พบผลลัพธ์ทั้งหมด 22 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาลงโทษจำเลยแม้ฟ้องผิดฐานเจตนา แต่ความจริงคือประมาท และไม่ทำให้จำเลยหลงต่อสู้
โจทก์กล่าวในฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดโดยเจตนา แต่ข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดโดยประมาท เมื่อปรากฏว่าการที่โจทก์ฟ้องผิดไปไม่เป็นเหตุให้จำเลยหลงต่อสู้ ศาลย่อมพิพากษาลงโทษจำเลยได้ตามที่พิจารณาได้ความเพราะข้อแตกต่างดังกล่าวมิใช่ข้อสารสำคัญ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 937/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการพิพากษาลงโทษฐานพยายามกระทำความผิด แม้ไม่ได้มีคำขอโดยตรง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานข่มขืนกระทำชำเรา แต่การกระทำของจำเลยเป็นความผิดเพียงฐานพยายาม ศาลมีอำนาจพิพากษาลงโทษจำเลยฐานพยายามได้ ไม่เกินคำขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1495/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษต่อจากคดีก่อนหน้า แม้สำนวนคดีก่อนหน้ายังมิได้ลงสารบบ แต่ศาลทราบแล้วว่ามีการพิพากษาลงโทษ
โจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลจังหวัดร้อยเอ็ด โดยขอให้นับโทษจำเลยต่อจากโทษในคดีดำที่ 197/2517 ของศาลมณฑลทหารบกที่ 6 (ศาลจังหวัดร้อยเอ็ด) ศาลอ่านคำพิพากษาลงโทษคดีดำที่ 197/2517 ก่อน และในวันเดียวกันนั้นก็อ่านคำพิพากษาลงโทษคดีนี้ติดต่อกันไปเลย โดยยังมิได้นำสำนวนคดีดำที่ 197/2517 นั้นไปลงสารบบออกเลขคดีแดงเสียก่อน โจทก์จึงไม่มีโอกาสแถลงให้ศาลทราบได้ก่อนว่าคดีดำที่ 197/2517 นั้นเป็นคดีหมายเลขแดงที่เท่าใด แต่ก็ย่อมปรากฏชัดแก่ศาลและคู่ความแล้วว่าคดีดำที่ 197/2517 นั้นศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยแล้วโดยไม่จำต้องให้โจทก์แถลงแก่ศาลซ้ำ ศาลย่อมพิพากษาให้นับโทษคดีนี้ต่อกับโทษในคดีดำที่ 197/2517 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 516/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องซ้ำในความผิดกรรมเดียว ศาลมีอำนาจยกฟ้องได้เมื่อศาลได้พิพากษาลงโทษแล้ว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยดำรงชีพอยู่ด้วยรายได้ของหญิงในการค้าประเวณีสำนวนหนึ่งและในวันเดียวกันโจทก์ยังฟ้องจำเลยเกี่ยวกับการกระทำผิดอันเดียวกันเป็นอีกสำนวนหนึ่งว่าจำเลยเป็นผู้จัดการสถานการค้าประเวณีโดยมิได้ขอให้พิจารณาคดีรวมกันเห็นได้ว่าเป็นการฟ้องขอให้ลงโทษในกรรมเดียวซ้ำกัน 2 ครั้งข้อหาในอีกสำนวนหนึ่งนั้นย่อมหมายความว่าจำเลยมีรายได้จากสินจ้างซึ่งได้รับจากลูกค้าของสถานการค้าประเวณี แล้วจำเลยแบ่งรายได้นั้นให้แก่หญิงที่ค้าประเวณีแต่ข้อหาในสำนวนนี้ว่าจำเลยดำรงชีพอยู่จากรายได้ของหญิงที่ค้าประเวณีในสถานที่แห่งเดียวกัน เมื่อในคดีอีกสำนวนหนึ่งนั้นจำเลยรับสารภาพข้อเท็จจริงฟังได้ตามฟ้อง และศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยแล้วจึงชอบที่ศาลจะยกฟ้องคดีสำนวนนี้เสีย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2750/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานชั้นไต่สวนมูลฟ้องใช้ได้ แต่ไม่เพียงพอพิพากษาลงโทษ
คำพยานในชั้นไต่สวนมูลฟ้องเป็นพยานเอกสารที่ใช้อ้างเป็นพยานหลักฐานในชั้นพิจารณาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 990/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำในความผิดกรรมเดียว: ศาลยกฟ้องเมื่อศาลอื่นพิพากษาลงโทษไปแล้ว
การที่จำเลยบุกรุกเข้าไปทำร้ายร่างกายผู้เสียหายในเคหสถานการบุกรุกเป็นกรรมเดียวและวาระเดียวกันกับความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ซึ่งเป็นเรื่องการกระทำผิดกฎหมายหลายบทเมื่อศาลพิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายไปแล้ว โจทก์จะกลับมาฟ้องจำเลยฐานบุกรุกอีกไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4)
ความผิดกรรมเดียวที่ผิดกฎหมายหลายบท บางบทขึ้นศาลทหารบางบทขึ้นศาลพลเรือน ถ้าโจทก์ประสงค์จะให้ศาลวางโทษจำเลยในบทที่หนัก ก็ชอบที่โจทก์จะได้ฟ้องต่อศาลที่มีอำนาจพิพากษาในบทที่หนัก ถ้าโจทก์ได้ฟ้องจำเลยต่อศาลทหาร ศาลทหารพิพากษาลงโทษจำเลยในบทที่ขึ้นศาลทหารไปแล้ว โจทก์จะมาฟ้องจำเลยต่อศาลพลเรือนในความผิดที่ขึ้นศาลพลเรือนอีกไม่ได้ แม้ความผิดหลังนี้จะมีโทษหนักกว่าก็ตาม
ความผิดกรรมเดียวที่ผิดกฎหมายหลายบท บางบทขึ้นศาลทหารบางบทขึ้นศาลพลเรือน ถ้าโจทก์ประสงค์จะให้ศาลวางโทษจำเลยในบทที่หนัก ก็ชอบที่โจทก์จะได้ฟ้องต่อศาลที่มีอำนาจพิพากษาในบทที่หนัก ถ้าโจทก์ได้ฟ้องจำเลยต่อศาลทหาร ศาลทหารพิพากษาลงโทษจำเลยในบทที่ขึ้นศาลทหารไปแล้ว โจทก์จะมาฟ้องจำเลยต่อศาลพลเรือนในความผิดที่ขึ้นศาลพลเรือนอีกไม่ได้ แม้ความผิดหลังนี้จะมีโทษหนักกว่าก็ตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1192/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชัดเจนของฟ้องอาญาฐานพยายามชิงทรัพย์ และการพิพากษาลงโทษฐานพยายามฆ่าและมีอาวุธปืน
ในคดีความผิดฐานพยายามชิงทรัพย์ แม้โจทก์มิได้กล่าวว่าพยายามชิงทรัพย์อะไรบ้าง แต่ในฟ้องก็พอเข้าใจว่าจำเลยขู่เข็ญให้บอกที่เก็บทรัพย์ที่อยู่ในกุฏิเพียงเท่านี้ยังไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1467/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดสัญญาประกันตัวเมื่อศาลพิพากษาลงโทษจำเลย ผู้ประกันหมดหน้าที่
คดีอาญา ผู้ประกันนำจำเลยมาตามวันนัดให้มาฟังคำพิพากษาศาลได้เรียกจำเลยเข้าฟังคำพิพากษา และอ่านคำพิพากษาลงโทษจำเลยแล้ว ถือได้ว่าผู้ประกันได้นำตัวจำเลยส่งศาลแล้ว การที่ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยนั้น ย่อมถือเสมือนว่าศาลสั่งถอนประกันไปในตัว ผู้ประกันหมดหน้าที่ตามสัญญาประกันแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1436/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย แม้ข้อเท็จจริงในการพิจารณาคดีแตกต่างจากที่ฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่า จ. กับพวกฝ่ายหนึ่ง ย.กับพวกอีกฝ่ายหนึ่งต่างใช้ มีด ไม้ ครกแตก และกำลังกายวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน ย. ถึงแก่ความตายโดย จ.ใช้มีดซุยแทงย. แม้ทางพิจารณาจะไม่ได้ความว่า จ.ได้เข้าวิวาทต่อสู้กับจำเลยอื่นดังที่โจทก์กล่าวในฟ้อง แต่ฟ้องโจทก์กล่าวชัดแล้วว่า จ. ใช้มีดซุยแทงย.โดยเจตนาจะฆ่าให้ตาย ยังได้อ้าง กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249มาเป็นบทลงโทษด้วย ดังนี้ จะว่าทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องไม่ได้ จึงลงโทษจ. ตามมาตรา 249 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 19246/2555
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษในคดีอาญาที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษพร้อมกันหลายสำนวน โดยไม่ต้องแถลงซ้ำ
โจทก์ฟ้องจำเลยคดีนี้กับคดีอาญาอื่นอีกสี่สำนวนของศาลชั้นต้นในวันเดียวกัน ศาลชั้นต้นได้พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยในคดีนี้กับในคดีอื่นอีกสามสำนวนติดต่อกันไป ดังนั้น เมื่อศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาคดีนี้ โจทก์ย่อมไม่อาจแถลงต่อศาลชั้นต้นได้ว่าคดีอื่นอีกสามสำนวนนั้นศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาลงโทษจำเลยหรือไม่ อย่างไร ตามพฤติการณ์ถือได้ว่าความปรากฏต่อศาลและคู่ความชัดแจ้งแล้วว่าคดีอื่นอีกสามสำนวนนั้นศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยแล้ว ศาลชั้นต้นจึงพิพากษาให้นับโทษจำเลยติดต่อกันได้ โดยไม่จำต้องให้โจทก์แถลงต่อศาลซ้ำอีก