คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ประเด็นคดี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 44 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3097/2536 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดยื่นคำให้การและผลต่อการนำสืบพยาน
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ คำเบิกความของจำเลยที่อ้างตนเองเป็นพยาน เป็นเพียงเสนอข้อเท็จจริงที่จะเป็นการหักล้างพยานโจทก์ มิได้ก่อให้เกิดประเด็นแห่งคดีในศาลชั้นต้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1963/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดสืบพยานนอกประเด็น และการประวิงคดีในคดีแพ่ง
จำเลยทั้งสองให้การแต่เพียงว่า ไม่เคยขายตั๋วสัญญาใช้เงินกับโจทก์ไม่เคยทำสัญญาใด ๆ กับโจทก์ เอกสารท้ายคำฟ้องเป็นเอกสารปลอม จำเลยทั้งสองมิได้ให้การต่อสู้เกี่ยวกับเรื่องดอกเบี้ย หรือการซื้อขายตั๋วสัญญาใช้เงินไม่ถูกต้องหรือผิดแบบประเพณีการค้าแต่อย่างใด การที่จำเลยทั้งสองขอให้ส่งประเด็นไปสืบผู้จัดการธนาคารแห่งประเทศไทยสาขาขอนแก่นในเรื่องการคิดดอกเบี้ยและวิธีการซื้อขายตั๋วสัญญาใช้เงิน จึงเป็นการขอสืบพยานนอกประเด็น พฤติการณ์ของจำเลยเห็นได้ชัดว่าเป็นการประวิงคดี ที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานดังกล่าวจึงชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5344/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องและข้อเท็จจริงสาธารณสมบัติของแผ่นดิน: ศาลต้องวินิจฉัยเฉพาะประเด็นที่คู่ความยกขึ้น
ปัญหาว่าที่พิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินหรือไม่ เป็นข้อเท็จจริงที่จะต้องพิสูจน์กันในทางพิจารณา ไม่ใช่เรื่องอำนาจฟ้องและไม่ใช่ข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนเมื่อฟ้องโจทก์มิได้อ้างว่าที่พิพาทเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินศาลจะหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเองโดยที่จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้หาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 334/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดสืบพยานที่ไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นคดี และการนำสืบปฏิเสธนอกคำให้การไม่อาจรับฟังได้
แม้จะให้จำเลยสืบพยานไปและได้ความตามที่จำเลยอ้าง ก็ไม่เกี่ยวกับประเด็นโดยตรงในคดีกับเป็นเพียงพยานบอกเล่าซึ่งมีน้ำหนักน้อย หากจะให้นำเข้าสืบ ก็ไม่ทำให้การวินิจฉัยข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไป ดังนี้ ศาลชั้นต้นชอบที่จะมีคำสั่งงดสืบพยานดังกล่าวเสียได้ จำเลยให้การว่า ไม่เคยกู้และรับเงินจากโจทก์ โจทก์สมคบกับบุคคลอื่นทำสัญญากู้เงินขึ้นและลงลายมือชื่อของจำเลย แต่กลับนำสืบว่าลายมือชื่อในช่องผู้กู้ตามสัญญากู้เงินเป็นลายมือชื่อจำเลยที่ลงไว้ในกระดาษเปล่าตอนกู้เงินจากบุคคลอื่นเป็นการนำสืบปฏิเสธนอกคำให้การ ไม่อาจรับฟังได้ ข้อที่จำเลยฎีกาว่าลายมือเขียนในสำเนาเอกสารแนบท้ายฎีกาเป็นลายมือเขียนของโจทก์แตกต่างกับลายมือเขียนในสัญญากู้เงินซึ่งโจทก์นำสืบว่าโจทก์เป็นผู้เขียนนั้นเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3719/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประเด็นการตั้งผู้จัดการมรดก: ผู้มีส่วนได้เสียจำกัดเฉพาะทายาทและผู้ร้องขอเท่านั้น
คดีร้องขอให้ตั้งผู้จัดการมรดก ประเด็นแห่งคดีมีว่าสมควรตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกหรือไม่เท่านั้น ดังนี้การที่ผู้คัดค้านอ้างว่าทรัพย์ตามคำร้องเป็นของ จ. ตกทอดแก่ผู้คัดค้านจึงเป็นเรื่องนอกประเด็นชอบที่ผู้คัดค้านจะไปดำเนินคดีอีกส่วนหนึ่งต่างหากจากคดีนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2987/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการต่อสู้คดีภารจำยอม การวินิจฉัยนอกคำฟ้อง และประเด็นฟ้องซ้ำ
จำเลยให้การว่า ทางพิพาทไม่ใช่ทางภารจำยอมเพราะไม่เคยมีใครใช้ ทางดังกล่าว คำให้การของจำเลยย่อมมีความหมายไปถึง ว่าไม่ใช่ทางภารจำยอมแม้แต่ วาเดียว หรือศอกเดียว ไปด้วย การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาไปถึง ว่าความกว้างยาวของทางภารจำยอมมีขนาดไหนจึงอยู่ในขอบเขตของคำให้การของจำเลยแล้วไม่ใช่เป็นเรื่องนอกประเด็น โจทก์บรรยายฟ้องว่า เดิม โจทก์ได้ใช้ ที่ดินของจำเลยดังกล่าวส่วนหนึ่งมีขนาดกว้าง 2 วา ยาว 10 วา ใช้ เป็นทางเดินเข้าออกของที่ดินโจทก์ไปสู่ทางสาธารณะเป็นระยะเวลาติดต่อ กันประมาณ35 ปีแล้ว โดย สงบ โดย เปิดเผย มีเจตนาให้ได้ ทางภารจำยอม เป็นคำบรรยายฟ้องที่ชัดเจนแล้วว่าโจทก์ได้ ภารจำยอมโดย อายุความ คดีก่อนประเด็นพิพาทมีว่า จำเลยสละการครอบครองที่พิพาทแล้วหรือไม่ ทั้งศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยยังครอบครองที่พิพาทไม่ได้สละการครอบครองโจทก์ฟ้องคดีนี้ว่า ทางพิพาทเป็นทางภารจำยอมซึ่ง มีประเด็นต่าง กันและเหตุที่วินิจฉัยก็ต่าง กัน จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2461/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างไม่เป็นธรรม: ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าประเด็นคดีเดิมและคดีหลังแตกต่างกัน ไม่ขัดแย้งกัน
คดีเดิม ประเด็นมีว่า โจทก์ไม่ปฏิบัติหน้าที่ตาม กฎหมายระเบียบแบบแผนหรือคำสั่งของจำเลยโดย จงใจหรือประมาทเลินเล่อทำให้จำเลยเสียหายหรือไม่ ส่วนคดีหลังประเด็นมีว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดย ไม่เป็นธรรมหรือไม่ โจทก์มีสิทธิได้ รับค่าจ้าง เงินโบนัสสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าและค่าชดเชยตาม ฟ้องหรือไม่ประเด็นทั้งสองคดีจึงแตกต่าง กัน ศาลฎีกาจึงวินิจฉัยอุทธรณ์โจทก์ข้อแรกว่า คดีเดิม กับคดีหลังไม่ใช่มีประเด็นอย่างเดียวกันคำพิพากษาทั้งสองคดีจึงไม่ขัดกัน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1508/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกความนอกประเด็นคดีของจำเลยที่ขาดนัดยื่นคำให้การ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าไม่กระทบผลคำพิพากษา
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ในวันนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยมาศาลและขออ้างตนเองเบิกความเป็นพยาน ศาลชั้นต้นได้ให้โจทก์จำเลยสืบพยาน จำเลยเบิกความว่าการชำระหนี้เงินกู้ 30,000 บาทตามเช็คพิพาทเป็นหนี้ที่มีเงื่อนไขว่า หากโจทก์ไม่ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โจทก์จึงจะมีสิทธิเรียกร้องจำนวนดังกล่าวคืนจากจำเลย แต่ถ้าโจทก์ได้รับเลือกตั้งจำเลยไม่ต้องคืนเงินกู้ดังกล่าวให้โจทก์ การเบิกความของจำเลยดังกล่าวเป็นข้อที่จำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้คดีไว้ จึงเป็นการเบิกความในข้อที่ไม่ได้เป็นประเด็นในคดี จำเลยจึงสืบพยานในข้อที่ว่าการชำระหนี้เงินกู้ 30,000 บาทตามเช็คพิพาทเป็นหนี้ที่มีเงื่อนไขไม่ได้.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 998/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงท้า/ตกลงกันในประเด็นคดี: ศาลต้องพิพากษาตามข้อตกลงเมื่อเงื่อนไขสำเร็จ
ก่อนสืบพยานคู่ความแถลงร่วมกันว่าหากเสียงส่วนใหญ่ของผู้จัดการมรดกซึ่งมีอยู่ 5 คนรวมทั้งคู่ความยอมตกลงจ่ายเงินมรดกให้แก่โจทก์ตามจำนวนที่โจทก์ฟ้อง จำเลยทั้งสองก็ยอมจ่ายให้และโจทก์ไม่ติดใจเรียกดอกเบี้ยดังนี้ ถือได้ว่ามีลักษณะเป็นคำท้าหรือมีการตกลงกันในประเด็นแห่งคดีโดยมิได้มีการถอนฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138 เมื่อปรากฏว่าผู้จัดการมรดกเสียงข้างมากยอมตกลงจ่ายเงินมรดกให้โจทก์เงื่อนไขจึงสำเร็จครบถ้วนตามข้อตกลง ศาลชั้นต้นมีหน้าที่ต้องพิพากษาให้เป็นไปตามข้อตกลงนั้น การที่ศาลชั้นต้นยังไกล่เกลี่ยคู่ความให้ตกลงกันและดำเนินการสืบพยานโจทก์ไปอีกเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ขัดต่อบทกฎหมายดังกล่าว จึงเป็นการไม่ชอบ ศาลย่อมมีอำนาจเพิกถอนกระบวนพิจารณานั้นได้และพิพากษาให้เป็นไปตามที่ตกลงท้ากัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 998/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงในประเด็นคดีและการเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ก่อนสืบพยานคู่ความแถลงร่วมกันว่าหากเสียงส่วนใหญ่ของผู้จัดการมรดกซึ่งมีอยู่ 5 คนรวมทั้งคู่ความยอมตกลงจ่ายเงินมรดกให้แก่โจทก์ตามจำนวนที่โจทก์ฟ้อง จำเลยทั้งสองก็ยอมจ่ายให้และ โจทก์ไม่ติดใจเรียกดอกเบี้ย ดังนี้ ถือได้ว่ามีลักษณะเป็นคำท้าหรือมีการตกลงกันในประเด็นแห่งคดีโดยมิได้มีการถอนฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138 เมื่อปรากฏว่า ผู้จัดการมรดกเสียงข้างมากยอมตกลงจ่ายเงินมรดกให้โจทก์ เงื่อนไข จึงสำเร็จครบถ้วนตามข้อตกลง ศาลชั้นต้นมีหน้าที่ต้องพิพากษา ให้เป็นไปตามข้อตกลงนั้น การที่ศาลชั้นต้นยังไกล่เกลี่ยคู่ความ ให้ตกลงกันและดำเนินการสืบพยานโจทก์ไปอีกเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณา ที่ขัดต่อบทกฎหมายดังกล่าว จึงเป็นการไม่ชอบ ศาลย่อมมีอำนาจ เพิกถอนกระบวนพิจารณานั้นได้และพิพากษาให้เป็นไปตามที่ตกลงท้ากัน
of 5