พบผลลัพธ์ทั้งหมด 46 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1241/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการคำนวณค่าธรรมเนียมใบอนุญาตค้าอาหาร: พิจารณาจากพื้นที่ใช้ประกอบการค้าทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะพื้นที่วางขาย
เทศบัญญัติของเทศบาลนครกรุงเทพ เรื่องควบคุมการค้าอาหารและน้ำแข็งในสถานที่เอกชน(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2505 มุ่งควบคุมสถานที่ที่ใช้เป็นที่ทำการค้าสถานที่ใช้ประกอบการค้าตามความของเทศบัญญัติฉบับนี้ จึงต้องหมายถึงสถานที่ที่ใช้ประกอบการค้าทั้งหมด หาได้หมายถึงเฉพาะที่ตั้งสำหรับวางขายสินค้าเท่านั้นไม่ เมื่อร้านค้าของโจทก์ที่ใช้เป็นที่ขายอาหารบรรจุขวดมีเนื้อที่ 60 ตารางเมตร โจทก์ก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาตตามอัตรา 60 ตารางเมตร ที่ระบุไว้ตามบัญชีอัตราค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาตนั้นจะเสียเฉพาะเนื้อที่ตรงที่ตั้งตู้และชั้นวางขายอาหาร หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 161/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของเจ้าของรวม, การเช่าเพื่อประกอบการค้า vs. อยู่อาศัย, และการบอกเลิกสัญญาเช่า
เจ้าของรวมแต่ผู้เดียวย่อมมีอำนาจฟ้องเกี่ยวกับทรัพย์ซึ่งตนมีกรรมสิทธิ์ร่วมกับผู้อื่นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1359 โดยไม่ต้องรับมอบอำนาจจากเจ้าของรวมคนอื่นๆ
เมื่อจำเลยอ้างสิทธิว่าที่พิพาทจำเลยปลูกสร้างเคหะใช้เป็นที่อยู่อาศัย ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายก็ต้องวินิจฉัยตามสภาพที่เป็นจริงแห่งการเช่าว่าเป็นการเช่าเพื่ออยู่อาศัยหรือเพื่อประกอบการค้า ซึ่งคู่ความอาจนำสืบพยานบุคคลได้ ไม่เป็นการสืบเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงหนังสือสัญญาเช่า อันต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 เพราะการเช่าที่มีการอ้างถึงความคุ้มครองเช่นนี้ย่อมฟ้องร้องกันได้ โดยไม่ต้องอาศัยหลักฐานเป็นหนังสือ
เมื่อจำเลยอ้างสิทธิว่าที่พิพาทจำเลยปลูกสร้างเคหะใช้เป็นที่อยู่อาศัย ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายก็ต้องวินิจฉัยตามสภาพที่เป็นจริงแห่งการเช่าว่าเป็นการเช่าเพื่ออยู่อาศัยหรือเพื่อประกอบการค้า ซึ่งคู่ความอาจนำสืบพยานบุคคลได้ ไม่เป็นการสืบเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงหนังสือสัญญาเช่า อันต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 เพราะการเช่าที่มีการอ้างถึงความคุ้มครองเช่นนี้ย่อมฟ้องร้องกันได้ โดยไม่ต้องอาศัยหลักฐานเป็นหนังสือ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 710/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าตึกเพื่อประกอบการค้า แม้จะให้ภริยาดำเนินการแทน ก็ถือเป็นการค้า มิใช่การอยู่อาศัย
จำเลยขายก๋วยเตี๋ยว กาแฟ น้ำแข็ง ในตึกพิพาทจดทะเบียนการค้ามีลูกจ้าง 5-6 คน มีตู้อาหาร โต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งกินดังนี้ หาใช่ว่าเป็นการค้าเล็กน้อยไม่
แม้จำเลยจะไม่ทำการค้าในตึกพิพาท แต่ให้ภริยาทำ ก็ถือว่าเป็นการค้าของจำเลย
จำเลยสืบพยานไปแล้ว 6 ปาก เป็นทำนองเดียวกัน ในเรื่องภริยาจำเลยทำการค้า จำเลยจะขอสืบเพิ่มเติมในข้อที่จำเลยเช่าอยู่อาศัยซึ่งไม่มีอะไรจะสืบนอกเหนือจากที่สืบไว้แล้วแม้ปล่อยให้สืบก็จะไม่ทำให้การวินิจฉัยข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไป เช่นนี้ย่อมเป็นการประวิงคดี
แม้จำเลยจะไม่ทำการค้าในตึกพิพาท แต่ให้ภริยาทำ ก็ถือว่าเป็นการค้าของจำเลย
จำเลยสืบพยานไปแล้ว 6 ปาก เป็นทำนองเดียวกัน ในเรื่องภริยาจำเลยทำการค้า จำเลยจะขอสืบเพิ่มเติมในข้อที่จำเลยเช่าอยู่อาศัยซึ่งไม่มีอะไรจะสืบนอกเหนือจากที่สืบไว้แล้วแม้ปล่อยให้สืบก็จะไม่ทำให้การวินิจฉัยข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไป เช่นนี้ย่อมเป็นการประวิงคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1238/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้สิทธิในที่ดินของผู้อื่นเพื่อประกอบการค้าโดยไม่มีหลักฐานการเช่า สิทธิในการอยู่อาศัยสิ้นสุดลงเมื่อเจ้าของที่ดินบอกเลิก
จำเลยปลูกบ้านอยู่ในที่พิพาทและเลี้ยงหมู เป็ด ไก่ ส่วนบริวารจำเลยนอกจากจะเลี้ยงหมู เป็ด ไก่ ยังตั้งโรงทำไอสครีม และโรงทำเต้าหู้ขาย จึงเป็นการใช้ที่พิพาทเพื่อประกอบการค้า หากจะฟังว่าจำเลยอยู่ในที่พิพาทด้วยการเช่า จำเลยก็ไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันฯ
การเช่าต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดมาแสดงว่ายอมให้เช่า เมื่อไม่มีก็ต้องฟังตามโจทก์ว่าจำเลยอยู่ในที่พิพาทโดยอาศัยสิทธิของโจทก์ซึ่งมิใช่สิทธิในการเช่า เมื่อโจทก์บอกเลิกการอาศัยแล้วจำเลก็ไม่มีสิทธิจะอยู่ในที่พิพาทได้ต่อไป
การเช่าต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดมาแสดงว่ายอมให้เช่า เมื่อไม่มีก็ต้องฟังตามโจทก์ว่าจำเลยอยู่ในที่พิพาทโดยอาศัยสิทธิของโจทก์ซึ่งมิใช่สิทธิในการเช่า เมื่อโจทก์บอกเลิกการอาศัยแล้วจำเลก็ไม่มีสิทธิจะอยู่ในที่พิพาทได้ต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1238/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ที่ดินเพื่อประกอบการค้าโดยไม่มีหลักฐานการเช่า ไม่ได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
จำเลยปลูกบ้านอยู่ในที่พิพาทและเลี้ยงหมู เป็ด ไก่ส่วนบริวารจำเลยนอกจากจะเลี้ยงหมู เป็ด ไก่ ยังตั้งโรงทำไอสครีมและโรงทำเต้าหู้ขาย จึงเป็นการใช้ที่พิพาทเพื่อประกอบการค้า หากจะฟังว่าจำเลยอยู่ในที่พิพาทด้วยการเช่า จำเลยก็ไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันฯ
การเช่าต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดมาแสดงว่ายอมให้เช่า เมื่อไม่มีก็ต้องฟังตามโจทก์ว่าจำเลยอยู่ในที่พิพาทโดยอาศัยสิทธิของโจทก์ซึ่งมิใช่สิทธิในการเช่า เมื่อโจทก์บอกเลิกการอาศัยแล้วจำเลยก็ไม่มีสิทธิจะอยู่ในที่พิพาทได้ต่อไป
การเช่าต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดมาแสดงว่ายอมให้เช่า เมื่อไม่มีก็ต้องฟังตามโจทก์ว่าจำเลยอยู่ในที่พิพาทโดยอาศัยสิทธิของโจทก์ซึ่งมิใช่สิทธิในการเช่า เมื่อโจทก์บอกเลิกการอาศัยแล้วจำเลยก็ไม่มีสิทธิจะอยู่ในที่พิพาทได้ต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1038/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าตึกเพื่อประกอบการค้าขนาดใหญ่ ไม่เข้าข่ายเคหะที่ได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.การเช่าเคหะและที่ดิน
จำเลยเป็นแพทย์แผนโบราณ มีอาชีพรับรักษาโรค จำเลยเช่าตึกแถวพิพาท ได้ทำสัญญาเช่ากับเจ้าของเดิมหลายครั้ง เสียเงินกินเปล่าทุกครั้ง จำเลยตั้งเครื่องบดยาไฟฟ้าในตึกพิพาท รับจ้างบดยาสมุนไพรและทำยาผงไทยให้เป็นเม็ด ได้จดทะเบียนพาณิชย์ ฟังได้ว่าจำเลยประกอบการค้าเป็นล่ำเป็นสัน ไม่ใช่ประกอบกิจการเล็กน้อย และได้ใช้ตึกพิพาทเปิดเป็นร้านตัดผมด้วย ตึกพิพาทอยู่ในทำเลการค้า ฟังได้ว่าจำเลยเช่าตึกพิพาทเพื่อประกอบการค้า แม้จำเลยจะใช้เป็นที่อยู่อาศัยด้วยก็ไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504 มาตรา 4.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1038/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าเคหะเพื่อประกอบการค้า ไม่ได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่าเคหะฯ แม้ใช้เป็นที่อยู่อาศัยด้วย
จำเลยเป็นแพทย์แผนโบราณ มีอาชีพรับรักษาโรค จำเลยเช่าตึกแถวพิพาทได้ทำสัญญาเช่ากับเจ้าของเดิมหลายครั้ง เสียเงินกินเปล่าทุกครั้ง จำเลยตั้งเครื่องบดยาไฟฟ้าในตึกพิพาท รับจ้างบดยาสมุนไพรและทำยาผงไทยให้เป็นเม็ด ได้จดทะเบียนพาณิชย์ฟังได้ว่าจำเลยประกอบการค้าเป็นล่ำเป็นสัน ไม่ใช่ประกอบกิจการเล็กน้อย และได้ใช้ตึกพิพาทเปิดเป็นร้านตัดผมด้วย ตึกพิพาทอยู่ในทำเลการค้า ฟังได้ว่าจำเลยเช่าตึกพิพาทเพื่อประกอบการค้า แม้จำเลยจะใช้เป็นที่อยู่อาศัยด้วย ก็ไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504 มาตรา 4
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 237/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เปลี่ยนวัตถุประสงค์การเช่าจากที่อยู่อาศัยเป็นค้า ศาลไม่คุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมเช่า
แม้ในชั้นแรก ผู้เช่าจะใช้ตึกพิพาทเป็นที่อยู่อาศัยก็ตาม แต่ต่อมาเมื่อผู้เช่าได้ใช้ตึกพิพาทเป็นที่ประกอบการค้าแล้ว ผู้เช่าย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดินฯ และโดยที่เรื่องนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมาย ศาลจึงย่อมวินิจฉัยได้โดยไม่ต้องสืบพยาน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1758-1762/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นการเช่าเพื่อประกอบการค้าหรืออยู่อาศัยเกิดขึ้นเมื่อจำเลยอ้างเป็นข้อต่อสู้ โจทก์ไม่จำเป็นต้องกล่าวในฟ้อง
ในคดีที่ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากตึกแถวที่ให้เช่า จะมีประเด็นว่า จำเลยเช่าเพื่อประกอบการค้าหรือเช่าเพื่ออยู่อาศัยก็ต่อเมื่อจำเลยต่อสู้ว่า จำเลยเช่าเพื่ออยู่อาศัยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯ เมื่อกรณีจะเกิดเป็นประเด็นต่อเมื่อจำเลยอ้างขึ้นเป็นข้อต่อสู้ โจทก์ไม่จำเป็นต้องกล่าวเป็นประเด็นมาในฟ้อง (ว่าจำเลยเช่าเพื่อประกอบการค้าหรือว่าจำเลยทำการค้าในตึกพิพาท)
เมื่อจำเลยต่อสู้ว่าการเช่าของจำเลยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯ ก็เป็นหน้าที่ของจำเลยที่จะต้องนำสืบให้รับฟังได้ตามที่ตนอ้าง
เมื่อจำเลยต่อสู้ว่าการเช่าของจำเลยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯ ก็เป็นหน้าที่ของจำเลยที่จะต้องนำสืบให้รับฟังได้ตามที่ตนอ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 557/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าตึกเพื่อประกอบการค้า ไม่ถือเป็นเคหะ จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
ตึกพิพาทอยู่ในทำเลการค้า ผู้เช่าได้ทำการอันทางการเทศบาลถือว่าเป็นกาค้า และตามความจริงก็ฟังได้ว่าผู้เช่าได้ทำการค้า ในสัญญาเช่าก็ระบุว่าเช่าเพื่อประกอบการค้า ตึกพิพาทจึงไม่ใช่เคหะ ไม่ต้องคำนึงว่าจะได้ใช้เป็นที่อยู่อาศัยด้วยหรือไม่