พบผลลัพธ์ทั้งหมด 15 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 500/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความ: บันทึกถอนคำคัดค้านมรดกมีผลผูกพันตามกฎหมาย
จำเลยไปยื่นคำร้องขอรับมรดกที่ดินของพี่ชาย ณ หอทะเบียนโจทก์ซึ่งเป็นน้องต่างบิดาคัดค้านภายหลังโจทก์จำเลยตกลงกันโดยจำเลยยอมแบ่งที่บ้านให้โจทก์ครึ่งหนึ่ง ส่วนที่นาโจทก์ไม่เกี่ยวข้องดังนี้ การที่โจทก์ลงชื่อขอถอนคำคัดค้านโดยเจ้าพนักงานที่ดิน บันทึกไว้ว่าโจทก์ไม่ติดใจเกี่ยวข้องกับที่พิพาท ยอมให้จำเลยรับมรดกไปได้ผู้เดียวนั้นบันทึกดังกล่าว แม้โจทก์จะทำกับเจ้าพนักงานผู้ไกล่เกลี่ยเปรียบเทียบก็ตามก็ย่อมถือว่าเป็นหลักฐานของสัญญาประนีประนอมยอมความอันมีผลบังคับได้อย่างหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 519/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความอุทธรณ์ภาษี: บันทึกเจ้าพนักงานสรรพากรไม่ใช่คำวินิจฉัยชี้ขาดอุทธรณ์
การอุทธรณ์คำวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งชี้ขาดเกี่ยวกับการประเมินภาษีอากรที่อำเภอไม่มีหน้าที่ประเมินนั้น ให้อุทธรณ์ต่อศาลภายใน กำหนด 15 วัน นับแต่วันได้รับแจ้งคำวินิจฉัยอุทธรณ์ เพราะกฎหมายบัญญัติไว้เป็นพิเศษเช่นนั้น
ผู้ว่าราชการจังหวัดวินิจฉัยชึ้ขาดศาลอุทธรณ์ของโจทก์และแจ้งให้โจทก์ทราบแล้ว แต่โจทก์ก็พยายามนำหลักฐานต่าง ๆ ไปแสดงต่อเจ้าพนักงานสรรพากรว่าได้ชำระภาษีนั้นแล้ว เจ้าพนักงานสรรพากรบันทึกว่าหลักฐานที่โจทก์นำมาแสดงฟังไม่ได้ โจทก์จะนับอายุอุทธรณ์แต่วันทราบคำสั่งเจ้าพนักงานสรรพากรไม่ได้ เพราะบันทึกของเจ้าพนักงานสรรพากรไม่ใช่คำวินิจฉัยชี้ขาดอุทธรณ์ของผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะวินิจฉัยอุทธรณ์แทนผู้ว่าราชการจังหวัดด้วย
ผู้ว่าราชการจังหวัดวินิจฉัยชึ้ขาดศาลอุทธรณ์ของโจทก์และแจ้งให้โจทก์ทราบแล้ว แต่โจทก์ก็พยายามนำหลักฐานต่าง ๆ ไปแสดงต่อเจ้าพนักงานสรรพากรว่าได้ชำระภาษีนั้นแล้ว เจ้าพนักงานสรรพากรบันทึกว่าหลักฐานที่โจทก์นำมาแสดงฟังไม่ได้ โจทก์จะนับอายุอุทธรณ์แต่วันทราบคำสั่งเจ้าพนักงานสรรพากรไม่ได้ เพราะบันทึกของเจ้าพนักงานสรรพากรไม่ใช่คำวินิจฉัยชี้ขาดอุทธรณ์ของผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะวินิจฉัยอุทธรณ์แทนผู้ว่าราชการจังหวัดด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 105/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบันทึกรับเงินค่าบริการตามประมวลรัษฎากร: ต้องบันทึกทุกครั้ง แม้เงินมัดจำจะต่ำกว่า 10 บาท
ตามประมวลรัษฎากรมาตรา 105 ตรี ซึ่งแก้ไขไปโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ.2496 มาตรา 44 บัญญัติให้ผู้รับเงินหรือรับชำระราคาครั้งหนึ่งๆ ไม่เกิน 10 บาท ทำบันทึกตามแบบที่อธิบดีกำหนดรวมเงินเป็นวันๆ คือ ถือตามจำนวนเงินที่รับจริงเป็นคราวๆ ไป
จำเลยรับจ้างถ่ายรูป แต่ละครั้งได้ตกลงราคาเกินกว่า 10 บาทแต่เมื่อรับเงินมัดจำไม่ถึง 10 บาทดังนี้จำเลยก็ต้องทำบันทึกกรอกรายการรับเงินทุกครั้งมิใช่รอไว้รวมรับเงินจนครบราคาค่าจ้างถ่ายรูปแล้วจึงออกใบรับปิดอากรแสตมป์ภายหลัง
จำเลยรับจ้างถ่ายรูป แต่ละครั้งได้ตกลงราคาเกินกว่า 10 บาทแต่เมื่อรับเงินมัดจำไม่ถึง 10 บาทดังนี้จำเลยก็ต้องทำบันทึกกรอกรายการรับเงินทุกครั้งมิใช่รอไว้รวมรับเงินจนครบราคาค่าจ้างถ่ายรูปแล้วจึงออกใบรับปิดอากรแสตมป์ภายหลัง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 39/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมธรรมดาเพิกถอนพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองได้ แม้ทำเป็นบันทึกต่อหน้าเจ้าพนักงานและพยาน
นายอำเภอได้บันทึกถ้อยคำเจ้ามรดกต่อหน้าผู้นั่งซึ่งลงลายมือชื่อเป็นพยาน 2 คน เจ้ามรดกให้ถ้อยคำขอถอนพินัยกรรมเดิม และแบ่งทรัพย์ให้บุตรหลานใหม่ แล้วลงลายมือชื่อต่อหน้าผู้นั่งที่ลงชื่อเป็นพยานและบันทึกนั้นลงวันเดือนปีไว้ด้วย ดังนี้ ถือว่าบันทึกนั้นเป็นพินัยกรรมตามแบบธรรมดา และมีผลลบล้างพินัยกรรมฉบับเก่าซึ่งเป็นเอกสารฝ่ายเมือง
ฟ้องอุทธรณ์จะลงชื่อศาลเดิมหรือศาลอุทธรณ์ก็มีผลเช่นเดียวกัน
ฟ้องอุทธรณ์จะลงชื่อศาลเดิมหรือศาลอุทธรณ์ก็มีผลเช่นเดียวกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1366/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบันทึกการคุมขังในสำนวนสอบสวนและการรับสารภาพของผู้ต้องหาที่ไม่คัดค้านฟ้อง
นายอำเภอสอบสวนผู้ต้องหาในคดีอาญา แล้วส่งสำนวนการสอบสวนไปให้อัยยการฟ้องโดยไม่บันทึกในสำนวนการสอบสวนลงไปว่าผู้ต้องหาได้ถูกคุมขังมาบ้างแล้วในชั้นกรมการอำเภอ เมื่อศาลพิพากษาให้ปรับผู้ต้องหา ๆ ต้องจำแทนค่าปรับตามคำพิพากษาโดยมิได้นับวันคุมขังชั้นกรมการอำเภอรวมเข้าด้วยจึงเป็นเหตุให้ผู้ต้องหาถูกคุมขังเกินกำหนดไปดังนี้จำเลยยังไม่มีผิดตามกฎหมายข้างต้น