คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ประกอบอาชีพ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 32 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2358/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอพิจารณาคดีใหม่และการประเมินค่าเสียหายจากความสูญเสียในการประกอบอาชีพ
กรณีที่จำเลยจะขอให้พิจารณาคดีใหม่ได้จะต้องเป็นเรื่องที่จำเลยขาดนัดพิจารณาและศาลมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาเสียก่อน การที่จำเลยไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานจำเลย และศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยประวิงคดีไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีและถือว่าจำเลยไม่ติดใจนำพยานเข้าสืบนั้นมิใช่เรื่องจำเลยขาดนัดพิจารณาจำเลยจะขอให้พิจารณาคดีใหม่หาได้ไม่
แม้จะพิจารณาจากฎีกาของจำเลยที่ขอให้พิจารณาคดีดังกล่าวใหม่ว่าจำเลยมุ่งหมายที่จะให้ยกคำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีแล้วให้จำเลยนำพยานเข้าสืบ แต่คำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาซึ่งจำเลยจะต้องโต้แย้งเสียก่อนจึงจะมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งนั้นได้ เมื่อมิได้โต้แย้งไว้ก็อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวไม่ได้ แม้ศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยในข้อนี้ในข้อนี้ให้จำเลยก็หามีสิทธิฎีกาต่อมาไม่ ศาลฎีกาย่อมให้ยกฎีกาของจำเลยดังกล่าว
โจทก์เป็นผู้เยาว์ช่วยมารดาขายของ นำของไปเร่ขายวันหนึ่งมีกำไร 10 บาทแม้จะเป็นการช่วยมารดาขายของ ก็เป็นการประกอบอาชีพอันเป็นความสามารถในการประกอบการงานและทางทำมาหาได้ของโจทก์นั่นเอง เมื่อโจทก์สามารถขายของมีกำไรวันละ 10 บาท และโจทก์ต้องเสียความสามารถดังกล่าวไปเพราะการละเมิดของจำเลย จำเลยก็ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ อันเป็นค่าเสียหายเพื่อการที่เสียความสามารถประกอบการงานสิ้นเชิงหรือแต่บางส่วนทั้งในเวลาปัจจุบันและในอนาคตตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 444 และในการคิดค่าเสียหาย ศาลชอบที่จะคิดจากการที่โจทก์เคยมีรายได้วันละ 10 บาทได้ หาใช่ว่าหากก่อนเกิดเหตุโจทก์ไม่ได้ทำงานทุกวัน จะต้องหักวันที่โจทก์ไม่ทำงานออกเสียก่อนไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2038/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกำหนดภูมิลำเนาเพื่อสิทธิในการร้องขอให้บุคคลสาบสูญ แม้มีการไปประกอบอาชีพชั่วคราว
ซ. บุตรผู้ร้องได้อยู่กับผู้ร้องที่ตลาดชุมแสงตั้งแต่เล็ก ๆ และได้เข้าเรียนหนังสือที่โรงเรียนจีนในอำเภอชุมแสง ต่อมา ซ. มาเรียนต่อที่จังหวัดพระนครจนสำเร็จแล้วสมัครเป็นครูโรงเรียนจีนสอนอยู่ประมาณปีเศษ ก็ถูกศาลลงโทษฐานเป็นอั้งยี่และถูกเนรเทศไปประเทศจีนก่อนถูกเนรเทศ ซ. มีภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ตามทะเบียนบ้านและใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว ดังนี้ แม้ ซ. จะไปประกอบอาชีพชั่วคราว ณ จังหวัดพระนครก็ตาม ก็ยังถือไม่ได้ว่า ซ. มีเจตนาจะเปลี่ยนภูมิลำเนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1391/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อันตรายสาหัสจากการทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาบาดแผล, ระยะเวลาพักรักษาตัว, และผลกระทบต่อการประกอบอาชีพ
แม้ตามรายงานชันสูตรบาดแผลประกอบคำเบิกความของแพทย์จะลงความเห็นว่ารักษา 20 วันหาย เมื่อปรากฏบาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับมี 5 แห่ง บาดแผลสำคัญคือแผลถูกแทงที่หน้าท้องกว้าง 0.5 เซนติเมตร ยาว 1 เซนติเมตร ลึก 2.5 เซนติเมตร ประกอบกับคำของผู้เสียหายว่ารักษาตัวที่สถานีอนามัยและที่บ้านรวม 24 วันแผลจึงหาย ทั้งยังต้องพักรักษาตัวอยู่อีก 2 เดือน จึงทำงานได้ตามปกติ เช่นนี้ นับได้ว่าผู้เสียหายประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่า 20 วัน เป็นอันตรายสาหัส

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1898/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ร่วมสามีภริยาจากการลงทุนประกอบอาชีพ: ยึดทรัพย์สินใช้หนี้ได้ แม้เป็นสินสมรสหรือสินเดิม
กู้เงินมาลงทุนเพื่อประกอบอาชีพหาเลี้ยงครอบครัว จึงเป็นหนี้ร่วมของจำเลยและผู้ร้องซึ่งเป็นสามีภริยากัน. สวนพิพาทไม่ว่าจะเป็นสินสมรสหรือสินเดิม. จึงเป็นสินบริคณห์ที่โจทก์นำยึดใช้หนี้ได้ทั้งสิ้น.
โจทก์มิใช่อิสลามศาสนิก. จะบังคับคดีตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการใช้กฎหมายอิสลามในเขตจังหวัดปัตตานีฯลฯ พ.ศ.2489มาตรา 3 มิได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 966/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บาดเจ็บสาหัสจากการถูกทำร้ายด้วยสนับมือ ส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพทำนาเกิน 20 วัน
ได้ความว่าผู้เสียหายมีอาชีพทำนาถูกชกด้วยสนับมือมีบาดแผลที่ขอบตาล่างขวาฉีกลึก 1 ซม.ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาท 20 วันก่อนระหว่างนั้นทำงานไม่ได้ ดังนี้ถือได้ว่าผู้เสียหายไม่สามารถประกอบการหาเลี้ยงชีพได้ปกติเกิน 20 วันอันเป็นบาดเจ็บสาหัส

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 145/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สถานที่เช่าเพื่ออยู่อาศัยและประกอบอาชีพส่วนตัว ไม่ถือเป็นการประกอบการค้า
แม้ตึกเช่าจะอยู่ในทำเลการค้าก็ดีแต่ทางพิจารณาที่ได้ความประกอบกับสถานที่ซึ่งศาลไปตรวจ มิได้แสดงให้เห็นว่าจำเลยได้ใช้สถานที่นั้นเป็นที่ประกอบการค้า หากใช้เป็นที่อยู่อาศัยและติดป้ายแสดงเพื่อให้คนมาว่าจ้างไปทำไฟฟ้า เป็นการประกอบอาชีพของจำเลยการกระทำเช่นนี้ ไม่เพียงพอที่จะถือว่าเข้าอยู่ในลักษณะประกอบการค้าในห้องเช่าตามนัยฎีกาที่ 1099-1147/2491 จำเลยย่อมได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1008/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คนต่างด้าวขับรถสาธารณะไม่เป็นผิด พ.ร.บ.ช่วยอาชีพ หากไม่เป็นการประกอบอาชีพ
คนต่างด้าวขับรถยนต์สาธารณะทดลองเครื่องแล้วรับเพื่อนไปส่งบ้านโดยไม่คิดค่าโดยสารแม้เพื่อนจะเติมน้ำมันรถยนต์ให้เป็นการช่วยเหลือบ้างก็มิใช่เป็นการรับจ้างเป็นอาชีพ จึงยังไม่เป็นผิดตาม พ.ร.บ.ช่วยอาชีพและวิชาชีพ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 43/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บาดแผลสาหัสจากการถูกทำร้ายร่างกาย: เกณฑ์การพิจารณาความสามารถในการประกอบอาชีพ
ถูกแทงที่สีข้างเป็นแผลฉกรรจ์ลึกเข้าช่องท้องถูกตับและกระบังลม ต้องทำการผ่าตัดและต้องนอนอยู่กับที่ในโรงพยาบาล 22 วัน และทุเลาการใช้กำลังอีกราว 10 วัน ไปรับราชการตามปกติไม่ได้ ถือว่าไม่สามารถจะประกอบการหาเลี้ยงชีพได้โดยปกติเกินกว่า 20 วัน เป็นบาดแผลสาหัสตาม ม.256(8) ผู้ถูกทำร้ายจะได้รับเงินเดือนและเบี้ยเลี้ยงในระหว่างนั้นหรือไม่ ไม่สำคัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 43/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บาดแผลสาหัสและการประกอบอาชีพ: เกณฑ์การพิจารณาความทุพพลภาพเกิน 20 วัน
ถูกแทงที่สีข้างเป็นแผลฉกรรจ์ลึกเข้าช่องท้องถูกตับและกระบังลมต้องทำการผ่าตัดและต้องนอนอยู่กับที่ในโรงพยาบาล 22 วัน และทุเลาการใช้กำลังอีกราว 10 วัน ไปรับราชการตามปกติไม่ได้ ถือว่า ไม่สามารถจะประกอบการหาเลี้ยงชีพได้โดยปกติเกินกว่า 20 วันเป็นบาดแผลสาหัสตาม มาตรา 256(8) ผู้ถูกทำร้ายจะได้รับเงินเดือนและเบี้ยเลี้ยงในระหว่างนั้นหรือไม่ ไม่สำคัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1401/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนไม่สามารถประกอบอาชีพได้เกิน 20 วัน ถือเป็นเหตุให้ถึงสาหัส
จำเลยได้ทำร้ายผู้เสียหายมีบาดเจ็บไม่สามารถทำการกรีดยางได้เกินกว่า 20 วัน และการประกอบการหาเลี้ยงชีพของผู้เสียหาย คือ การรับจ้างกรีดยาง ดังนี้ ฟังได้ว่า บาดแผลของผู้เสียหายไม่สามารถประกอบการหาเลี้ยงชีพโดยปรกติกว่า 20 วัน.
of 4