คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ประเด็นข้อต่อสู้

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 21 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1958/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้การต่อสู้คดีของผู้ค้ำประกัน และผลของการไม่ยกประเด็นระงับหนี้ตามสัญญาประนีประนอม
คำให้การของจำเลยมิได้กล่าวโดยชัดแจ้งว่าสัญญาประนีประนอมระหว่างโจทก์กับลูกหนี้ในคดีเรื่องก่อน ทำให้หนี้ตามสัญญากู้ระงับสิ้นไป อันทำให้จำเลยผู้ค้ำประกันหลุดพ้นจากความรับผิดตามมาตรา 698 คำให้การจำเลยกล่าวแต่เพียงว่าสัญญาประนีประนอมยอมผ่อนเวลาชำระหนี้ให้แก่ ส. ลูกหนี้ทำให้จำเลยหลุดพ้นจากความรับผิดตามมาตรา 700 เท่านั้น ยิ่งกว่านั้น ในการชี้สองสถาน จำเลยยังแถลงรับว่า ที่จำเลยไม่ต้องรับผิดก็เพราะโจทก์ยอมผ่อนเวลาให้ ส. โดยจำเลยมิได้ยินยอม การที่โจทก์นำคดีมาฟ้องจำเลยอีกทั้งที่โจทก์ได้ฟ้อง ส. และทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันแล้ว ย่อมเป็นฟ้องซ้ำ ดังนี้ คำแถลงรับของจำเลยประกอบคำให้การสู้คดี ทำให้เห็นได้ชัดแจ้งว่า จำเลยมิได้ประสงค์จะยกประเด็นข้อกฎหมายว่าสัญญาประนีประนอมยอมความทำให้หนี้เดิมระงับ อันทำให้ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นจากความรับผิดตามมาตรา 698 ขึ้นสู้คดี จำเลยจึงมิได้บรรยายไว้โดยชัดแจ้งในคำให้การเพียงแต่จำเลยสรุปไว้ท้ายคำให้การว่า จำเลยไม่ต้องรับผิดโดยหลักกฎหมายแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 698,850,851,852 ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 177 จึงไม่ทำให้เกิดประเด็นข้อนี้
เมื่อถือว่าจำเลยมิได้ให้การต่อสู้ว่าสัญญาประนีประนอมยอมความทำให้หนี้เดิมระงับ ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นจากความรับผิดตามมาตรา 698 แล้วการที่ศาลชั้นต้นหยิบยกประเด็นข้อนี้ขึ้นวินิจฉัยยกฟ้องโจทก์ จึงเป็นการนอกประเด็น คู่ความจะยกประเด็นข้อนี้ขึ้นอุทธรณ์ฎีกาต่อมาไม่ได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 25/2511)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 930/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการวินิจฉัยคดีมรดก: ศาลต้องวินิจฉัยเฉพาะประเด็นที่คู่ความยกขึ้นเท่านั้น
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกโดยอ้างว่าเป็นบุตรอันชอบด้วยกฎหมายของเจ้ามรดกเช่นนี้ ศาลย่อมจะวินิจฉัยไปถึงว่า โจทก์เป็นบุตรที่บิดาได้รับรองแล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1627 จึงมีสิทธิได้รับมรดกตาม มาตรา1533 ด้วยไม่ได้ เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นข้อต่อสู้แห่งคดี
คำสั่งศาลว่าเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย นั้นมีผลตั้งแต่วันที่คดีถึงที่สุดแต่ทรัพย์มรดกย่อมตกทอดแก่ทายาทในทันทีที่เจ้ามรดกตายฉะนั้นเมื่อศาลสั่งว่าโจทก์เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายภายหลังเจ้ามรดกตายแล้วจึงไม่มีทรัพย์มรดกเหลืออยู่ โจทก์ไม่มีทางได้รับส่วนแบ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 789/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์: การบรรยายฟ้องที่ชัดเจน และการนำสืบที่ต้องอยู่ในประเด็นข้อต่อสู้
คดีพิพาทเรื่องกรรมสิทธิที่ดิน โจทก์บรรยายฟ้องว่าโจทก์ได้ที่ดินบางส่วนโดยทางต่างๆ กัน แต่ไม่ได้บอกว่าได้มาส่วนไหนเมื่อใด และไม่มีแผนที่สังเขปท้ายฟ้อง แต่ระบุเขตติดต่อกว้างยาวมาด้วย ดังนี้ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คดีมีประเด็นโต้เถียงเรื่องการครอบครองระหว่างโจทก์จำเลย หากจำเลยจะต่อสู้ว่าจำเลยใช้สิทธิครอบครองโดยให้โจทก์เช่าทำ จำเลยจะต้องให้การให้ชัด มิฉะนั้นโจทก์ย่อมเสียเปรียบไม่อาจทราบข้อนำสืบของจำเลย
การนำสืบนอกประเด็นข้อต่อสู้ศาลย่อมไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1625/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำเรื่องมรดก: การที่โจทก์ไม่ยกเหตุรับรองบุตรเป็นข้อต่อสู้ในคดีก่อน ทำให้ไม่สามารถฟ้องเรียกมรดกโดยอ้างเหตุเดียวกันอีกได้
คดีเดิมจำเลยฟ้องเรียกมรดกผู้ตายจากโจทก์ จึงเป็นกรณีที่พิพาทกันเรื่องมรดกโดยตรงและมีประเด็นชัดแจ้งว่าโจทก์มีสิทธิได้รับมรดกของผู้ตายได้อย่างไร แต่โจทก์ให้การสู้คดีเฉพาะเรื่องพินัยกรรมอย่างเดียว มิได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้เลยว่าผู้ตายได้รับรองโจทก์เป็นบุตร ดังนี้เมื่อศาลพิพากษาชี้ขาดว่าพินัยกรรมนั้นใช้ไม่ได้ คดีถึงที่สุด ฉะนั้นโจทก์จะรื้อฟื้นกล่าวหาเรียกมรดกรายเดียวกันขึ้นมาอีกโดยกล่าวอ้างว่าผู้ตายได้รับรองโจทก์เป็นบุตรไว้แล้วโจทก์จึงมีสิทธิได้รับมรดกเช่นนี้หาได้ไม่ เพราะมิใช่คนละประเด็นกับคดีก่อน ย่อมถือว่าเป็นฟ้องซ้ำ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2498)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้เรื่องความไม่สุจริตของสัญญาเช่าเป็นประเด็นข้อต่อสู้ที่ชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยให้การว่า สัญญาเช่า หากจะมีก็เป็นเอกสารปลอมซึ่งโจทก์กระทำขึ้นด้วยความไม่สุจริต ดังนี้ จำเลยย่อมสืบได้ว่า สัญญาเกิดขึ้นด้วยความไม่สุจริตได้ มิใช่เป็นการสืบนอกประเด็นข้อต่อสู้แต่อย่างใด./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้คดีโดยอ้างเอกสารปลอมและการสืบพยานนอกประเด็น
จำเลยให้การว่า สัญญาเช่า หากจะมีก็เป็นเอกสารปลอมซึ่งโจทก์กระทำขึ้นด้วยความไม่สุจริต ดังนี้ จำเลยย่อมสืบได้ว่า สัญญาเกิดขึ้นด้วยความไม่สุจริตได้มิใช่เป็นการสืบนอกประเด็นข้อต่อสู้แต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 986/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย การนำสืบเหตุแห่งการได้มาไม่ถือเป็นการผิดประเด็น
จำเลยต่อสู้อ้างสิทธิครอบครองในที่นารายพิพาท จำเลยย่อมนำสืบถึงเหตุที่ได้มาซึ่งสิทธิครอบครองนั้นได้ ไม่เป็นการผิดประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 258/2479

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงประเด็นข้อต่อสู้หลังให้การรับแล้ว และการงดสืบพยานในคดีแพ่ง
ประเด็น ตัดสิน จำเลยให้การรับตามฟ้องโจทก์ว่าได้อยู่ในที่ของโจทก์โดยอาศัยสัญญาเช่าจริงดังนี้ จำเลยจะกลับขอนำสืบว่าสัญญาเช่านั้นเป็นหนังสือปลอมหาได้ไม่เพราะเป็นการเปลี่ยนประเด็นใหม่
กรณีที่ไม่ใช่เป็นอุทธรณ์ย่อ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์โดยเห็นว่าเป็นอุทธรณ์ย่อ ถ้าศาลฎีกาเห็นว่าไม่ใช่อุทธรณ์ย่อก็มีอำนาจตัดสินคดีให้เสร็จไปโดยไม่ต้องย้อนสำนวนให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาใหม่
ข้อฎีกาที่มิได้ว่ากล่าวกันมาแต่ในชั้นศาลล่างนั้นศาลฎีกาไม่วินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1244/2479

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเดินรถรับจ้างโดยไม่ได้รับอนุญาต: ศาลพิจารณาประเด็นการให้การต่อสู้ของผู้ถูกกล่าวหา
ในคดีอาญาย่อมมีประเด็นเช่นประเด็นเช่นเดียวกับในคดีแพ่งเหมือนกัน ผิดกันแต่ว่าในคดีอาญาจำเลยไม่ให้การ เลยถือว่าให้การปฏิเสธหรือให้การปฏิเสธตลอดข้อหาก็เพียงพอแล้วไม่ต้องยกข้อต่อสู้โดยละเอียด
ในคดีที่โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังคับเดิรรถรับจ้างบรรทุกคนและสินค้าบนทางที่โจทก์ได้รับสัมปทานโดยมิได้รับอนุญาตจากโจทก์ จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ให้อนุญาตแล้ว ถ้าทางพิจารณาไม่ได้ความว่า โจทก์ให้อนุญาตจำเลยดั่งคำให้การแล้วก็ต้องมีผิดผู้รับสัมปทานให้เดินรถมีอำนาจฟ้องขอให้ลงโทษผู้นำรถมาเดินบนทางนั้นโดยไม่ได้รับอนุญาตได้
หลักวินิจฉัย ข้อต่อสู้คดีจำเลยนั้นถึงเป็นความจริงก็ยกขึ้นแก้ตัวให้พ้นความผิดไม่ได้ก็ดี ศาลก็ยังวินิจฉัยชี้ขาดความเท็จและจริงในข้อต่อสู้นั้นให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3353/2552

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชั่งน้ำหนักพยานในคดีแพ่ง และประเด็นการยกข้อต่อสู้ใหม่ในชั้นอุทธรณ์/ฎีกา
คดีแพ่งคู่ความทั้งสองฝ่ายจะต้องนำพยานมาสืบต่อศาลเพื่อให้ศาลได้ใช้ดุลพินิจชั่งน้ำหนักพยานว่าพยานฝ่ายใดมีน้ำหนักน่าเชื่อถือกว่ากัน หากพยานฝ่ายใดมีน้ำหนักน่าเชื่อถือกว่าศาลก็จะใช้ดุลพินิจพิพากษาให้ฝ่ายนั้นเป็นฝ่ายชนะคดี แตกต่างกับคดีอาญาที่โจทก์จะต้องนำพยานเข้าสืบแสดงต่อศาลจนปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยได้กระทำความผิดตามฟ้องจริง ดังนั้น เมื่อศาลชั้นต้นได้พิจารณาชั่งน้ำหนักพยานแล้วเห็นว่าพยานโจทก์มีน้ำหนักน่าเชื่อถือมากกว่าพยานจำเลยจึงพิพากษาให้โจทก์เป็นฝ่ายชนะคดี คำพิพากษาดังกล่าวจึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว
ในคดีแพ่งจำเลยจะต้องยื่นคำให้การว่ายอมรับหรือปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ทั้งสิ้นหรือแต่บางส่วน รวมทั้งเหตุแห่งการนั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสอง เมื่อคำให้การของจำเลยมิได้ปฏิเสธว่าการประกอบธุรกิจเงินทุนหรือธุรกิจหลักทรัพย์ของโจทก์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงไม่มีประเด็นพิพาทในศาลชั้นต้น จำเลยจะหยิบยกขึ้นเป็นประเด็นในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกาหาได้ไม่ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 วรรคแรก และมาตรา 249 วรรคแรก
สัญญากู้ยืมเงินกำหนดเวลาชำระคืนเงินกู้ภายใน 5 ปี นับแต่วันทำสัญญา จึงเป็นการกำหนดเวลาชำระไว้แน่นอน ส่วนทางปฏิบัติแม้จะมีการขยายเวลาให้ชำระกันบ้างก็ไม่มีผลทำให้สัญญาดังกล่าวกลายเป็นสัญญาที่ไม่กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้
of 3