พบผลลัพธ์ทั้งหมด 28 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2390/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องไม่สมบูรณ์หากไม่บรรยายองค์ประกอบความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
ปัญหาว่าคำฟ้องของโจทก์สมบูรณ์ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกาย่อมยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง
คำฟ้องของโจทก์มีสารสำคัญแต่เพียงว่า จำเลยออกเช็คเพื่อชำระหนี้แก่ผู้เสียหาย หลังจากเช็คถึงกำหนดผู้รับมอบอำนาจจากผู้เสียหายได้นำเช็คไปเรียกเก็บเงินจากธนาคาร และธนาคารตามเช็คได้ปฏิเสธการจ่ายเงินเท่านั้นโจทก์มิได้กล่าวถึงการกระทำอันเป็นองค์ประกอบความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 มาตรา 3 อนุมาตรา (1) ถึง (5) แต่ประการใด ถือได้ว่าโจทก์มิได้บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำความผิด ฟ้องโจทก์จึงไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 901/2522)
คำฟ้องของโจทก์มีสารสำคัญแต่เพียงว่า จำเลยออกเช็คเพื่อชำระหนี้แก่ผู้เสียหาย หลังจากเช็คถึงกำหนดผู้รับมอบอำนาจจากผู้เสียหายได้นำเช็คไปเรียกเก็บเงินจากธนาคาร และธนาคารตามเช็คได้ปฏิเสธการจ่ายเงินเท่านั้นโจทก์มิได้กล่าวถึงการกระทำอันเป็นองค์ประกอบความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 มาตรา 3 อนุมาตรา (1) ถึง (5) แต่ประการใด ถือได้ว่าโจทก์มิได้บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำความผิด ฟ้องโจทก์จึงไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 901/2522)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2536/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฐานะโจทก์: การฟ้องในฐานะผู้แทนโดยชอบธรรม
ในช่องชื่อโจทก์กับคำฟ้องระบุว่า ซ. โจทก์ที่ 3 แต่ในคำฟ้องบรรยายว่าโจทก์ที่ 3 เป็นบิดาและผู้แทนโดยชอบธรรมของ บ. ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากรถชนกันในคดีนี้แสดงว่าโจทก์ที่ 3 ฟ้องในฐานะผู้แทนโดยชอบธรรมของ บ. นั่นเอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2432/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเบิกความเท็จไม่สมบูรณ์ เหตุไม่ระบุความสำคัญต่อคดี
ฟ้องว่าเบิกความเท็จ บรรยายคำเบิกความที่ว่าเป็นเท็จและว่าความจริงเป็นอย่างไร กับว่า เป็นข้อสำคัญในคดีแต่มิได้บรรยายว่าสำคัญแก่คดีอย่างไร เป็นฟ้องไม่สมบูรณ์ตาม มาตรา 158(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1096/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดโทษจำเลยต้องไม่เกินที่โจทก์บรรยายในฟ้อง แม้พยานหลักฐานเพิ่มเติมจะทำให้เห็นว่ามีความผิดร้ายแรงกว่า
ตามฟ้องโจทก์บรรยายว่าจำเลยทั้งสองกับพวกอีก 2 คนใช้ปืนเป็นอาวุธขู่จะฆ่าผู้เสียหายให้ถึงตายเพื่อสะดวกแก่การลักทรัพย์พาทรัพย์ไปและให้ยื่นให้ซึ่งทรัพย์ แล้วลักทรัพย์ของผู้เสียหายไป อันเป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสอง ซึ่งต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงสิบห้าปี แม้ทางพิจารณาจะได้ความว่าในการปล้นทรัพย์นี้ จำเลยที่ 2 ใช้อาวุธปืนยิงขู่ ซึ่งมีอัตราโทษกำหนดไว้ตามวรรคสี่ มาตรา 340 จำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุก 20 ปีศาลก็ไม่อาจพิพากษาลงโทษเกินไปกว่าที่โจทก์บรรยายมาในฟ้องได้ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192
พิพากษาลงโทษจำเลยเกินไปกว่าที่โจทก์บรรยายมาในฟ้องเป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดีย่อมมีผลถึงจำเลยอื่นที่มิได้ฎีกามาด้วย
พิพากษาลงโทษจำเลยเกินไปกว่าที่โจทก์บรรยายมาในฟ้องเป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดีย่อมมีผลถึงจำเลยอื่นที่มิได้ฎีกามาด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 573/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายลักษณะเคหะในฟ้องคดีค่ากินเปล่า จำเป็นต้องระบุชัดเจนเพื่อให้จำเลยทราบถึงข้อหา
ฟ้องที่โจทก์ขอให้ศาลลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดินมาตรา 20 นั้น อาคารเช่าที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเรียกเก็บค่ากินเปล่าเป็น "เคหะ" หรือเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย เป็นองค์ประกอบอันเป็นสารสำคัญที่โจทก์จำเป็นต้องกล่าวบรรยายมาในฟ้อง ถ้าโจทก์ไม่บรรยายมา ฟ้องของโจทก์ก็ฟังลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1548/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชัดเจนของฟ้องฐานฉ้อโกง: การบรรยายความผิดฐานฉ้อโกงต้องชัดเจนและครบถ้วน
ฟ้องบรรยายว่า "วันที่ 8 ก.พ. 93 เวลากลางวัน จำเลยกล่าวเท็จหลวงลวงโจทก์ว่า มีคนต้องการซื้อผ้า จำเลยขอรับผ้าไปถ้าขายได้จะนำเงินมาให้ ถ้าขายไม่ได้จะนำผ้ามาคืนในวันที่ 9 เดือนเดียวกัน โจทก์หลงเชื่อ จึงมอบผ้าให้จำเลยรับไป ครั้งถึงวันเวลากำหนด จำเลยไม่นำเงินหรือผ้ามาคืน" และในตอนท้ายบรรยายว่า "ในระหว่างวันที่ 8 - 9 ก.พ.93 เวลาใดไม่ปรากฎ จำเลยมีเจตนาทุจริต ยักยอกทรัพย์รายนี้" ดังนี้ เป็นฟ้องที่โจทก์มุ่งหมายบรรยายหนักไปทางว่า จำเลยกระทำผิดฐานฉ้อโกง ไม่เป็นฟ้องเคลือคลุม และสมบูรณ์ เป็นฟ้องฐานฉ้อโกง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีพนัน: ไม่ต้องบรรยายวิธีเล่นโดยละเอียด
โจทก์ฟ้องบรรยายว่าจำเลยสมคบกันเล่นการพนันสลากกินรวบพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานโดยจำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดให้มีการเล่นขึ้นเพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แห่งจำเลยทั้งสองกับพวกที่ยังหลบหนีอยู่เป็นผู้เข้าเล่น ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.การพนันดังนี้ เป็นฟ้องที่ชอบด้วยวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา158(5) แล้วไม่จำเป็นจะต้องบรรยายวิธีเล่นโดยละเอียดอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 678/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภค จำเป็นต้องบรรยายรายละเอียดให้ชัดเจนว่าสินค้าที่ถูกกล่าวหามีสถานะเป็นสินค้าควบคุมจริง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคว่า จำเลยขายข้าวสารเหนียวให้แก่ผู้ไม่มีบัตรปันส่วนโดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการจังหวัดสงขลา แต่ในฟ้องไม่ได้บรรยายให้ปรากฏว่าข้าวสารเหนียวเป็นของที่คณะกรรมการประกาศควบคุมและคณะกรรมการได้ตั้งคณะกรรมการจังหวัดสงขลาเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการควบคุมข้าวเหนียวนั้นแทน ฟ้องของโจทก์ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงทั้งสองประการนั้น ทั้งประกาศคณะกรรมการจังหวัดสงขลาจะมีข้อความกล่าวอ้างอาศัยอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมายอย่างใด โจทก์มิได้ยื่นสำเนาให้ปรากฏ ดังนี้ถือว่าฟ้องยังไม่พอฟังว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 54/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องคดีอาญาต้องระบุเหตุแห่งการกระทำความผิดตามมาตราที่อ้างถึง มิฉะนั้นถือว่าฟ้องไม่ครบองค์
ฟ้องที่ขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา319(3) นั้นต้องบรรยายว่าเข้ามาตรา 319(3) เพราะเหตุใด
มิฉะนั้นถือว่า ฟ้องบรรยายไม่ครบองค์ความผิดตามมาตรานี้
ฎีกาของโจทก์ที่ขอเฉพาะให้ลงโทษจำเลยตามมาตราใดมาตราหนึ่งนั้นเมื่อลงโทษตามบทมาตราที่โจทก์ขอไม่ได้แล้วจะลงโทษตามมาตราอื่นที่ไม่ได้ขอมาได้หรือไม่ ไม่เป็นประเด็นที่จะวินิจฉัย ศาลต้องยกฟ้อง(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2493)
มิฉะนั้นถือว่า ฟ้องบรรยายไม่ครบองค์ความผิดตามมาตรานี้
ฎีกาของโจทก์ที่ขอเฉพาะให้ลงโทษจำเลยตามมาตราใดมาตราหนึ่งนั้นเมื่อลงโทษตามบทมาตราที่โจทก์ขอไม่ได้แล้วจะลงโทษตามมาตราอื่นที่ไม่ได้ขอมาได้หรือไม่ ไม่เป็นประเด็นที่จะวินิจฉัย ศาลต้องยกฟ้อง(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2493)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 181/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องหมิ่นประมาท: ข้อความที่ถูกกล่าวหาต้องระบุในฟ้องโดยบริบูรณ์
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้นำจดหมายปิดประกาศโฆษณามีข้อความหมิ่นประมาทใส่ความนายสอนกำนันตำบลนาโยงมี ใจความว่า "นายสอนกำนันเป็นคนธรรมดาขาดการศึกษาดีงาม ชอบแต่ขู่เข็ญราษฎรเพื่อหวังผลประโยชน์แก่ส่วนตัวฝ่ายเดียว ฯลฯ" ดังนี้ฟ้องของโจทก์ได้กล่าวข้อความในส่วนที่กล่าวหาว่าจำเลยหมิ่นประมาทนายสอนกำนันนั้นไว้ในฟ้องโดยบริบูรณ์ตามความหมายแห่ง ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158(5) วรรค 2 แล้ว