คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ปฏิเสธข้อกล่าวหา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 14 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1660/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปฏิเสธข้อกล่าวหาเป็นผู้กู้ร่วม และการนำสืบพยานบุคคลเพื่อพิสูจน์สถานะในสัญญา
จำเลยที่ 2 ให้การว่าไม่เคยกู้เงินโจทก์ เซ็นชื่อในหนังสือสัญญากู้ในฐานะเป็นภริยาของจำเลยที่ 1 เท่านั้น คำให้การดังกล่าวเท่ากับปฏิเสธฟ้องโจทก์ว่า จำเลยที่ 2 ไม่ได้เป็นคู่สัญญากับโจทก์ในฐานะเป็นผู้กู้ร่วม กับจำเลยที่ 1 คดีจึงมีประเด็นตามข้อต่อสู้ของจำเลยที่ 2 ที่ศาล จะต้องพิจารณาให้ได้ความต่อไป ศาลชั้นต้นให้งดสืบพยานเป็นการไม่ถูกต้อง
เมื่อข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้แน่ชัดว่า จำเลยที่ 2 ลงชื่อในเอกสารสัญญากู้ ในฐานะเป็นผู้กู้ร่วมกับจำเลยที่1 หรือลงชื่อในฐานะเป็นภริยาผู้ให้ความยินยอม การนำสืบในประเด็นตามข้อต่อสู้ของจำเลยที่ 2 จึงไม่เป็นการต้องห้ามมิให้ นำสืบพยานบุคคลแทนพยานเอกสาร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1761/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องและหน้าที่การนำสืบพยาน: ประเด็นการยืมเงินและการปฏิเสธข้อกล่าวหา
จำเลยกล่าวไว้ในตอนท้ายคำให้การว่า "อย่างไรก็ดีโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องข้าพเจ้าเป็นจำเลย" เหตุใดจึงกล่าวว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องหาได้แสดงข้ออ้างอิงแต่ประการใดไม่ ทั้งจำเลยมิได้ให้การตัดฟ้องว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย ดังนี้ศาลได้แต่เพียงแปลความหมายว่าคำกล่าวที่ว่าไม่มีอำนาจฟ้องเนื่องมาจากคำให้การของจำเลยในตอนต้นๆเช่นที่กล่าวว่าจำเลยเป็นตัวแทนของโจทก์ๆ จึงไม่มีอำนาจฟ้องหาใช่เรื่องตัดฟ้องไม่ จึงไม่มีประเด็น และมิจำเป็นที่ศาลจะวินิจฉัยเลยไปถึงว่า โจทก์จะเป็นผู้มีอำนาจฟ้องคดีหรือไม่
ข้อเท็จจริงใดที่โจทก์กล่าวในฟ้องจำเลยจะต้องให้การปฏิเสธหรือคัดค้านหรือจะแก้ว่าอย่างใดก็ได้ หากจำเลยมิได้ปฏิเสธหรือคัดค้าน หรือแก้ว่าอย่างใดเลยถือว่าข้อเท็จจริงนั้น ไม่มีประเด็นอันโจทก์จะต้องนำสืบ
ในเรื่องการบอกกล่าวล่วงหน้าการทวงหนี้โจทก์กล่าวในฟ้องว่าโจทก์ได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งให้จำเลยจัดการชำระเงินที่ค้าง จำเลยไม่ชำระ ซึ่งในข้อนี้จำเลยมิได้ปฏิเสธหรือคัดค้านหรือแก้ว่าอย่างใดเลย จึงไม่มีประเด็นอันโจทก์จะต้องนำสืบด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปฏิเสธข้อกล่าวหาและการพิสูจน์ความเท็จของคำแจ้งความ จำเลยให้การปฏิเสธ โจทก์มีหน้าที่พิสูจน์ความเท็จ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยแจ้งปริมาณข้าวซึ่งอยู่ในความครอบครองของจำเลยเป็นเท็จ ขอให้ลงโทษ จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นกสิกรได้รับยกเว้นไม่ต้องแจ้งปริมาณข้าว ทั้งข้อความที่จำเลยแจ้งต่อเจ้าพนักงานก็เป็นความจริง ดังนี้จะฟังว่าจำเลยให้การรับตามฟ้องไม่ได้ กลับแสดงให้เห็นชัดว่าจำเลยให้การปฏิเสธตลอดข้อหา จึงเป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องนำสืบให้ได้ความว่าคำแจ้งความของจำเลยเป็นเท็จ เมื่อโจทก์ไม่สืบพยาน ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2219/2553

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้ามตามมาตรา 249 วรรคหนึ่ง และการปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ขัดแย้งกัน ทำให้ไม่อาจสืบพยานได้
เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาว่า โจทก์ทำสัญญาซื้อขายบ้านกับ ป. โจทก์จึงเป็นเจ้าของบ้าน และการบอกเลิกการเช่าเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเป็นประเด็นพิพาทกัน จำเลยไม่อุทธรณ์โต้เถียงในประเด็นดังกล่าว ข้อเท็จจริงจึงรับฟังยุติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยยกประเด็นดังกล่าวขึ้นมาฎีกาเป็นการกล่าวอ้างข้อเท็จจริงที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในชั้นอุทธรณ์ ต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่ง
โจทก์ฟ้องว่านับแต่จำเลยเช่าบ้านจากโจทก์ จำเลยชำระค่าเช่าแก่โจทก์เดือนละ 16,000 บาท ตามที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่ามาตลอด และนับแต่เดือนมีนาคม 2540 เป็นต้นมา จำเลยก็ไม่ชำระค่าเช่าแก่โจทก์อีกจนกระทั่งถึงวันฟ้อง ซึ่งในข้อนี้จำเลยให้การและนำสืบว่า จำเลยชำระค่าเช่าแก่โจทก์มาตลอดจนกระทั่งถูกโจทก์ฟ้องจำเลยจึงไม่ชำระแก่โจทก์ ขณะเดียวกันจำเลยได้ให้การต่อสู้ด้วยว่าหากฟังว่าจำเลยไม่ชำระค่าเช่า เมื่อนับระยะเวลาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2540 ที่จำเลยผิดนัดถึงวันฟ้อง คดีของโจทก์ก็ขาดอายุความแล้ว คำให้การดังกล่าวจึงขัดแย้งกันเท่ากับมิได้ปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ ไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 177 วรรคสอง จำเลยจึงไม่มีสิทธิสืบพยานตามที่ให้การต่อสู้
of 2