พบผลลัพธ์ทั้งหมด 62 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 827/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษกักกันผู้กระทำผิดซ้ำ ศาลฎีกาพิจารณาเงื่อนไขตามประมวลกฎหมายอาญาแทน พ.ร.บ.กักกันผู้ร้าย
โจทก์ฟ้องขอให้กักกันจำเลยในฐานเป็นผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย โดยจำเลยเคยทำผิดต้องโทษจำคุกอันมิใช่ประมาทหรือลหุโทษมา 4 ครั้ง และมาทำผิดฐานชิงทรัพย์อีก โจทก์จึงฟ้องขอให้กักกันจำเลยฐานเป็นผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย เมื่อคดีมาสู่ศาลฎีกาเมื่อใช้ประมวลกฎหมายอาญาแล้ว ศาลฎีกาเห็นว่าการลงโทษผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายตาม พ.ร.บ. กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย พ.ศ. 2479 นั้น มีบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญาแล้ว ศาลฎีกาจึงยกบทบัญญัติใน ประมวลกฎหมายอาญาอันมีมาตรา 43, 41 เป็นต้นมาใช้แทน และชี้ว่าตาม ม.43 โจทก์มีอำนาจแยกฟ้องได้ แต่ตาม ม.41 จะลงโทษกักกันได้ต่อเมื่อจำเลยเคยต้องโทษกักกันมาแล้ว หรือเคยถูกศาลพิพากษาให้จำคุกมาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง และมาทำผิด จำเลยนี้เคยต้องโทษเกิน 6 เดือนครั้งเดียว จึงยังฟ้องให้ลงโทษกักกันจำเลย ไม่ได้ ให้ยกฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1524/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษผู้กระทำผิดซ้ำ และหลักการใช้กฎหมายที่เป็นคุณต่อจำเลย
ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้เพิ่มโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญา มาตรา 72 เพราะจำเลยเคยต้องโทษปรับฐานมีอาวุธปืนไม่รับอนุญาตมาแล้ว ไม่เข็ดหลาบนั้น บัดนี้ ได้มีประมวลกฎหมายอาญา มง 92 บัญญัติให้เพิ่มโทษผู้กระทำผิดอีกเฉพาะผู้ที่ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกมาแล้ว ศาลต้องใช้กฎหมายในส่วนที่เป็นคุณแก่ผู้กระทำผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา ม. 3 จะเพิ่มโทษจำเลยไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 771/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ พ.ร.บ.กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายกับผู้กระทำผิดซ้ำ ไม่ขัดต่อกฎหมายอาญาและรัฐธรรมนูญ
พ.ร.บ.กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย เป็น ก.ม.พิเศษใช้กับผู้กระทำผิดทางอาญาถูกจำคุกหลายครั้งไม่เข็ดหลาบหาขัดกับ ก.ม.อาญา ม.25 ไม่ ศาลย่อมยกขึ้นใช้ปรับบทแก่จำเลยในกรณีเช่นนี้ได้ ทั้งไม่ขัดต่อ ก.ม.รัฐธรรมนูญแต่อย่างใด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 771/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้กฎหมายกักกันผู้กระทำผิดซ้ำเพื่อเพิ่มโทษจำคุก ไม่ขัดต่อกฎหมายอาญาและรัฐธรรมนูญ
พระราชบัญญัติกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายเป็น กฎหมายพิเศษใช้กับผู้กระทำผิดทางอาญาถูกจำคุกหลายครั้งไม่เข็ดหลาบหาขัดกับกฎหมายอาญา มาตรา 25 ไม่ ศาลย่อมยกขึ้นใช้ปรับบทแก่จำเลยในกรณีเช่นนี้ได้ ทั้งไม่ขัดต่อ กฎหมายรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 638/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกักกันผู้กระทำผิดซ้ำหลังพ้นโทษ: ไม่ติดอายุความตาม ม.78 อาญา
การกักกันตาม พ.ร.บ.กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายเป็นโทษอาญาสถานหนึ่ง ซึ่งศาลจะพึงลงโทษแก่ผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายจะต้องรับสำหรับเหตุร้ายที่กระทำไป ถึงแม้โทษครั้งหลังที่สุดที่จำเลยได้รับมาจะพ้น 9 ปี 6 เดือนแล้วก็ตามการขอให้กักกันในคดีนี้หาใช่เป็นเรื่องฟ้องความซึ่งมีกำหนดเวลาที่จะฟ้องตาม ก.ม.อาญา ม.78 ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 257/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษจำคุกทวีคูณสำหรับผู้กระทำผิดซ้ำภายใน 5 ปี
การที่จำเลยเคยต้องโทษมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 ฐานลักทรัพย์ตามมาตรา 295 จำคุก 3 ปีครั้งที่ 2 ฐานชิงทรัพย์ตาม มาตรา299 จำคุก 1 ปี 6 เดือน แล้วกลับมากระทำผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ในคดีนี้อีก (เป็นครั้งที่ 3) ภายใน 5 ปีดังนี้ จำต้องเพิ่มโทษจำเลยเป็นทวีคูณตามมาตรา74 (อ้างฎีกาที่ 1266/2481)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1270/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษกักกันผู้กระทำผิดซ้ำ: จำเลยต้องโทษจำคุกจริงไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง จึงจะเพิ่มโทษกักกันได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยตาม ก.ม.อาญา ม.288,60 มีกำหนด 1 ปี จำเลยมีอายุไม่เกิน 20 ปีลดให้1 ใน 3 คงจำ 8 เดือน เพิ่มตาม ม.73 อีกกึ่งหนึ่งและลดฐานรับสารภาพให้ 1 ใน 3 คงให้จำคุกไว้ 8 เดือน เมื่อจำเลยพ้นโทษแล้วให้ส่งตัวไปกักกันมีกำหนด 3 ปี ตาม พ.ร.บ.กักกันผู้มีสันดาน เป็นผู้ร้าย พ.ศ.2479 ม.8,9
แต่เมื่อปรากฎว่าจำเลยต้องคำพิพากษาว่ากระทำผิดมาแล้ว 5 ครั้ง ๆ ที่ 1 ฐานวิ่งราวทรัพย์ให้เรียกทัณฑ์บล ครั้งที่ 2 ฐานวิ่งราวทรัพย์ให้ส่งโรงเรียนดัดสันดานมีกำหนด 3 ปี ครั้งที่ 3 ฐานเล่นการพนันไพ่ปรับ 30 บาท ครั้งที่ 4 ฐานวิ่งราวทรัพย์ให้ส่งสถานพินิจผึกและอบรม ครั้งที่ 5 ฐานวิ่งราวทรัพย์ให้จำคุก 2 ปี เห็นได้ว่าจำเลยได้รับโทษจำคุกจริงคือสำหรับครั้งที่ 5 นี้เท่านั้น จึงเพิ่มโทษกักกันจำเลยไม่ได้
แต่เมื่อปรากฎว่าจำเลยต้องคำพิพากษาว่ากระทำผิดมาแล้ว 5 ครั้ง ๆ ที่ 1 ฐานวิ่งราวทรัพย์ให้เรียกทัณฑ์บล ครั้งที่ 2 ฐานวิ่งราวทรัพย์ให้ส่งโรงเรียนดัดสันดานมีกำหนด 3 ปี ครั้งที่ 3 ฐานเล่นการพนันไพ่ปรับ 30 บาท ครั้งที่ 4 ฐานวิ่งราวทรัพย์ให้ส่งสถานพินิจผึกและอบรม ครั้งที่ 5 ฐานวิ่งราวทรัพย์ให้จำคุก 2 ปี เห็นได้ว่าจำเลยได้รับโทษจำคุกจริงคือสำหรับครั้งที่ 5 นี้เท่านั้น จึงเพิ่มโทษกักกันจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1270/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษกักกันผู้กระทำผิดซ้ำ: ต้องมีโทษจำคุกจริง 2 ครั้งขึ้นไป จึงจะเพิ่มโทษได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยตามกฎหมายอาญา มาตรา 288,60 มีกำหนด 1 ปี จำเลยมีอายุไม่เกิน 20 ปี ลดให้ 1 ใน 3 คงจำ 8 เดือน เพิ่มตาม มาตรา 73 อีกกึ่งหนึ่งและลดฐานรับสารภาพให้ 1 ใน 3 คงให้จำคุกไว้ 8 เดือนเมื่อจำเลยพ้นโทษแล้วให้ส่งตัวไปกักกันมีกำหนด 3 ปีตาม พระราชบัญญัติกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย พ.ศ.2479 มาตรา 8,9
แต่เมื่อปรากฏว่าจำเลยต้องคำพิพากษาว่ากระทำผิดมาแล้ว 5 ครั้งๆ ที่ 1 ฐานวิ่งราวทรัพย์ให้เรียกทัณฑ์บน ครั้งที่ 2 ฐานวิ่งราวทรัพย์ให้ส่งโรงเรียนดัดสันดานมีกำหนด 3 ปี ครั้งที่ 3 ฐานเล่นการพนันไพ่ปรับ 30บาท ครั้งที่ 4 ฐานวิ่งราวทรัพย์ให้ส่งสถานพินิจฝึกและอบรม ครั้งที่ 5 ฐานวิ่งราวทรัพย์ให้จำคุก 2 ปี เห็นได้ว่าจำเลยได้รับโทษจำคุกจริงคือสำหรับครั้งที่ 5 นี้เท่านั้นจึงเพิ่มโทษกักกันจำเลยไม่ได้
แต่เมื่อปรากฏว่าจำเลยต้องคำพิพากษาว่ากระทำผิดมาแล้ว 5 ครั้งๆ ที่ 1 ฐานวิ่งราวทรัพย์ให้เรียกทัณฑ์บน ครั้งที่ 2 ฐานวิ่งราวทรัพย์ให้ส่งโรงเรียนดัดสันดานมีกำหนด 3 ปี ครั้งที่ 3 ฐานเล่นการพนันไพ่ปรับ 30บาท ครั้งที่ 4 ฐานวิ่งราวทรัพย์ให้ส่งสถานพินิจฝึกและอบรม ครั้งที่ 5 ฐานวิ่งราวทรัพย์ให้จำคุก 2 ปี เห็นได้ว่าจำเลยได้รับโทษจำคุกจริงคือสำหรับครั้งที่ 5 นี้เท่านั้นจึงเพิ่มโทษกักกันจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 913/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษกักกันผู้กระทำผิดซ้ำโดยอาศัยบททำร้ายร่างกาย แม้ลงโทษตามบทหนักอื่น
เมื่อศาลพิพากษาจำเลยกระทำผิดตาม ก.ม.อาญา ม.119,120,254 ดังนี้แม้ศาลจะใช้ ม.120 เป็นบทลงโทษจำเลยก็ดี ก็เป็นเรื่องปรับบทลงโทษจำเลยตาม ก.ม.เท่านั้น คดียังต้องฟังว่าจำเลยได้กระทำผิดฐานทำร้ายร่างกายตาม ม. 254 ซึ่งเป็นความอาญาอันเป็นเหตุร้ายตาม พ.ร.บ.กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย พ.ศ. 2479 ถ้ามีเหตุสมควรศาลก็มีอำนาจเพิ่มโทษกักกันจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 913/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษกักกันผู้กระทำผิดซ้ำ โดยอาศัยประวัติอาชญากรรมเดิมและความร้ายแรงของคดีทำร้ายร่างกาย
เมื่อศาลพิพากษาว่า จำเลยกระทำผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญามาตรา 119,120,25 ดังนี้แม้ศาลจะใช้ มาตรา 120 เป็นบทลงโทษจำเลยก็ดี ก็เป็นเรื่องปรับบทลงโทษจำเลยตามกฎหมาย เท่านั้นคดียังต้องฟังว่าจำเลยได้กระทำผิดฐานทำร้ายร่างกายตาม มาตรา 254 ซึ่งเป็นความอาญาอันเป็นเหตุร้ายตามพระราชบัญญัติกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย พ.ศ.2479 ถ้ามีเหตุสมควรศาลก็มีอำนาจเพิ่มโทษกักกันจำเลยได้