พบผลลัพธ์ทั้งหมด 39 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3535/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุป่วยของทนายความไม่ใช่เหตุสุดวิสัยในการขยายเวลาอุทธรณ์
ความเจ็บป่วยของทนายความไม่ใช่เป็นกรณีมีเหตุสุดวิสัยเพื่อขอขยายระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ดังนี้ศาลไม่อาจขยายกำหนดระยะเวลาซึ่งสิ้นกำหนดระยะเวลาอุทธรณ์แล้วได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 994/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อนุญาตเลื่อนคดีเนื่องจากไม่ยื่นบัญชีรายชื่อพยาน ศาลต้องพิจารณาเหตุป่วยของโจทก์ก่อน
ในวันนัดพิจารณาโจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนการพิจารณาคดี อ้างว่าตัวโจทก์ป่วย พร้อมทั้งแนบใบรับรองแพทย์มาด้วย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์มิได้ยื่นบัญชีระบุพยานจึงสิ้นสิทธิที่โจทก์จะนำพยานเข้าสืบไม่มีเหตุขอเลื่อน ให้ยกคำร้อง การที่ศาลชั้นต้นไม่ได้พิจารณาเหตุแห่งการขอเลื่อนการพิจารณาของโจทก์ว่า ตัวโจทก์ป่วยจนไม่สามารถมาศาลได้หรือไม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40คำสั่งของศาลชั้นต้นจึงไม่ชอบ เมื่อศาลอุทธรณ์เชื่อว่าตัวโจทก์ป่วยจริงก็ชอบที่จะอนุญาตให้โจทก์เลื่อนการพิจารณาคดีไป และพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไปแล้วมีคำพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 848/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่แจ้งเหตุเลื่อนคดีและการยกฟ้องคดีแพ่ง
แม้ทนายโจทก์จะเจ็บป่วยอันเป็นเหตุให้เลื่อนคดีได้ก็ตามแต่ทนายโจทก์ก็สามารถแจ้งวันนัดให้โจทก์ทราบ หรือทำคำร้องขอเลื่อนคดีมอบให้ผู้อื่นมายื่นต่อศาลได้ ดังนี้ การที่โจทก์และทนายโจทก์ไม่ได้มาศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์โดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องและไม่ได้ขอเลื่อนคดี และศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกฟ้องโจทก์ โจทก์จะยกเหตุที่ทนายโจทก์ป่วยมาเป็นข้อแก้ตัวหาได้ไม่ ศาลไม่อนุญาตให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4101-4102/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอนุญาตเลื่อนคดีโดยอ้างอาการป่วย และการเพิกถอนคำสั่งเมื่อพบหลักฐานขัดแย้ง ศาลฎีกาเห็นว่าการสั่งเลื่อนคดีเดิมชอบแล้ว
การที่ศาลเชื่อว่าทนายจำเลยป่วยจริงเพราะมีใบรับรองแพทย์แนบมาพร้อมคำร้องขอเลื่อนคดีจึงอนุญาตให้เลื่อนคดีเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ชอบ มิได้เป็นการพิจารณาที่ผิดระเบียบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 เมื่อการสั่งเลื่อนคดีดังกล่าวไม่เป็นการพิจารณาที่ผิดระเบียบแล้ว แม้ความจะปรากฏต่อมาว่าจำเลยเสนอใบรับรองแพทย์ซึ่งไม่ตรงต่อความจริงต่อศาลเพื่อขอเลื่อนคดี ศาลจะยกเลิกเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวในภายหลังหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3663/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนนัดฟังคำพิพากษาเนื่องจากป่วย ศาลต้องไต่สวนข้อเท็จจริงก่อนสั่งปรับผู้ประกัน
จำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนการอ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้น โดยอ้างเหตุว่าป่วย และมีใบรับรองแพทย์มาแสดง หากศาลชั้นต้นไม่เชื่อว่าจำเลยป่วยจริง ก็ชอบที่จะไต่สวนฟังข้อเท็จจริงเสียก่อน การที่ศาลชั้นต้นสั่งว่าจำเลยประวิงคดี จงใจไม่มาฟังคำพิพากษาและสั่งว่าผู้ประกันผิดสัญญาประกันโดยมิได้มีการไต่สวนเสียก่อนจึงเป็นการไม่ชอบแม้ผู้ประกันร่วมจะมิได้ฎีกาศาลฎีกาก็พิพากษาให้มีผลถึงผู้ประกันร่วมได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 247,243(2),245(1) ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 15
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3780/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาคดี: ศาลต้องพิจารณาเหตุขอเลื่อนคดีและการป่วยของทนายความ
ศาลนัดสืบพยานโจทก์เวลา 9 นาฬิกา ในวันนัด ศาลออกนั่งพิจารณาคดีเวลา 9.25 นาฬิกา โจทก์ไม่มาศาล ศาลจึงมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาและจำหน่ายคดีโจทก์ ต่อมา โจทก์ยื่นคำร้องว่า วันนัดสืบพยานทนายโจทก์ป่วยได้มอบให้เสมียนทนายนำคำร้องขอเลื่อนคดีมายื่นต่อศาลเมื่อเวลา 9.25 นาฬิกา ที่มาถึงศาลช้ากว่าเวลานัดเนื่องจากเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ประกอบทั้งทนายโจทก์และเสมียนทนายเข้าใจเรื่องเวลานัดของศาลผิดไปว่าเป็นเวลา 9.30 นาฬิกา ดังนี้ การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งงดการไต่สวนและยกคำร้องของโจทก์ย่อมเป็นการไม่ชอบ เพราะหากเป็นจริงตามคำร้องของโจทก์ กรณีก็ยังไม่ถนัดที่จะถือว่าโจทก์มิได้ร้องขอเลื่อนคดีหรือแจ้งเหตุขัดข้องที่ไม่มาศาลก่อนลงมือสืบพยานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 197 วรรคสอง และหากฟังได้ว่าทนายโจทก์ป่วยจริง ก็เป็นเหตุที่ศาลต้องให้เลื่อนการพิจารณาคดีไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40 ศาลชั้นต้นชอบที่จะไต่สวนและมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3256/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนคดีเนื่องจากทนายจำเลยป่วย: ศาลต้องพิจารณาจากเหตุผลที่จำเลยขอเลื่อนจริง และโจทก์ไม่ได้โต้แย้ง
วันนัดสืบพยานจำเลยนัดแรก จำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างเหตุพยานไม่มาศาล พร้อมกับแถลงว่าในนัดหน้าจะสืบพยานเท่าที่มาให้เสร็จในนัดเดียว ไม่ติดใจสืบพยานที่ไม่มาและจะไม่ขอเลื่อนคดีอีก ศาลอนุญาตให้เลื่อนคดีไป ครั้นถึงวันนัดทนายจำเลยไม่มาศาล แต่ได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างเหตุทนายจำเลยป่วยมีใบรับรองแพทย์มาแสดง โดยไม่ได้อ้างว่าพยานจำเลยป่วย โจทก์คัดค้านเพียงว่าในนัดที่แล้วจำเลยแถลงว่าไม่ติดใจสืบพยานหากไม่มีพยานมาศาล ไม่ได้คัดค้านโดยตรงว่าทนายจำเลยไม่ป่วย หรือคำร้องของทนายจำเลยไม่เป็นความจริงจึงน่าเชื่อว่าทนายจำเลยป่วยจริง นับได้ว่ากรณีมีความจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้ มีเหตุสมควรอนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดี.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4729/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างพนักงานป่วย เหตุผลการป่วยไม่ถือเป็นการละทิ้งหน้าที่ จำเป็นต้องจ่ายค่าชดเชย
ระเบียบของจำเลยว่าด้วยการลา กำหนดให้พนักงานที่ลาป่วยครบกำหนดโดยมีสิทธิได้รับเงินเดือนแล้ว จำเป็นต้องรักษาตัวต่อไปมีสิทธิลาต่อได้ไม่เกิน 120 วัน โดยไม่ได้รับเงินเดือนแต่หากยังลาต่อไปอีกจำเลยปลดออกจากงานได้ดังนี้เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นพนักงานจำเลยได้ลาป่วยโดยได้รับเงินเดือนจนครบกำหนดแล้ว และหยุดงานเกินกว่า 120 วันต่อมาอีก จำเลยให้โจทก์ออกจากงาน ระบุว่าโจทก์ป่วยเป็นโรคประสาทเรื้อรัง จึงไม่ถือว่าโจทก์ฝ่าฝืนข้อบังคับหรือระเบียบเกี่ยวกับการทำงานของจำเลย กรณีไม่ใช่ให้โจทก์ออกจากงานเนื่องจากขาดงานเป็นเวลาสามวันทำงานติดต่อกันที่ศาลแรงงานกลางอ้างเหตุว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์เนื่องจากโจทก์ขาดงานดังกล่าวจึงเป็นเรื่องนอกเหนือไปจากคำสั่งเลิกจ้างทั้งการที่โจทก์ไม่ยื่นใบลาหลังครบกำหนดลาป่วยแล้วก็มิใช่กรณีที่โจทก์ทำผิด อันต้องด้วยข้อยกเว้นที่จำเลยจะไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่โจทก์ ตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการคุ้มครองแรงงาน ข้อ 47 จำเลยจึงต้องจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์
โจทก์ลาป่วยครั้งสุดท้ายแล้วไม่ได้ยื่นใบลาป่วยต่อจำเลยอีกและโจทก์ไม่ได้มาทำงานอีกเลย จำเลยจึงเลิกจ้างโจทก์การไม่มาทำงานเป็นเวลานานดังกล่าวถือได้ว่าโจทก์กระทำประการอื่นอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้อง ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 583 จำเลยจึงมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์โดยไม่ต้องจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า
โจทก์ลาป่วยครั้งสุดท้ายแล้วไม่ได้ยื่นใบลาป่วยต่อจำเลยอีกและโจทก์ไม่ได้มาทำงานอีกเลย จำเลยจึงเลิกจ้างโจทก์การไม่มาทำงานเป็นเวลานานดังกล่าวถือได้ว่าโจทก์กระทำประการอื่นอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้อง ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 583 จำเลยจึงมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์โดยไม่ต้องจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2600/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างลูกจ้างเนื่องจากหย่อนสมรรถภาพทางการทำงานจากอาการป่วยเรื้อรัง มิใช่การเลิกจ้างไม่เป็นธรรม
โจทก์เป็นลูกจ้างของจำเลยตำแหน่งพนักงานเก็บค่าโดยสารรถประจำทาง หลังจากโจทก์เข้าทำงานกับจำเลยได้ 2 เดือน โจทก์ได้ลาป่วยทุกเดือนติดต่อกัน 7 เดือน โดยลาป่วยเดือนละ 1 วันถึง 8 วัน แสดงว่าสุขภาพของโจทก์ไม่สมบูรณ์ ไม่สามารถตรากตรำในหน้าที่พนักงานเก็บค่าโดยสารอันเป็นงานหนักไว้ กรณีถือได้ว่าโจทก์เจ็บป่วยจนหย่อนสมรรถภาพในการทำงาน ถือเป็นเหตุสมควรที่จำเลยจะเลิกจ้างโจทก์ได้ การที่จำเลยเลิกจ้างโจทก์จึงมิใช่เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม ทั้งนี้โดยไม่ต้องพิจารณาว่าโจทก์ขาดคุณสมบัติตามพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2518 มาตรา 9 (3)และไม่ต้องพิจารณาว่าโจทก์ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 213/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนคดีเนื่องจากป่วยและการประวิงคดี ศาลพิจารณาเหตุผลและความจำเป็นในการเลื่อนคดีประกอบกับประโยชน์แห่งความยุติธรรม
ในวันนัดสืบพยานจำเลยครั้งแรกซึ่งจำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อนทนายจำเลยยื่นคำร้องว่าจำเลยเดินทางไปทำธุรกิจที่จังหวัดเลยแล้วป่วยกระทันหันไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ขอเลื่อนคดีโจทก์แถลงคัดค้านว่าจำเลยประวิงคดีและไม่มีพยานมาสืบโจทก์มิได้คัดค้านโดยตรงว่าจำเลยมิได้ป่วยทั้งมิได้คัดค้านว่าคำร้องของจำเลยไม่เป็นความจริงฟังได้ว่าจำเลยป่วยมีอาการท้องเดินและอ่อนเพลียมาศาลไม่ได้จริงนับว่าจำเลยมีเหตุจำเป็นในการขอเลื่อนคดีพยานจำเลยตามบัญชีพยานปรากฏว่านอกจากจำเลยอ้างตนเองแล้วมีส.อีกเพียงคนเดียวแม้ส.เป็นพยานซึ่งจำเลยมีหน้าที่นำมาเบิกความต่อศาลแต่จำเลยไม่นำมาก็ได้ความว่าในวันนั้นส.อยู่ที่จังหวัดเลยเช่นเดียวกันเมื่อคำนึงถึงเหตุที่จำเลยป่วยประกอบด้วยแล้วการที่จำเลยไม่นำส.มาเบิกความยังถือไม่ได้ว่าจำเลยประวิงคดีและไม่มีพยานมาสืบนอกจากนี้หากพิเคราะห์ถึงพฤติการณ์ในเนื้อหาของคดีประกอบกับประโยชน์แห่งความยุติธรรมด้วยกรณีมีเหตุสมควรให้จำเลยเลื่อนคดี.