พบผลลัพธ์ทั้งหมด 17 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 696/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่นำสืบและการใช้พยานผู้เชี่ยวชาญ: ศาลต้องเปิดโอกาสให้คู่ความนำสืบพยานหลักฐานอื่นประกอบ แม้ผู้เชี่ยวชาญจะมีความเห็นแล้ว
เมื่อคู่ความฝ่ายใดรับจะนำสืบก่อนฝ่ายนั้นก็ต้องนำสืบก่อน โดยไม่ต้องคำนึงว่าตามรูปคดีเป็นหน้าที่ของฝ่ายใดจะต้องนำสืบก่อน
แม้โจทก์เป็นฝ่ายขอให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์ลายเซ็นต์ผู้ทำพินัยกรรม แต่ถ้าโจทก์จำเลยมิได้ตกลงท้ากันให้ถือเอาความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเป็นข้อแพ้ชนะคดีเช่นนี้ จะถือเอาผลการตรวจพิสูจน์นั้น เป็นเด็ดขาดไม่ได้ ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเช่นนี้ เป็นแต่เพียงพยานหลักฐานอันหนึ่งในบรรดาพยานหลักฐานทั้งหลายอื่นที่โจทก์อาจนำสืบเพื่อแสดงว่าพินัยกรรมนั้นปลอม ลำพังแต่เพียงความเห็นของผู้เชี่ยวชาญดังกล่าว ยังไม่เป็นเหตุเพียงพอที่ศาลจะชี้ขาดความแท้จริงหรือความถูกต้องแห่งพินัยกรรมตาม ป.วิ.พ. มาตรา 126
แม้โจทก์เป็นฝ่ายขอให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์ลายเซ็นต์ผู้ทำพินัยกรรม แต่ถ้าโจทก์จำเลยมิได้ตกลงท้ากันให้ถือเอาความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเป็นข้อแพ้ชนะคดีเช่นนี้ จะถือเอาผลการตรวจพิสูจน์นั้น เป็นเด็ดขาดไม่ได้ ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเช่นนี้ เป็นแต่เพียงพยานหลักฐานอันหนึ่งในบรรดาพยานหลักฐานทั้งหลายอื่นที่โจทก์อาจนำสืบเพื่อแสดงว่าพินัยกรรมนั้นปลอม ลำพังแต่เพียงความเห็นของผู้เชี่ยวชาญดังกล่าว ยังไม่เป็นเหตุเพียงพอที่ศาลจะชี้ขาดความแท้จริงหรือความถูกต้องแห่งพินัยกรรมตาม ป.วิ.พ. มาตรา 126
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 588/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเคลือบคลุม, การรับฟังพยานผู้เชี่ยวชาญ, และประเภทหนังสือสำคัญทางราชการ: ผลต่อความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร
จำเลยตัดฟ้องว่าโจทก์เคลือบคลุม (อ้างว่าข้อ 1.ค.กล่าวว่าจำเลยทั้งสองได้บังอาจสมคบกันใช้อุบายหลอกลวงกล่าวเท็จแก่นายเจริญ ซึ่งแสดงว่าได้ใช้อุบายหลอกลวงกล่าวเท็จทั้งสองคน แต่ในข้อเดียวกันก็กล่าวว่าจำเลยที่ 2 แต่คนเดียวเป็นผู้กล่าวว่ากองทัพอากาศได้ใช้ให้จำเลยมาเก็บเงิน ฟ้องเช่นนี้เป็นสองแง่สองคม ทำให้จำเลยเสียเปรียบและหลงข้อต่อสู้) แต่เมื่ออ่านฟ้องแล้วได้ความว่าโจทก์กล่าวหาว่าจำเลยทั้ง 2 สมคบกันทำใบเสร็จปลอมขึ้นหรือมิฉะนั้นก็สมคบกันใช้หนังสือปลอม โดยจำเลยที่ 1 ใช้ให้ จำเลยที่ 2 นำใบเสร็จปลอมไปเก็บเงิน จำเลยเข้าใจได้ดีไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบหรือหลงข้อต่อสู้จึงไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
เมื่อพยานมาเบิกความยังศาลโดยถูกโจทก์อ้างในฐานเป็นผู้ชำนาญการตรวจลายมือ (ตามป.วิ.อาญา ม.243 วรรคแรก) ศาลมิได้สั่งให้พยานทำความเห็นเป็นหนังสือ ดังนี้พยานจึงไม่อยู่ในบังคับต้องส่งสำเนาเอกสารการตรวจลายมือให้จำเลยก่อน 3 วันตาม ป.วิ.อาญา ม.243 วรรค 2
เมื่อโจทก์ไม่ได้สืบให้เห็นว่าหนังสือข่าวทหารอากาศเป็นส่วนราชการในกองทัพอากาศอย่างไรรายรับรายจ่ายของหนังสือนี้ก็ไม่ปรากฏว่าใช้จ่ายในเงินของราชการหรือไม่ประการใด ดังนี้แม้กองทัพอากาศจะเป็นเจ้าของและรองเสนาธิการทหารอากาศเป็นบรรณาธิการก็ดี ก็ยังฟังไม่ได้ว่าเป็นหนังสือราชการของกองทัพอากาศ จำเลยปลอมใบเสร็จรับเงินหนังสือข่าวดังกล่าวจึงมีความผิดตาม ม.224 ไม่ใช่ 225.
เมื่อพยานมาเบิกความยังศาลโดยถูกโจทก์อ้างในฐานเป็นผู้ชำนาญการตรวจลายมือ (ตามป.วิ.อาญา ม.243 วรรคแรก) ศาลมิได้สั่งให้พยานทำความเห็นเป็นหนังสือ ดังนี้พยานจึงไม่อยู่ในบังคับต้องส่งสำเนาเอกสารการตรวจลายมือให้จำเลยก่อน 3 วันตาม ป.วิ.อาญา ม.243 วรรค 2
เมื่อโจทก์ไม่ได้สืบให้เห็นว่าหนังสือข่าวทหารอากาศเป็นส่วนราชการในกองทัพอากาศอย่างไรรายรับรายจ่ายของหนังสือนี้ก็ไม่ปรากฏว่าใช้จ่ายในเงินของราชการหรือไม่ประการใด ดังนี้แม้กองทัพอากาศจะเป็นเจ้าของและรองเสนาธิการทหารอากาศเป็นบรรณาธิการก็ดี ก็ยังฟังไม่ได้ว่าเป็นหนังสือราชการของกองทัพอากาศ จำเลยปลอมใบเสร็จรับเงินหนังสือข่าวดังกล่าวจึงมีความผิดตาม ม.224 ไม่ใช่ 225.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 588/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเคลือบคลุม, พยานผู้เชี่ยวชาญ, และหนังสือสำคัญทางราชการ: การพิจารณาความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร
จำเลยตัดฟ้องว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม (อ้างว่าข้อ 1.ค. กล่าวว่าจำเลยทั้งสองได้บังอาจสมคบกันใช้อุบายหลอกลวงกล่าวเท็จแก่นายเจริญ ซึ่งแสดงว่าได้ใช้อุบายหลอกลวงกล่าวเท็จทั้งสองคนแต่ในข้อเดียวกันก็กล่าวว่าจำเลยที่ 2 แต่คนเดียวเป็นผู้กล่าวว่ากองทัพอากาศได้ใช้ให้จำเลยมาเก็บเงินฟ้องเช่นนี้เป็นสองแง่สองคมทำให้จำเลยเสียเปรียบและหลงข้อต่อสู้) แต่เมื่ออ่านฟ้องแล้วได้ความว่าโจทก์กล่าวหาว่าจำเลยทั้ง 2 สมคบกันทำใบเสร็จปลอมขึ้นหรือมิฉะนั้นก็สมคบกันใช้หนังสือปลอมโดยจำเลยที่ 1 ใช้ให้จำเลยที่ 2 นำใบเสร็จปลอมไปเก็บเงินจำเลยเข้าใจได้ดีไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบหรือหลงข้อต่อสู้จึงไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
เมื่อพยานมาเบิกความยังศาลโดยถูกโจทก์อ้างในฐานเป็นผู้ชำนาญการตรวจลายมือ (ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 243 วรรคแรก) ศาลมิได้สั่งให้พยานทำความเห็นเป็นหนังสือดังนี้พยานจึงไม่อยู่ในบังคับต้องส่งสำเนาเอกสารการตรวจลายมือให้จำเลยก่อน 3 วันตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 243 วรรคสอง
เมื่อโจทก์ไม่ได้สืบให้เห็นว่าหนังสือข่าวทหารอากาศเป็นส่วนราชการในกองทัพอากาศอย่างไรรายรับรายจ่ายของหนังสือนี้ก็ไม่ปรากฏว่าใช้จ่ายในเงินของราชการหรือไม่ ประการใดดังนี้แม้กองทัพอากาศจะเป็นเจ้าของและรองเสนาธิการทหารอากาศเป็นบรรณาธิการก็ดีก็ยังฟังไม่ได้ว่าเป็นหนังสือราชการของกองทัพอากาศจำเลยปลอมใบเสร็จรับเงินหนังสือข่าวดังกล่าวจึงมีความผิดตาม มาตรา 224 ไม่ใช่ 225
เมื่อพยานมาเบิกความยังศาลโดยถูกโจทก์อ้างในฐานเป็นผู้ชำนาญการตรวจลายมือ (ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 243 วรรคแรก) ศาลมิได้สั่งให้พยานทำความเห็นเป็นหนังสือดังนี้พยานจึงไม่อยู่ในบังคับต้องส่งสำเนาเอกสารการตรวจลายมือให้จำเลยก่อน 3 วันตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 243 วรรคสอง
เมื่อโจทก์ไม่ได้สืบให้เห็นว่าหนังสือข่าวทหารอากาศเป็นส่วนราชการในกองทัพอากาศอย่างไรรายรับรายจ่ายของหนังสือนี้ก็ไม่ปรากฏว่าใช้จ่ายในเงินของราชการหรือไม่ ประการใดดังนี้แม้กองทัพอากาศจะเป็นเจ้าของและรองเสนาธิการทหารอากาศเป็นบรรณาธิการก็ดีก็ยังฟังไม่ได้ว่าเป็นหนังสือราชการของกองทัพอากาศจำเลยปลอมใบเสร็จรับเงินหนังสือข่าวดังกล่าวจึงมีความผิดตาม มาตรา 224 ไม่ใช่ 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 633/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งเอกสารหลักฐานการสอบสวนประกอบคำเบิกความพยานผู้เชี่ยวชาญ ไม่จำเป็นต้องส่งสำเนาให้จำเลย
จำเลยไม่ได้ต่อสู้ว่าของกลางไม่ใช่ฝิ่น. โจทก์ไม่จำต้องส่งฝิ่นของกลางเป็นพยาน. โจทก์ระบุในบัญชีพยานว่า. อ้างสรรพเอกสารการสอบสวนในสำนวนการสอบสวนดังนี้. โจทก์ส่งรายงานพิสูจน์ฝิ่นซึ่งเป็นเอกสารในการสอบสวนได้โดยถือว่าได้ระบุอ้างแล้ว. โจทก์ส่งเอกสารนี้ประกอบคำเบิกความของพยานผู้ตรวจพิสูจน์ฝิ่นได้โดยไม่ต้องส่งสำเนาให้จำเลยทราบก่อนเพราะไม่ใช่เรื่องศาลสั่งให้ผู้ชำนาญทำความเห็น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1552/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความน่าเชื่อถือของพยานผู้เชี่ยวชาญและการรับฟังหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์
คำของพะยานผู้เชี่ยวชาญนั้นศาลไม่จำต้องรับฟังเสมอไป ต้องแล้วแต่คุณสมบัติความรู้ความชำนาญประกอบฉับความหนักเบาแห่งความเห็นที่ยืนยัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 545/2475
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์แรงแอลกอฮอล์ในคดีสุราเถื่อน: จำเลยให้การรับสารภาพไม่เพียงพอ โจทก์ต้องนำสืบพยานผู้เชี่ยวชาญ
น้ำกระแช่ดอง วิธีพิจารณาอาชญา โจทก์ต้องนำสืบว่ามีแรงแอลกอฮอล์ อย่างไรเรียกว่ารับสารภาพ ลักษณพะยาน ไม่นำผู้ตรวจมาสืบ และส่งใบชัณสูตรดีกรีอย่างเดียวไม่พอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2390-2391/2551
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงท้าทายผลคดี: การยอมรับข้อเท็จจริงตามคำตอบของพยานผู้เชี่ยวชาญ ถือเป็นการยอมแพ้คดี
โจทก์ จำเลยทั้งสองและผู้ร้องสอดตกลงท้ากันให้ถือเอาการตอบคำถามศาลของ น. เป็นข้อแพ้ชนะเป็นการยอมรับข้อเท็จจริงที่อีกฝ่ายหนึ่งอ้างตาม ป.วิ.พ. มาตรา 84 (1) โดยมีเงื่อนไขว่าต้องมีการดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างหนึ่งอย่างใดเสียก่อน ถ้าผลแห่งการดำเนินกระบวนพิจารณานั้นเป็นประโยชน์ต่อคู่ความฝ่ายใด อีกฝ่ายหนึ่งก็ต้องยอมรับข้อเท็จจริงตามข้ออ้างของอีกฝ่ายหนึ่งนั้นทั้งหมด เมื่อ น. ตอบคำถามศาลว่า ที่ดินพิพาทหมายเลข 1 ถึง 3 เป็นของจำเลยที่ 1 ส่วนที่ดินพิพาทหมายเลข 4 เป็นของจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของคำท้าทุกประการ แม้ว่าประเด็นของคดีไม่มีว่าที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยที่ 1 หรือจำเลยที่ 2 หรือไม่ โจทก์และผู้ร้องสอดก็ต้องเป็นฝ่ายแพ้คดีตามคำท้า