พบผลลัพธ์ทั้งหมด 83 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 751/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำผิดร่วมกันทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส โดยมีเจตนาทำร้ายร่วมกัน
โจทก์ร่วมถูกจ.ใช้ไม้ตีที่ท้ายทอย1ทีเซถลาไปจำเลยใช้ไม้ตีที่ใบหน้าโจทก์ร่วม1ทีจากนั้นอ.และชายอีกคนหนึ่งเข้ารุมชกต่อยโจทก์ร่วมจนล้มลงเมื่ออ.พูดว่าพอแล้วบุคคลเหล่านั้นก็เลิกชกต่อยและพากันวิ่งหนีไปทางหลังโบสถ์เช่นนี้เป็นการกระทำที่ติดต่อกันในลักษณะที่ได้มีการตกลงกระทำการร่วมกันมาก่อนแล้วจำเลยจะต้องรับผิดในผลของการกระทำแต่ละคนร่วมกัน.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1265/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส ปัญหาข้อเท็จจริงเรื่องปืนลั่นและการกระทำโดยเจตนา
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288,80 ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตาม มาตรา 297ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ สำหรับความผิดตามมาตรา 297 จึงมีผลเท่ากับ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ในข้อหาพยายามฆ่า โดยอาศัยข้อเท็จจริง โจทก์จึงฎีกาข้อหาพยายามฆ่าในปัญหา ข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 220 คงฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้เฉพาะข้อหาทำร้ายร่างกาย บาดเจ็บสาหัสตามมาตรา 297 ซึ่งศาลชั้นต้นและ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับกันมา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2724/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแทงด้วยอาวุธร้ายแรงที่คอผู้เสียหาย แสดงเจตนาพยายามฆ่า แม้ผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตาย
จำเลยใช้เหล็กขูดชาฟท์แทงผู้เสียหาย 1 ที ถูกที่บริเวณคอด้านหน้าต่ำกว่าลูกกระเดือกเล็กน้อย ลึกเข้าภายในถึงหลอดลมเลือดออกมาก ผู้เสียหายมีอาการใกล้ช็อกบาดแผลรักษาทุเลาภายในเวลาประมาณ 25 วัน ขณะเกิดเหตุมีแสงไฟส่องสว่างไปทั่วบริเวณ จำเลยแทงผู้เสียหายโดยมิได้มีการวิวาทต่อสู้กัน แสดงว่าจำเลยตั้งใจแทงตรงคอซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญ การที่จำเลยใช้เหล็กขูดชาฟท์ที่มีคมถึงสามคมซึ่งถือว่าเป็นอาวุธร้ายแรงแทงผู้เสียหายโดยเลือกแทงตรงอวัยวะสำคัญเช่นนี้ ย่อมอยู่ในวิสัยที่จำเลยอาจเล็งเห็นผลของการกระทำของจำเลยว่าอาจทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้เมื่อผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตายเนื่องจากแพทย์ได้ทำการเยียวยารักษาไว้ทัน จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2243/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังคำรับสารภาพในคดีขับรถประมาททำให้ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัส โดยไม่ต้องสืบพยานเพิ่มเติม
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300พระราชบัญญัติจราจรทางบกโดยบรรยายฟ้องว่า ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บถึงทุพพลภาพและป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่า 20วัน หรือประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่า 20 วัน แม้โจทก์จะยื่นฟ้องจำเลยภายหลังวันเกิดเหตุเพียง 13 วัน เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ศาลย่อมมีอำนาจที่จะรับฟังข้อเท็จจริงตามฟ้องแล้วพิพากษาคดีโดยไม่สืบพยานได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2373/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการแทงทำร้าย ผู้เสียหายถูกแทงด้านหลังหลายครั้ง บาดเจ็บสาหัส
จำเลยใช้มีดปลายแหลมยาวประมาณ 6 นิ้ว แทงผู้เสียหายขณะหันหลังให้ จำเลยย่อมมีโอกาสที่จะเลือกแทง และแทงที่ใกล้สะบักซ้ายถึง 2 แผล อันเล็งเห็นได้ว่าอาจถูกอวัยวะสำคัญภายในถึงตายได้ บาดแผลดังกล่าวทำให้มีเลือดและลมในช่องปอด ต้องเจาะเอาเลือดออกเมื่อผู้เสียหายหันกลับมา จำเลยยังจ้วงแทงอีก 2 ครั้ง หากไม่ยกข้อศอกขึ้นรับก็คงจะถูกแทงที่หน้าอกอันเป็นอวัยวะส่วนสำคัญแห่งร่างกาย ดังนี้จำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3055/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยยิงปืนใส่ร้านค้า ผู้เสียหายถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ศาลตัดสินความผิดฐานพยายามฆ่า
จำเลยใช้อาวุธปืนยิงไปที่ร้านผู้เสียหายด้วยอาการเมาสุราขณะที่ผู้เสียหายเปิดร้านค้าอยู่ห่างจำเลยเพียง 10 เมตร โดยมีผู้คนกำลังซื้อของ จำเลยอาจเล็งเห็นผลได้ว่ากระสุนปืนอาจถูกผู้เสียหายหรือคนในร้านถึงแก่ความตายได้ เมื่อผู้เสียหายถูกกระสุนปืนที่จำเลยยิงที่บริเวณหลังใต้สะบักกระสุนฝังในได้รับอันตรายสาหัสจำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 816/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามฆ่า: การทำร้ายด้วยอาวุธมีดโกนที่คอ แม้ไม่ถึงแก่ความตาย แต่มีเจตนาฆ่า
ขณะที่ผู้เสียหายกำลังยืนดูมวยอยู่มิได้ระวังตัว จำเลยใช้มีดโกนปาด(ในลักษณะที่ชกเฉี่ยวปาด) ที่บริเวณคอผู้เสียหายมีปาดแผลยาวถึง 10 เซนติเมตร นายแพทย์สุทัศน์ (ผู้ชันสูตรบาดแผล) เบิกความว่า ที่คอมีหลอดคอกับเส้นโลหิตใหญ่เป็นอวัยวะสำคัญ บาดแผลของผู้เสียหายถูกเส้นโลหิตดำขาด แต่ไม่ถูกเส้นโลหิตแดง ถ้าหากเส้นโลหิตแดงใหญ่ขาดทำให้ถึงตายได้ การที่จำเลยเลือกทำร้ายผู้เสียหายที่อวัยวะสำคัญและกระทำโดยแรงมีบาดแผลฉกรรจ์ด้วยอาวุธมีดโกนชนิดพับได้อย่างที่ใช้กันในร้านตัดผมใบมีดยาว 5 นิ้วฟุต กว้าง 1 นิ้วมือเศษ ทั้งใบมีดและด้ามยาวคืบเศษ แสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย แต่การกระทำของจำเลยไม่บรรลุผล เมื่อผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตายจำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 380/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการแทงด้วยอาวุธอันตราย ถือเป็นความพยายามฆ่า แม้ผู้เสียหายไม่ถึงแก่ชีวิต
จำเลยใช้มีดพกปลายแหลมยาวทั้งตัวและด้ามประมาณหนึ่งคืบใบมีดกว้างขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือแทงผู้เสียหายครั้งแรกถูกที่ข้อศอกซ้าย แล้วแทงซ้ำถูกที่บริเวณเหนือราวนมด้านซ้ายอันเป็นอวัยวะส่วนสำคัญ ลึกถึงกระดูกซี่โครง เยื่อหุ้มปอดฉีกขาด ปอดข้างซ้ายแฟบลง ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติประกอบกับรายงานชันสูตรบาดแผลท้ายฟ้องปรากฏว่าถ้าผู้เสียหายไม่ได้รับการรักษาโดยทันทีด้วยการเจาะปอด จะถึงแก่ความตายเช่นนี้ถือได้ว่าจำเลยทำร้ายผู้เสียหายโดยเจตนาฆ่าผู้เสียหายให้ตาย จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 92/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสและการร่วมกันทำร้ายผู้อื่น ศาลพิจารณาเจตนาและพฤติการณ์
จำเลยจับมือ ณ. ผู้เสียหายบิดไว้ ทำให้พวกของจำเลยมีโอกาสเลือกแทงได้ แต่พวกของจำเลยกลับใช้มีดพกปลายแหลมยาวเกือบ 1 คืบ แทง ณ. บริเวณด้านหลังมีบาดแผล 2 แห่ง ยาวแผลละ 2 เซนติเมตร แผลที่หนึ่งลึกเพียง 1 เซนติเมตร แสดงว่าไม่ได้ตั้งใจแทงโดยแรง แผลที่สองเยื้องไปทางขวาบังเอิญมีดทะลุไปถูกไตต้องตัดไตข้างขวาออก และรักษาตัวราว 27 วัน ออกจากโรงพยาบาลไป ยังไม่พอที่จะแสดงให้เห็นเจตนาว่าจะฆ่า จำเลยคงมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส
เมื่อพวกของจำเลยแทง ย. ผู้เสียหายแล้ว ย. วิ่งหนี จำเลยกับพวกวิ่งไล่ตามไป แสดงว่าร่วมกันจะทำร้าย ย. อีก ครั้นตามไปทัน พวกของจำเลยใช้มีดแทง ย. จำเลยต้องมีความผิดฐานเป็นตัวการทำร้าย ย. ด้วย
เมื่อพวกของจำเลยแทง ย. ผู้เสียหายแล้ว ย. วิ่งหนี จำเลยกับพวกวิ่งไล่ตามไป แสดงว่าร่วมกันจะทำร้าย ย. อีก ครั้นตามไปทัน พวกของจำเลยใช้มีดแทง ย. จำเลยต้องมีความผิดฐานเป็นตัวการทำร้าย ย. ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 92/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำร้ายร่างกาย vs. พยายามฆ่า และการร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น
จำเลยจับมือ ณ. ผู้เสียหายปิดไว้ ทำให้พวกของจำเลยมีโอกาสเลือกแทงได้แต่พวกของจำเลยกลับใช้มีดพกปลายแหลมยาวเกือบ 1 คืบ แทง ณ บริเวณด้านหลังมีบาดแผล 2 แห่ง ยาวแผลละ 2 เซนติเมตร แผลที่หนึ่งลึกเพียง 1 เซนติเมตรแสดงว่าไม่ได้ตั้งใจแทงโดยแรง แผลที่สองเยื้องไปทางขวาบังเอิญมีดทะลุไปถูกไตต้องตัดไตข้างขวาออก และรักษาตัวราว 27 วันก็ออกจากโรงพยาบาลไป ยังไม่พอที่จะแสดงให้เห็นเจตนาว่าจะฆ่า จำเลยคงมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส
เมื่อพวกของจำเลยแทงย. ผู้เสียหายแล้ว ย. วิ่งหนีจำเลยกับพวกวิ่งไล่ตามไปแสดงว่าร่วมกันจะทำร้ายย.อีก ครั้นตามไปทันพวกของจำเลยใช้มีดแทง ย. จำเลยต้องมีความผิดฐานเป็นตัวการทำร้าย ย. ด้วย
เมื่อพวกของจำเลยแทงย. ผู้เสียหายแล้ว ย. วิ่งหนีจำเลยกับพวกวิ่งไล่ตามไปแสดงว่าร่วมกันจะทำร้ายย.อีก ครั้นตามไปทันพวกของจำเลยใช้มีดแทง ย. จำเลยต้องมีความผิดฐานเป็นตัวการทำร้าย ย. ด้วย