คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ปิดกั้น

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 37 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1018/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนัดหยุดงานที่เกินขอบเขต การปิดกั้นทางเข้าออกบริษัทถือเป็นการจงใจทำให้นายจ้างเสียหาย และเป็นเหตุเลิกจ้างได้
สภาพปกติของการนัดหยุดงานได้แก่การที่ลูกจ้างหยุดการกระทำใด ๆ อันลูกจ้างมีหน้าที่ต้องกระทำอยู่ตามปกติ ผลที่เกิดขึ้นจากการหยุดผลิตหรือหยุดการขนส่งย่อมถือเป็นผลธรรมดาหรือธรรมชาติของการหยุดงาน แต่การที่ผู้คัดค้านกับพวกซึ่งเป็นกรรมการลูกจ้างไม่เพียงแต่หยุดงานแต่กลับปิดกั้นประตูทางเข้าออกบริษัทผู้ร้อง จนเป็นเหตุให้บริษัทผู้ร้องไม่อาจปฏิบัติตามสัญญากับคู่สัญญาได้ และต้องรับผิดในความเสียหายต่อคู่สัญญา ย่อมถือได้ว่าผลที่เกิดขึ้นมิใช่ผลธรรมดาของการนัดหยุดงานแต่เป็นเรื่องที่กรรมการลูกจ้างผู้คัดค้านจงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย นายจ้างย่อมมีสิทธิเลิกจ้างได้ตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 31 (2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3260/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การละเมิดสิทธิในสาธารณสมบัติของแผ่นดิน กรณีปิดกั้นร่องน้ำสาธารณะ ทำให้ผู้อื่นเสียหาย
โจทก์ขุดร่องน้ำในที่สาธารณะรับน้ำมายังนาของโจทก์ ราษฎรใช้น้ำในร่องน้ำนั้นทำนาและเลี้ยงสัตว์มา 40 ปี โดยขุดร่องน้ำเล็กชักน้ำมาสู่นาของตน ร่องน้ำนี้เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน จำเลยปิดร่องน้ำทำลายคันและทำนาในร่องน้ำ ทำให้โจทก์ใช้น้ำทำนาไม่ได้ ได้รับความเสียหายพิเศษ เป็นละเมิดต่อโจทก์ ศาลพิพากษาให้จำเลยสร้างคันดินและทำให้เป็นร่องน้ำตามเดิม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1071/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขุดคลองชลประทานในที่ดินส่วนบุคคล: การยินยอมโดยปริยายและการห้ามปิดกั้น
เจ้าหน้าที่ขุดคลองส่งน้ำผ่านที่ดินของจำเลยในเขตโครงการชลประทานโดยราษฎรและจำเลยยินยอมโดยปริยาย จำเลยจะปิดกั้นไม่ได้ เป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติชลประทานหลวง พ.ศ. 2485 มาตรา 20,36 ตรี ฉบับที่ 3 พ.ศ.2507 มาตรา 16

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2261/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำให้เสียทรัพย์ vs. ความเสียหายต่อทรัพย์สาธารณะ: การปิดกั้นการซ่อมทำนบไม่ถือเป็นการทำลายทรัพย์
ในข้อหาฐานทำให้เสียทรัพย์ตามมาตรา 360 นั้น ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลย ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกฟ้องในข้อหาฐานนี้มีผลเป็นการพิพากษากลับ โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้
การที่จำเลยใช้ฝาเฝือกปิดกั้น ทำให้ซ่อมทำนบที่พังไม่ได้ เป็นเหตุให้น้ำในลำห้วยไม่มีใช้เมื่อถึงหน้าแล้งทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน เช่นนี้ยังไม่มีลักษณะเป็นการทำลายทำให้เสื่อมสภาพที่ดินสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่มีไว้เพื่อสารธารณประโยชน์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 194/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดจากการปิดกั้นทางเข้าสถานที่เช่า
ผู้ให้เช่าปิดกั้นมิให้คนเข้าร้านที่โจทก์เช่าสถานที่ทำเป็นร้านค้าทำให้โจทก์เสียหาย เป็นละเมิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1502/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปิดกั้นร่องน้ำสาธารณะโดยสุจริต: ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง แม้เป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปิดกั้นร่องน้ำสาธารณะทำให้น้ำหยุดไหล ราษฎรได้รับความเดือดร้อนขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 375 ศาลชั้นต้นเห็นว่าร่องน้ำที่พิพาทเป็นร่องน้ำสาธารณะจำเลยไปปิดกั้นเข้าจึงมีความผิดพิพากษาลงโทษศาลอุทธรณ์ เห็นว่าร่องน้ำพิพาทเป็นร่องน้ำสาธารณะเช่นเดียวกันกับศาลชั้นต้น แต่จำเลยปิดกั้นโดยสุจริตโดยเชื่อว่ามีอำนาจปิดกั้นได้ จึงไม่มีความผิดพิพากษายกฟ้องจำเลยฎีกาขอให้วินิจฉัยว่าร่องน้ำพิพาทไม่ใช่ร่องน้ำสาธารณะตามพระราชบัญญัติการชลประทานราษฎร์ ศาลฎีกาเห็นว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยชนะคดีโดยยกฟ้องโจทก์อยู่แล้วและร่องน้ำพิพาทจะเป็นร่องน้ำสาธารณะตามพระราชบัญญัติการชลประทานราษฎร์หรือไม่นั้น ก็มิได้ทำให้จำเลยเสียสิทธิแต่ประการใด จึงไม่รับวินิจฉัยฎีกาของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1502/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปิดกั้นร่องน้ำสาธารณะโดยสุจริต แม้ขัดต่อกฎหมาย แต่ไม่มีความผิดทางอาญา หากศาลเชื่อถือ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปิดกั้นร่องน้ำสาธารณะทำให้น้ำหยุดไหลราษฎรได้รับความเดือดร้อน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 375 ศาลชั้นต้นเห็นว่าร่องน้ำที่พิพาทเป็นร่องน้ำสาธารณะจำเลยไปปิดกั้นเข้าจึงมีความผิดพิพากษาลงโทษ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าร่องน้ำพิพาทเป็นร่องน้ำสาธารณะเช่นเดียวกันกับศาลชั้นต้น แต่จำเลยปิดกั้นโดยสุจริต โดยเชื่อว่ามีอำนาจปิดกั้นได้ จึงไม่มีความผิด พิพากษายกฟ้อง จำเลยฎีกาขอให้วินิจฉัยว่าร่องน้ำพิพาท ไม่ใช่ร่องน้ำสาธารณะตามพระราชบัญญัติการชลประทานราษฎร์ ศาลฎีกาเห็นว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยชนะคดีโดยยกฟ้องโจทก์อยู่แล้วและร่องน้ำพิพาทจะเป็นร่องน้ำสาธารณะตามพระราชบัญญัติการชลประทานราษฎร์หรือไม่นั้น ก็มิได้ทำให้จำเลยเสียสิทธิแต่ประการใดจึงไม่รับวินิจฉัยฎีกาของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1253/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการใช้ทางน้ำ (ภารจำยอม) ต่อเนื่องกว่า 30 ปี จำเลยปิดกั้นไม่ได้
โจทก์ได้ใช้เหมืองพิพาทเป็นทางน้ำชักน้ำจากนาแปลงใต้ผ่านมาจำเลยเข้ามาแปลงเหนือ เพื่อประโยชน์แก่นาแปลงเหนือของโจทก์มาเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว เช่นนี้จำเลยจะปิดกั้นเสียไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1253/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการใช้ทางน้ำ (ภารจำยอม) หากใช้ต่อเนื่องกว่า 30 ปี จำเลยจะปิดกั้นไม่ได้
โจทก์ได้ใช้เหมืองพิพาทเป็นทางน้ำชักน้ำจากนาแปลงใต้ผ่านนาจำเลยเข้านาแปลงเหนือ เพื่อประโยชน์แก่นาแปลงเหนือของโจทก์มาเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว เช่นนี้จำเลยจะปิดกั้นเสียไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำผิดกฎหมายประมงด้วยการปิดกั้นลำห้วยสาธารณะถือเป็นความผิดต่อเนื่องและเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ประมง
จำเลยสร้างทำนบปิดกั้นลำห้วยสาธาณะเป็นการปลูกสร้างสิ่งใดลงไปในที่สาธารณประโยชน์ตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ.2490 มาตรา 17
โจทก์บรรยายฟ้องว่าลำห้วยตามฟ้องเป็นที่จับสัตว์น้ำสาธารณะ และเป็นลำห้วยที่มีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ ถือว่าโจทก์ได้บรรยายฟ้องไว้ชัดเจนแล้วว่า ลำห้วยตามฟ้องเป็นที่จับสัตว์น้ำตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ.2490 มาตรา 4(5)
of 4