คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ป.วิ.แพ่ง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 32 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 255/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสืบพยานเพื่อโต้แย้งความสมบูรณ์ของหนี้ตามสัญญา กู้ยืมเงินและการแก้ไข/ทำลายเอกสารตาม ป.วิ.แพ่ง ม.94
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยกู้เงินไปตามหนังสือสัญญากู้ จำเลยสู้ว่าไม่ได้รับเงินตามเอกสารสัญญากู้เพราะเหตุโจทก์จะยอมให้จำเลยกู้เงินตามฟ้องได้ต่อเมื่อขายนาจำเลยจึงเซ็นนามไว้ในสัญญากู้ของโจทก์ก่อนแต่แล้วขายนาไม่ได้ ถือว่าจำเลยต่อสู้และจะขอสืบว่าหนี้ตามเอกสารสัญญากู้ไม่สมบูรณ์หรือเพื่อทำลายเอกสารนั้นและการสืบว่าหนี้ไม่สมบูรณ์นี้ถือว่าเป็นการสืบที่ทั้งแก้ไขและทำลายเอกสารเข้าอยู่ในวรรคท้ายแห่ง ม.94 วิ.แพ่ง โดยชัด เพราะการสืบทำลายนั้นย่อมต้องมีการแก้ไขอยู่ในตัว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1894/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแต่งตั้งทนายที่ไม่ถูกต้องและการแก้ไขให้ถูกต้องตาม ป.วิ.แพ่ง
ทนายของโจทก์เป็นผู้ซักค้านพยานโจทก์จำเลยตั้งแต่เริ่มการพิจารณาจนเสร็จสำนวน ต่อมาศาลพิพากษาให้โจทก์แพ้ ทนายโจทก์ยื่นฟ้องอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ความมาปรากฎในชั้นศาลอุทธรณ์ว่าทนายโจทก์ยังมิได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทนายโจทก์ เช่นนี้ย่อมเป็นที่เห็นได้ว่ามิได้มีการประวิงความหรือทำการเอาเปรียบในเชิงคดีแต่อย่างไร หากเป็นไปด้วยความพลั้งเผลอหรือด้วยเหตุอื่น ป.วิ.แพ่ง ก็เป็นการสมควรที่จะอนุญาตให้ทำเสียให้ถูกต้องได้ตาม ป.วิ.แพ่ง ม.27 แต่ปรากฎว่าในชั้นฎีกาโจทก์ได้แต่งตั้งทนายผู้นี้เป็นทนายโจทก์แต่วันยื่นฎีกาแล้ว จึงพอถือว่าการพิจารณาและการอุทธรณ์เป็นการชอบแล้วได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1708/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ ป.วิ.แพ่ง ม.148: ประเด็นต่างกันระหว่างคดีเดิมและคดีใหม่ แม้เกี่ยวพันกับสัญญากู้ยืม
โจทก์ฟ้องว่าได้ส่งข้าวเปลือชำระแทนต้นเงินกู้และดอกเบี้ยให้แก่จำเลยซึ่งเป็นผู้ให้กู้ตามที่ได้ตกลงกับจำเลยแล้ว บัดนี้จำเลยกลับทำผิดสัญญาไม่คิดราคาข้าวเปลือกชำระเงินกู้รายนั้นให้ จึงขอให้ศาลหักราคาข้าวเปลือกชำระหนี้หรือคืนข้าวเปลือกให้โจทก์ ดังนี้ถือว่าประเด็นกับคดีที่จำเลยฟ้องโจทก์อีกคดีหนึ่งหาว่าโจทก์ผิดสัญญากู้เงินไม่ชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ซึ่งมีประเด็นว่าโจทก์ได้ชำระหนี้ให้จำเลยด้วยเงินตราแล้วหรือยังฟ้องของโจทก์ในคดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ จึงไม่ต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่ง ม.148.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1499/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์เพียงเล็กน้อย ทำให้จำเลยไม่สามารถฎีกาได้ตาม ป.วิ.แพ่ง ม.248
โจทก์จำเลยพิพาทกันด้วยเรื่องที่ดิน 2 ตอน ตอนที่ 1 ราคา 50 บาท ตอนที่ 2 ราคา 400 บาท ต่างเถียงกันในเรื่องกรรมสิทธิ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าที่ตอนที่ 1 ราคา 50 บาทเป็นของโจทก์ นอกนั้นยืนเช่นนี้เป็นการแก้ไขน้อย ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.แพ่ง ม. 248
(ฎีกาที่ 181/2492)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1640/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่ง ม.249 กรณีอ้างเหตุผลจากฟ้องอุทธรณ์เป็นส่วนหนึ่งของฎีกา
คู่ความที่ฎีกากล่าวท้าวเหตุผลรายละเอียดตามฟ้องอุทธรณ์โดยขอให้ถือเอาเป็นส่วนหนึ่งแห่งฎีกาเช่นนี้ จะถือว่าเป็นการกล่าวข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายโดยชัดแจ้งในฎีกาหาได้ไม่ เป็นฎีกาที่ต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่ง ม.249

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1608/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำค่าเสียหาย: การฟ้องเรียกค่าเสียหายซ้ำในประเด็นที่เคยฟ้องร้องและศาลมีอำนาจพิจารณาแล้ว ถือเป็นฟ้องซ้ำตาม ป.วิ.แพ่ง ม.148
โจทก์เคยฟ้องขับไล่จำเลยและเรียกค่าเสียหายแล้ว ในคดีนั้นโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายตั้งแต่วันผิดนัดถึงวันฟ้องเท่านั้น คดีถึงที่สุดชั้นศาลฎีกาพิพากษาให้ค่าเสียหายเพียงแค่วันฟ้อง ดังนี้ แม้ปรากฎว่าจำเลยเพิ่งจะส่งมอบห้องพิพาทแก่โจทก์ โจทก์จะกลับมาฟ้องขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายนับตั้งแต่วันฟ้องในคดีก่อนจนถึงวันจำเลยส่งมอบห้องพิพาทใหม่อีกไม่ได้
ค่าเสียหายที่โจทก์ฟ้องใหม่นี้ โจทก์มีทางจะเรียกรวมไปในคดีก่อน และศาลก็อาจพิพากษาให้จำเลย+ได้อยู่แล้วเป็นฟ้องในประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกับคดีก่อน ต้องห้ามตามป.วิ.แพ่ง มาตรา 148

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1454/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจพิเศษของบริวารเช่าช่วงหลังขับไล่ และความหมายของ 'บริวาร' ตาม ป.วิ.แพ่ง
ข้อกฎหมายที่จะยกขึ้นอ้างอิงในฎีกานั้นคู่ความจะต้องได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์
ข้อที่โจทก์ยังไม่ได้ขอให้ศาลบังคับจำเลยให้ปฏิบัติตามสัญญายอมความจะบังคับบริวารของจำเลยได้หรือยังนั้นไม่เกี่ยวความสงบเรียบร้อยของประชาชนตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา 249
อำนาจพิเศษซึ่งวงศ์ญาติและบริวารจำเลยที่อยู่บนอสังหาริมทรัพย์ของโจทก์จะใช้บันโจทก์ได้ภายหลังที่ศาลได้ พิพากษาให้ขับไล่จำเลยออกจากที่ของโจทก์แล้วนั้นต้องเป็นอำนาจที่จะใช้ยันตัวโจทก์ได้เอง
คำว่า "บริวาร" ตามป.วิ.แพ่ง.ม.142(1) กับ "ครอบครัว" นั้นต่างกัน "บริวาร" ตรงกับคำว่า "+" หมายถึงผู้ที่อาศัยสิทธิของผู้อื่น อาจจะเป็นบุคคลในหรือนอกครอบครัวของผู้นั้นก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 871/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการวินิจฉัยข้อเท็จจริงของศาลอุทธรณ์ตาม ป.วิ.แพ่ง ม.238 และการไม่ยกข้อต่อสู้ในฎีกา
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าของโจทก์ ศาลชั้นต้นฟังว่าห้องเช่าเป็นเคหะ จึงพิพากษายกฟ้องแต่ศาล อุทธรณ์ฟังว่า ไม่ใช่เคหะ จึงพิพากษากลับให้ขับไล่จำเลย ่จำเลยฎีกาเพียงว่าคดีนี้ศาลชั้นต้นรับอุทธรณ์เฉพาะใน ขจ้อกฎหมาย ศาลอุทธรณ์กลับมาวินิจฉัยข้อเท็จจริง ศาลอุทธรณ์กลับมาวินิจฉัยข้อเท็จจริง ไม่ชอบด้วยป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 238 ส่วนข้อที่ว่าห้องเช่าไม่ใช่เคหะนั้น จำเลยมิได้คัดค้านในฎีกามา ดังนี้ เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าที่จำเลยฎีกา ขึ้นมาฟังไม่ขึ้นแล้ว ก็ไม่ต้องวินิจฉัยเรื่องเคหะต่อไป./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 992/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บริวารของผู้เช่าช่วง: คำพิพากษาขับไล่ใช้บังคับถึงผู้เช่าช่วงได้ตาม ป.วิ.แพ่ง
เจ้าของที่ดินฟ้องขับไล่ผู้เช่าที่ดินปลูกห้องแถวให้คนเช่า จนศาลพิพากษาขับไล่ผู้เช่าที่ดินให้รื้อถอนห้องแถวออกไปจากที่ดินของเจ้าของที่ดินแล้ว ดังนี้ ผู้ซึ่งเช่าห้องแถวอยู่จากผู้เช่าที่ดิน ก็ย่อมเป็นบริวารของผู้เช่าที่ดิน คำพิพากษาและคำบังคับของศาลจึงใช้บังคับแก่ผู้เช่าห้องแถวได้ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 142(1) เจ้าของที่ดินหาจำเป็นจะต้องไปฟ้องผู้เช่าห้องแถวเป็นคดีขึ้นอีกไม่ เมื่อผู้เช่าห้องแถวมีอำนาจพิเศษอย่างไร ก็ชอบที่จะแสดงให้ศาลเห็นได้ เมื่อผู้เช่าห้องแถวมิได้แสดงอำนาจพิเศษอย่างใดแล้ว จะอ้าง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ มาใช้บังคับเจ้าของที่ดินไม่ได้ เพราะผู้เช่าห้องแถวมิใช่ผู้เช่าหรือผู้เช่าช่วงที่ดินจากเจ้าของที่ดิน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 342/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่ง ม.148 กรณีพิพาทเดิมถึงที่สุดแล้ว
เจ้าอธิบดีการวัดฟ้องขับไล่โจทก์กับพวกออกจากที่พิพาทจนศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของวัด ให่ขับไล่
โจทก์กับพวกออกจากทีพิพาท คดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์กลับมาฟ้องเจ้าอธิการวัด เป็นจำเลยอีก ขอให้ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ และให้เพิกถอนคำพิพากษาคดีก่อนนั้นเสีย ดังนี้ ย่อมเป็นฟ้องซ้ำต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 148
การยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ในกรณีที่ขาดนัดยื่นคำให้การนั้น จะต้องดำเนินกระบวนพิจารณามนคดีที่ศาลพิจารณาโดยถือว่าขาดนัดนั้นเอง จะมาฟ้องเป็นคดีใหม่ ไม่ได้
of 4