พบผลลัพธ์ทั้งหมด 101 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2709/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวที่พอสมควรแก่เหตุ เมื่อถูกทำร้ายก่อน ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยไปพบผู้เสียหายที่บ้านเพียงแต่ต้องการทวงบุตรคืนจากผู้เสียหายที่นำมาช่วยเลี้ยงให้ในฐานะที่เป็นพี่น้องกัน เมื่อผู้เสียหายไม่ยอมคืนให้จึงเกิดทะเลาะกันขึ้นจำเลยด่าผู้เสียหายและบอกว่าจะไปแจ้งความแล้วหันหลังเดินออกจากบ้านผู้เสียหายทันที แสดงว่าจำเลยไม่ประสงค์จะทะเลาะกับผู้เสียหายต่อไปแล้ว เรื่องก็น่าจะยุติเพียงเท่านั้น การที่ผู้เสียหายถือไม้ไผ่ผ่าซีกยาว 1 ศอกเศษวิ่งไล่ตามไปตีจำเลยอีก จึงเป็นฝ่ายลงมือก่อเหตุขึ้นก่อนเมื่อจำเลยชักมีดปลายแหลมซึ่งเป็นมีดแกะปลาหมึกเล็กๆที่ติดตัวไว้ใช้งานออกมากวัดแกว่งและร้องห้ามผู้เสียหายว่าอย่าเข้ามา อันแสดงถึงเจตนาป้องกันตัว ไม่ประสงค์จะทำร้ายผู้เสียหายก่อน แต่ผู้เสียหายคิดว่าจำเลยไม่กล้าแทงจึงเข้าไปตีจำเลย จำเลยจึงใช้มีดแทง 1 ที ถูกที่หัวไหล่ซ้ายแล้วไม่ได้แทงอีก เมื่อผู้เสียหายตีจำเลยซ้ำอีก 1 ทีถูกแขนซ้ายอย่างแรงจำเลยก็แทงสวนไปอีก 1 ที ถูกที่ใต้รักแร้ด้านซ้าย แล้วจำเลยโยนมีดทิ้งดังนี้เป็นการบ่งชี้ให้เห็นว่าจำเลยจะแทงก็ต่อเมื่อถูกผู้เสียหายตีก่อนเท่านั้นและแทงเพียง 1 ครั้งต่อการถูกตี 1 ที การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำเพื่อป้องกันตนให้พ้นอันตรายที่เกิดจากผู้เสียหายใช้ไม้ตีซึ่งเป็นการประทุษร้ายอันละเมิดกฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ทั้งจำเลยได้กระทำไปพอสมควรแก่เหตุ จึงเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยไม่มีความผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 859/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ: กรณีถูกรุมทำร้ายและยิงก่อน จำเลยมีสิทธิป้องกันตัวได้
บ. และ ถ. ผู้เสียหายเมาสุรารุมตีทำร้ายจำเลย และใช้อาวุธปืนยิงจำเลยก่อน จำเลยจึงใช้อาวุธปืนที่ติดตัวมายิงไปหลายนัดถูกผู้เสียหายทั้งสองในขณะกอดปล้ำทำร้ายกัน การกระทำของจำเลย เป็นการกระทำให้พ้นจากภยันตรายร้ายแรงซึ่งใกล้จะถึง จึงเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2520/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ แม้จะมีการวิวาทก่อนหน้า แต่ผู้ถูกทำร้ายก่อเหตุใหม่ด้วยอาวุธอันตราย
จำเลยกับผู้ตายวิวาทชกต่อยกันล.มาห้ามจำเลยจึงหยุดวิวาทกับผู้ตายต่อมาประมาณ2นาทีผู้ตายวิ่งไปเอาไม้ไล่ตีจำเลยอีกจำเลยวิ่งหนีขึ้นไปบนกุฏิสามเณรผู้ตายวิ่งไล่ตามขึ้นไปทำร้ายจำเลยจำเลยแทงผู้ตายเพียงครั้งเดียวด้วยมีดปอกผลไม้ที่เหน็บอยู่ที่ฝาห้องจำเลยไม่มีโอกาสไตร่ตรองว่าจะถูกอวัยวะสำคัญหรือไม่การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ.(ที่มา-ส่งเสิรมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2714/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวที่พอสมควรแก่เหตุ แม้ผู้ถูกทำร้ายมีรูปร่างใหญ่กว่าและเป็นผู้เริ่มทำร้ายก่อน
ผู้เสียหายอายุ 18 ปีส่วนจำเลยอายุเพียง 16 ปีผู้เสียหายรูปร่างล่ำสันและมีลักษณะเป็นผู้ใหญ่กว่าจำเลยวันเกิดเหตุผู้เสียหายเป็นฝ่ายก่อเรื่องโดยเข้าชกและขึ้นเข่าเอาแก่จำเลยที่ท้องหลายทีในลักษณะข่มเหงรังแกในชั้นแรกจำเลยได้ใช้มือเปล่าป้องกันตัว แต่ก็ถูกผู้เสียหาย ทำร้ายต่อมาจำเลยจึงใช้เหล็กตะไบสามเหลี่ยมที่มีติดตัวแทงถูกที่ชายโครงผู้เสียหาย1ที ในขณะกำลังถูกผู้เสียหาย ทำร้ายติดพันอยู่ดังนี้เป็นเรื่องที่จำเลยจำเป็นต้อง ป้องกันตัวให้พ้นจากภยันตรายที่ผู้เสียหายเป็นฝ่ายก่อขึ้น การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุไม่เป็นความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1320/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวที่ชอบด้วยกฎหมาย: ภยันตรายใกล้ถึงและการกระทำพอสมควรแก่เหตุ
ป.และผู้ตายเดินกระแทกไหล่จำเลย จำเลยต่อว่าจึงเกิดชกกันขึ้น มีผู้ห้ามจนเลิกกันไปแล้วผู้ตายเอาปืนจี้เพื่อนจำเลยจะไปส่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อ้างว่าเพื่อนจำเลยยิงปืนจำเลยจึงไปขอให้พี่สาวจำเลยมาช่วยเจรจา ป. ไม่ยอมและชกจำเลย ช. กับ ก. เข้าช่วย ป. จำเลยล้มลงจึงใช้ไม้ตี ช. 1 ที แล้วจำเลยเห็นผู้ตายถือปืนเล็งมาทางจำเลย จำเลยจึงวิ่งหนีผู้ตายวิ่งไล่ตามและยิงจำเลย จำเลยรู้สึกเจ็บที่เท้าซ้ายและน่องซ้ายล้มลง หันไปดูเห็นผู้ตายยืนอยู่ห่างจำเลย 2 วา ถือปืนจ้องมาทางจำเลย จำเลยจึงยิงผู้ตาย 1 นัดถูกผู้ตายถึงแก่ความตายดังนี้ นับว่าเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง จำเลยจึงมีสิทธิป้องกันชีวิตของตน การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 950/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวและการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ เมื่อถูกทำร้ายด้วยอาวุธอันตราย
ผู้ตายรูปร่างแข็งแรงสูงใหญ่กว่าจำเลยซึ่งเป็นหญิงและนิ้วมือขวาพิการ ผู้ตายด่าว่าจำเลยด้วยคำหยาบต่อหน้าคนจำนวนมาก จำเลยบอกให้ผู้ตายหยุดด่า ผู้ตายไม่เชื่อฟังกลับใช้ร่มยาวประมาณ 1 ศอก ที่ปลายมีเหล็กแหลมตีศรีษะและลำตัวจำเลยหลายที พร้อมกับพูดว่าตีมันให้ตายจำเลยถอยหลังหนีจนสะดุดขาตัวเองล้มลงในซอกจอดรถซึ่งไม่มีทางไปอีกจำเลยจึงชักปืนออกขู่ไม่ให้ผู้ตายเข้ามาแต่ผู้ตายไม่ยอมหยุดยั้ง จำเลยร้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นก็ไม่มีผู้ใดช่วย จำเลยจึงใช้ปืนยิงผู้ตาย 2 นัด ถึงแก่ความตาย เช่นนี้ ถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1923/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันสิทธิในทรัพย์สิน: การติดตั้งเครื่องป้องกันทรัพย์สินและการกระทำของผู้บุกรุก
โรงเก็บของของจำเลยอยู่ในบริเวณสวนของจำเลย มีรั้วต้นพู่ระหงปลูกเป็นแนวเขต จำเลยเก็บของอันมีค่าเช่นเครื่องยนต์สูบน้ำและอุปกรณ์อื่น ๆ ไว้ ทรัพย์สินที่จำเลยเก็บไว้ในโรงเก็บของเคยถูกคนร้ายลักไป ในตำบลที่เกิดเหตุมีคนร้ายชุกชุม จำเลยเอาเส้นลวดขึงที่โรงเก็บของและปล่อยกระแสไฟฟ้าจากบ้านไว้เพื่อป้องกันคนร้าย ผู้ตายกับพวกอีก 3 คนบุกรุกเข้าไปที่โรงเก็บของในเวลาวิกาล โดยเจตนาจะลักทรัพย์ ในมือผู้ตายมีเหล็กไขควง 1 อัน แต่ผู้ตายไปถูกเส้นลวดที่ปล่อยกระแสไฟฟ้าไว้ถึงแก่ความตายเสียก่อน มิฉะนั้นผู้ตายกับพวกย่อมลักทรัพย์ของจำเลยไปได้ นับได้ว่าภยันตรายที่จะเกิดแก่ทรัพย์สินของจำเลยใกล้จะถึงแล้ว ถ้าจำเลยไปพบเห็นเข้า จำเลยย่อมมีสิทธิทำร้ายผู้ตายกับพวกเพื่อป้องกันทรัพย์สินของจำเลยได้ ดังนั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันสิทธิของตนโดยชอบด้วยกฎหมาย และพอสมควรแก่เหตุ จำเลยจึงไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1362/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุจากการถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีด ศาลยืนตามคำพิพากษาเดิม
จำเลยเป็นน้องเขยผู้ตาย คืนก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายและจำเลยต่างไปงานแต่งงานรายเดียวกัน จำเลยช่วยเป็นผู้ลงบัญชีผู้ออกเงินช่วยงาน และได้เกิดเป็นปากเสียงกัน ผู้ตายโดยผู้ตายหาว่าได้ออกเงินช่วยในงานแล้วจำเลยไม่ลงชื่อในบัญชีให้ คืนนั้นผู้ตายอยู่บ้านงานตลอดคืน ดื่มสุราเมา รุ่งเช้าเดินกลับบ้าน มาสวนทางกับจำเลยซึ่งเดินอยู่คนละฝั่งคันคู เนื่องจากผู้ตายมีนิสัยเมาแล้วมักอาละวาด เมื่อพบจำเลยซึ่งผู้ตายข้องใจเรื่องไม่ลงชื่อในบัญชีคนช่วยงานให้ จึงต่อว่าและชักมีดโดยข้ามคูไปแทงทำร้ายจำเลย จำเลยจึงยิงผู้ตาย 1 นัด เป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ จำเลยไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2284/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวที่พอสมควรแก่เหตุ แม้มีบาดแผลร้ายแรงถึงแก่ความตาย
จำเลยถูกผู้ตายกับพวกอีก 1 คนรุมชกต่อยที่บนสโมสร เมื่อจำเลยวิ่งหนีลงมาผู้ตายกับพวกยังวิ่งไล่ติดตามไปรุมชกต่อยจำเลยอีก จำเลยจวนตัวชักมีดปลายแหลมออกมาผู้ตายกับพวกก็ยังไม่หยุดยั้ง กลับเข้ารุมชกต่อยจำเลยเป็นชุลมุน การที่จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงทำร้ายต่อสู้ผู้ตายกับพวกเพื่อป้องกันตนไปในขณะนั้น และมิได้แทงทำร้ายผู้ตายกับพวกต่อไปอีก เมื่อผู้ตายกับพวกหยุดทำร้ายจำเลย ดังนี้ แม้ผู้ตายกับพวกจะมีบาดแผลคนละหลายแห่ง และผู้ตายถึงแก่ความตาย ก็ถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2281/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ: การกระทำเพื่อปกป้องตนจากภัยอันตรายจากการถูกทำร้าย
จำเลยที่ 2 ด่าจำเลยที่ 1 กับพวกที่กำลังนั่งคุยกันอยู่ พอจำเลยที่ 1ว่า ไม่ควรพูดเช่นนั้น จำเลยที่ 2 ก็ชกจำเลยที่ 1 ก่อน ถูกที่หน้าอก แล้วจำเลยที่ 2 กับพวกเข้าช่วยกันทำร้ายจำเลยที่ 1 อีก จำเลยที่ 1 ถอยหลังหนีไปติดรั้วสวน ถอนเสาไม้รั้วขึ้นกวัดแกว่งร้องห้ามไม่ให้จำเลยที่ 2 กับพวกเข้าทำร้าย จำเลยที่ 2 กลับคว้าไม้กระโดดเข้าไปจะทำร้าย จึงถูกไม้ของจำเลยที่ 1 ที่ศีรษะเป็นแผลแตกลึกถึงกระโหลกศีรษะ รักษาประมาณ 12 วันหาย ดังนี้ การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นการกระทำเพื่อป้องกันพอสมควรแก่เหตุ