คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ผู้ซื้อสุจริต

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 37 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2927-2929/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจเจ้าพนักงานท้องถิ่นสั่งรื้อถอนอาคารผิดแบบ แม้ผู้ซื้อเป็นผู้สุจริต
พระราชบัญญัติควบคุมอาคารฯ มาตรา 40,42 ให้อำนาจแก่เจ้าพนักงานท้องถิ่นที่จะสั่งให้ผู้ดำเนินการหรือผู้ควบคุมงานรวมทั้งเจ้าของหรือผู้ครอบครองระงับการก่อสร้างที่ผิดแบบแปลนที่ได้รับอนุญาต และหากการกระทำนั้นไม่สามารถแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงให้ถูกต้องได้ ก็มีอำนาจสั่งให้รื้อถอนอาคารนั้นทั้งหมดหรือบางส่วนภายในเวลาที่กำหนด บทกฎหมายนี้ได้ให้อำนาจแก่เจ้าพนักงานท้องถิ่นสั่งรวมไปถึงเจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารที่ก่อสร้างผิดแบบแปลนดังกล่าวด้วย ดังนั้นแม้จำเลยซื้ออาคารจาก อ. มาโดยสุจริตโดยไม่ได้ดัดแปลงต่อเติมอาคารพิพาทก็ตาม แต่เมื่อโจทก์ได้แจ้งให้จำเลยรื้อถอนอาคารพิพาทในส่วนที่ผิดแบบแปลนก่อสร้างที่ได้รับอนุญาตให้จำเลยทราบโดยชอบแล้ว จำเลยไม่ปฏิบัติ โจทก์จึงมีสิทธิที่จะขอบังคับให้จำเลยรื้อถอนอาคารได้ หากจำเลยต้องเสียหายอย่างใดก็เป็นเรื่องที่จะต้องว่ากล่าวเอากับผู้ที่ทำให้จำเลยต้องรับผิดรื้อถอนอาคารต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2167/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการโอนทรัพย์สินเพื่อล้มละลาย: การซื้อขายโดยใช้ชื่อผู้อื่นและการคุ้มครองผู้ซื้อสุจริต
การที่จำเลยและภริยาซื้อที่ดินพิพาทจากผู้มีชื่อ แล้วใส่ชื่อผู้คัดค้านที่ 1 เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์แทน ที่ดินพิพาทจึงเป็นสินสมรสระหว่างจำเลยและภริยาหาใช่ของผู้คัดค้านที่ 1 ไม่ ทั้งการกระทำดังกล่าวของจำเลยก็อยู่ในระยะเวลา 3 ปี ก่อนมีการขอให้ล้มละลาย จึงต้องด้วยมาตรา 114 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย ฯ ซึ่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ชอบที่จะยื่นคำขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการกระทำเฉพาะส่วนของจำเลยเสียได้ และการที่ผู้คัดค้านที่ 1 ได้โอนที่ดินพิพาทไปยังผู้คัดค้านที่ 2 ภายหลังที่มีการขอให้จำเลยล้มละลายแล้ว แม้จะฟังว่าผู้คัดค้านที่ 2 รับโอนโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนก็ตาม ผู้คัดค้านที่ 2 ก็หาได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 116 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย ฯ แต่อย่างใดไม่ ศาลย่อมมีอำนาจเพิกถอนสิทธิในทรัพย์พิพาทกึ่งหนึ่งกลับมาเป็นของจำเลย โดยให้ใส่ชื่อจำเลยเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในส่วนดังกล่าว หากไม่สามารถโอนใส่ชื่อจำเลยเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ได้ ผู้คัดค้านทั้งสองต้องร่วมกันชดใช้เงินเป็นจำนวนกึ่งหนึ่งของราคาทรัพย์พิพาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2898/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้ซื้อสุจริตจากการขายทอดตลาด: คุ้มครองแม้เจ้าของที่แท้จริงพิสูจน์ได้ภายหลัง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330 บัญญัติขึ้นเพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดของศาลโดยสุจริต แม้ภายหลังโจทก์ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดินที่แท้จริง จะขอนำสืบพิสูจน์ว่าที่ดินพิพาทมิใช่ของจำเลยที่ 3 ก็ไม่อาจทำให้จำเลยที่ 2 ผู้ซื้อทรัพย์นั้นเสีย สิทธิไปถ้า จำเลยที่ 2 สุจริต โจทก์มิได้นำสืบว่าจำเลยที่ 2 ไม่สุจริตอย่างไร ดังนั้นโจทก์ผู้ซึ่งอ้างว่า เป็นเจ้าของที่ดินพิพาทที่แท้จริง จะอ้างประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330 ขอให้บังคับให้จำเลยที่ 2 คืนหรือใช้ราคาที่ดินพิพาท หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2326/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเรียกคืนทรัพย์สินจากผู้ซื้อโดยสุจริต: ใช้หลักอายุความทั่วไป 10 ปี
กรณีเรียกคืนทรัพย์ที่มีผู้ซื้อโดยสุจริตในท้องตลาดหรือจากพ่อค้าซึ่งขายของชนิดนั้น มิได้มีบทบัญญัติเรื่องอายุความไว้โดยเฉพาะจึงต้องอาศัยอายุความตามหลักทั่วไป คือมีกำหนดสิบปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1673/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดิน: การโอนสิทธิโดยไม่ชอบ และผลกระทบต่อผู้ซื้อโดยสุจริต
การที่ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยทำฎีกามายื่นใหม่ พร้อมกับชำระค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาภายในกำหนด 7 วัน และสั่งรับฎีกาจำเลยไว้เป็นการสั่งตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา18 ศาลชอบที่จะกำหนดระยะเวลาให้ได้
ก. ทำนาพิพาทที่จำเลยมีส่วนเป็นเจ้าของครอบครองอยู่ด้วยไปขอรับหนังสือรับรองการทำประโยชน์ แล้วทำนิติกรรมขายให้โจทก์ที่อำเภอโดยจำเลยมิได้ยินยอมให้ ก. ขายที่นาพิพาทส่วนของจำเลยการที่ ก. ได้รับหนังสือรับรองการทำประโยชน์ดังกล่าว จึงไม่ก่อให้เกิดสิทธิครอบครองในที่นาพิพาทส่วนของจำเลยแม้โจทก์รับซื้อไว้โดยสุจริตเสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนแล้ว ก็ไม่มีสิทธิแต่อย่างใดเพราะผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน จะนำมาตรา1299,1300 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาใช้แก่กรณีมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2922/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดทรัพย์โดยมิชอบ: ผู้ซื้อสุจริตในตลาดมีสิทธิไม่คืนทรัพย์ให้เจ้าของเดิม หากเจ้าของเดิมไม่ชดใช้ราคาซื้อ
แม้จะปรากฏว่าทรัพย์ที่โจทก์นำยึดเป็นของโจทก์ไม่ใช่ของจำเลย แต่ผู้ร้องได้ซื้อมาโดยสุจริตในท้องตลาดผู้ร้องไม่จำต้องคืนให้แก่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของแท้จริงเว้นแต่ โจทก์จะชดใช้ราคาที่ซื้อมา ซึ่งเป็นสิทธิอย่างหนึ่งที่ผู้ร้องได้รับความคุ้มครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1332 โจทก์จึงนำยึดทรัพย์ดังกล่าวโดยไม่ชดใช้ราคา ที่ผู้ร้องซื้อมาไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2511/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ที่ดินจากการครอบครองปรปักษ์: สิทธิเหนือกว่าผู้ซื้อสุจริตเมื่อขาดการจดทะเบียน
โจทก์ได้กรรมสิทธิ์ที่ดินโดยครอบครองเกิน 10 ปี แต่ไม่ได้จดทะเบียน ใช้ยัน อ. ผู้ซื้อโดยสุจริตไม่ได้ โจทก์ครอบครองต่อมาไม่ถึง 10 ปี อ. ขายที่ดินต่อไปแก่จำเลย ไม่ว่าจำเลยสุจริตหรือไม่ โจทก์ก็ไม่มีสิทธิดีกว่าจำเลย คำสั่งศาลที่โจทก์ร้องขอให้แสดงว่าโจทก์ได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ใช้ยัน อ. และจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2292/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรอนสิทธิของผู้ซื้อรถยนต์โดยสุจริตจากพ่อค้า: ผู้ขายต้องรับผิดชำระราคาคืน
โจทก์ซื้อรถยนต์โดยสุจริตจากจำเลยซึ่งเป็นพ่อค้าผู้ขายของชนิดนั้น แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มายึดรถยนต์นั้นจากโจทก์ไปเป็นของกลางในคดีอาญา และศาลอาญาพิพากษาให้คืนรถยนต์แก่ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของที่แท้จริง แม้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1332 โจทก์มีสิทธิ์ไม่จำต้องคืนรถยนต์ที่ซื้อขายให้แก่เจ้าของที่แท้จริงเว้นแต่เจ้าของจะชดใช้ราคาที่ซื้อมาแต่วัตถุประสงค์ของโจทก์ในการซื้อรถยนต์ก็เพื่อจะได้รถยนต์มาเป็นกรรมสิทธิ์ หาใช่เพื่อรับชดใช้ราคาคืนไม่ และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 475 ก็มิได้ บัญญัติว่า ผู้ซื้อทรัพย์โดยสุจริตตามมาตรา 1332 ไม่ อยู่ในฐานะที่จะถูกรอนสิทธิดังนั้น เมื่อเจ้าของที่แท้จริงมารบกวนขัดสิทธิโจทก์ผู้ซื้อและโจทก์จำต้องคืนรถยนต์ให้ไปตามคำพิพากษาของศาลไม่ว่าโจทก์จะได้รับชดใช้ราคาที่ซื้อมาหรือมีสิทธิได้รับชดใช้ราคาหรือไม่ ก็ต้องถือว่าโจทก์ถูกรอนสิทธิซึ่งจำเลยผู้ขายต้องรับผิดในผลนั้น
การที่โจทก์จำต้องยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดรถยนต์ไปและศาลอาญาได้พิพากษาให้คืนแก่เจ้าของที่แท้จริงไปแล้ว รถยนต์ที่ซื้อขายจึงหลุดไปจากโจทก์ผู้ซื้อ จำเลยผู้ขายต้องรับผิดชำระราคารถยนต์คืนให้โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 479 และใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ตามมาตรา 475 (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 26/2515)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในที่ดิน: ผู้ซื้อโดยสุจริตย่อมได้สิทธิเหนือผู้ครอบครองก่อน แม้ผู้ครอบครองจะครอบครองก่อนและแจ้งการครอบครอง
ซื้อที่ดินมีโฉนด ทำนิติกรรมซื้อขายต่อเจ้าพนักงานที่ดิน เมื่อชำระเงินค่าซื้อเรียบร้อยแล้วก็ได้จดทะเบียนโอนโฉนดกันตามระเบียบโดยถูกต้องตามกฎหมาย อันเป็นการกระทำโดยเปิดเผยและเสียค่าตอบแทนโดยสุจริตทั้งได้จดทะเบียนโดยสุจริต แม้จำเลยจะได้ครอบครองที่ดินในโฉนดบางส่วนจนได้กรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382แต่กรรมสิทธิ์ดังกล่าวนี้กฎหมายยังไม่รับรองเด็ดขาดจนกว่าจะได้จดทะเบียนสิทธินั้นแล้ว กรรมสิทธิ์อันยังมิได้จดทะเบียนจะยกขึ้นต่อสู้ผู้ซื้อซึ่งเป็นบุคคลภายนอกซึ่งรับโอนโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริต ทั้งได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 ซึ่งเป็นบทยกเว้นหลักกฎหมายทั่วไปว่า ผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน
การแจ้งการครอบครองที่ดินตามพระราชบัญญัติ ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 ไม่ก่อให้เกิดสิทธิขึ้นใหม่แก่ผู้แจ้งประการใด การแจ้งการครอบครองที่ดินนั้นเป็นเพียงการแสดงเจตนาอย่างหนึ่งว่า ผู้แจ้งการครอบครองยังไม่สละสิทธิครอบครองที่ดินที่แจ้ง ถ้าผู้ครอบครองไม่แจ้งการครอบครองในระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ให้ถือว่าสละสิทธิครอบครองที่ดินแปลงนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 205/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนโฉนดที่ดินทับซ้อน และความรับผิดของกรมที่ดินเมื่อผู้ซื้อโอนโดยสุจริต
เมื่อเจ้าหน้าที่ของกรมที่ดินได้ตรวจสอบเขตตามที่เจ้าของที่ดินหรือตัวแทนนำชี้ และการออกโฉนดก็ได้ปฏิบัติตามระเบียบ เช่นนี้ ย่อมเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามสมควรแล้ว หากเขตเนื้อที่ในโฉนดไม่ถูกต้อง จะถือว่าเป็นความผิดของเจ้าหน้าที่กรมที่ดินย่อมไม่ได้ ผู้ซื้อที่ดินมีโฉนดมาโดยสุจริตและจดทะเบียนโดยถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ไม่อาจได้กรรมสิทธิ์เพราะที่ดินเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน เช่นนี้ ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้กรมที่ดินต้องรับผิด
อธิบดีกรมที่ดินมีอำนาจสั่งเพิกถอนโฉนดที่ไม่ถูกต้องได้ ไม่ว่าเป็นโฉนดที่ออกมาก่อนหรือภายหลังวันใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน
of 4