พิพากษายกคำขอเฉพาะโจทก์ที่3เท่านั้นมิได้พิพากษาให้ยกคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ที่1และที่2ด้วยศาลฎีกาจึงเห็นสมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้องเช่นกัน ที่โจทก์ที่1และที่2ฎีกาว่าโจทก์ที่3ครอบครองที่ดินพิพาทแทนทายาทของ จ. ทุกคนคดีจึงไม่ขาดอายุความนั้นเป็นฎีกาในข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่าฟ้องโจทก์ที่3ขาดอายุความหรือไม่เพราะศาลต้องวินิจฉัยข้อเท็จจริงให้เป็นที่ยุติเสียก่อนว่าโจทก์ที่3ได้เข้าครอบครองที่ดินพิพาทแทนทายาทของ จ. หรือไม่จึงเป็นฎีกาในข้อเท็จจริงนอกจากนี้โจทก์ที่1และที่2ยังฎีกาอีกว่า ท. ไม่มีสิทธิในที่ดินพิพาทเพียงผู้เดียวจึงไม่อาจทำพินัยกรรมยกที่ดินทั้งแปลงให้แก่จำเลยอันเป็นการกระทำที่เกินกว่าสิทธิของตนที่พึงจะได้รับตามกฎหมายในฐานะทายาทของ จ. ขอให้ศาลพิพากษากลับและบังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นนั้นก็เป็นฎีกาโต้แย้งข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ภาค1ฟังมาว่า ท.มีสิทธิในที่ดินพิพาทเพียงครึ่งหนึ่งจึงเป็นฎีกาในข้อเท็จจริงเช่นเดียวกันปรากฏว่าคดีนี้ราคาทรัพย์สินหรือจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาทห้ามมิให้คู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา248วรรคหนึ่งดังนั้นโจทก์ที่1และที่2จึงต้องห้ามฎีกา ที่จำเลยฎีกาว่าที่ดินพิพาทไม่ใช่ทรัพย์มรดกของ จ. การที่โจทก์ที่3ได้ร่วมทำกินกับ ท. ก็ไม่อาจก่อให้เกิดสิทธิใดๆแก่โจทก์ที่3และไม่อยู่ในฐานะที่จะขอแบ่งที่ดินพิพาทได้โจทก์ทั้งสามไม่เคยเข้าเกี่ยวข้องในที่ดินพิพาทฟ้องโจทก์ทั้งสามขาดอายุความมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1754วรรคหนึ่งเป็นฎีกาโต้แย้งข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ภาค1ฟังมาจึงต้องห้ามฎีกาเช่นเดียวกันกับโจทก์ที่1และที่2ส่วนที่จำเลยฎีกาอีกว่าท. ได้แย่งการครอบครองที่ดินพิพาทมาตั้งแต่พ.ศ.2519แล้วโจทก์ทั้งสามไม่ได้โต้แย้งหรือคัดค้านภายในกำหนด1ปีนับแต่ถูกแย่งการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1375วรรคสองนั้นปรากฏว่าจำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา249วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7082/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การออก น.ส.3ก. โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลมีอำนาจวินิจฉัยแม้ไม่ใช่ประเด็นพิพาท และเพิกถอนได้
ปัญหาว่า น.ส.3 ก. ออกโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เป็นข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ไม่ได้กำหนดเป็นประเด็นข้อพิพาทหรือไม่มีคำขอของคู่ความให้วินิจฉัย ศาลก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ จำเลยเป็นผู้ซื้อที่ดินพิพาทจาก ท. และครอบครองมาโดยตลอดส่วนโจทก์มีชื่อเป็นผู้ทรงสิทธิครอบครองตาม น.ส. 3 ก.ในที่ดินพิพาทเพราะโจทก์รับสมอ้างไปดำเนินการแทนจำเลยเท่านั้นแสดงว่ามีการออก น.ส.3 ก. ในนามโจทก์ ทั้งที่โจทก์มิได้เป็นผู้ซื้อและครอบครองที่ดินพิพาท เป็นการออกโดยฝ่าฝืนต่อ ประมวลกฎหมายที่ดิน จึงไม่มีผลเป็น น.ส.3 ก. โจทก์และจำเลยต่างไม่มีสิทธิจะใช้ประโยชน์จาก น.ส.3 ก. ดังกล่าวได้ เมื่อ น.ส.3 ก.นั้นออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาเห็นสมควรให้เพิกถอนน.ส.3 ก. ฉบับนั้นเสียด้วย
of 6