พบผลลัพธ์ทั้งหมด 31 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1811/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การล้มละลาย: การพิสูจน์หนี้สินและทรัพย์สินที่ไม่พอชำระหนี้
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่เคยกู้ยืมเงินโจทก์และไม่เคยทำหนังสือรับสภาพหนี้หรือสัญญาประนีประนอมยอมความให้ไว้กับโจทก์ลายมือชื่อในหนังสือรับสภาพหนี้และสัญญาประนีประนอมยอมความไม่ใช่ลายมือชื่อจำเลย แต่ในชั้นพิจารณาจำเลยนำสืบรับว่าทำสัญญากู้กับสัญญารับสภาพหนี้และสัญญาประนีประนอมยอมความจริง แต่ทำไปเพราะโง่เขลาเบาปัญญาและถูกหลอกลวง ทางนำสืบของจำเลยจึงต่างกับคำให้การรับฟังเป็นความจริงไม่ได้ จำเลยเป็นหนี้โจทก์เป็นเงิน 6,175,070 บาท จำเลยมีเพียงเงินเดือน เดือนละ 5,000 บาท ไม่มีทรัพย์สินอื่นใดอีก ถือได้ว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1811/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทหนี้สินและล้มละลาย: การพิสูจน์หนี้และการมีทรัพย์สินไม่เพียงพอชำระหนี้
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่เคยกู้เงินและรับเงินไปจากโจทก์ไม่เคยทำหนังสือรับสภาพหนี้และสัญญาประนีประนอมยอมความให้ไว้กับโจทก์ ลายมือชื่อในสัญญารับสภาพหนี้และสัญญาประนีประนอมยอมความไม่ใช่ลายมือชื่อจำเลย แต่นำสืบว่าได้ลงชื่อในสัญญากู้กับสัญญารับสภาพหนี้และสัญญาประนีประนอมยอมความจริง แต่ทำไปเพราะความโง่เขลาเบาปัญญาถูกนาย ว. หลอกลวง ทางนำสืบของจำเลยต่างกับคำให้การจึงรับฟังเป็นความจริงไม่ได้ การฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์หรือไม่เป็นเรื่องโจทก์ จำเลยต่างมีหน้าที่นำพยานหลักฐานมาพิสูจน์ตามคำฟ้องและคำให้การ เมื่อข้อต่อสู้ของจำเลยรับฟังไม่ได้และข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์อยู่จริง จึงมีข้อพิจารณาต่อไปว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัวตามมาตรา 14 และมาตรา 9 หรือไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 627/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนคดีเนื่องจากทนายป่วยและการพิสูจน์หนี้ค่าระวางพาหนะ โดยไม่ต้องทวงถาม
โจทก์มีทนายความสองคน ในวันนัดสืบพยานโจทก์ ทนายโจทก์คนหนึ่งไม่มาศาล ส่วนทนายโจทก์อีกคนหนึ่งมอบฉันทะให้เสมียนทนายมายื่นคำร้องขอเลื่อนคดีเพราะป่วย ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้โดยไม่ปรากฏว่าทนายโจทก์อีกคนหนึ่งมีเหตุจำเป็นที่จะมาปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ จึงไม่มีเหตุที่จะเลื่อนคดีเพราะความเจ็บป่วยของทนายโจทก์ประกอบกับพยานโจทก์ก็ไม่มาศาล ที่ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีและงดสืบพยานโจทก์จึงชอบแล้ว
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระค่าระวางพาหนะไม้อัดที่โจทก์ขนส่งให้จำเลย จำเลยรับว่าได้ค้างชำระค่าระวางพาหนะดังกล่าว เพราะโจทก์ไม่ส่งใบเสร็จรับเงินไปเรียกเก็บจากจำเลย ดังนี้ เมื่อโจทก์ได้ขนส่งไม้อัดให้จำเลยแล้วจำเลยย่อมมีหน้าที่ชำระค่าระวางพาหนะให้โจทก์โดยโจทก์ไม่ต้องทวงถาม เมื่อโจทก์ฟ้องคดีอันเป็นการเรียกให้ชำระหนีแล้ว จำเลยก็มีหน้าที่ต้องชำระดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้อง.
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระค่าระวางพาหนะไม้อัดที่โจทก์ขนส่งให้จำเลย จำเลยรับว่าได้ค้างชำระค่าระวางพาหนะดังกล่าว เพราะโจทก์ไม่ส่งใบเสร็จรับเงินไปเรียกเก็บจากจำเลย ดังนี้ เมื่อโจทก์ได้ขนส่งไม้อัดให้จำเลยแล้วจำเลยย่อมมีหน้าที่ชำระค่าระวางพาหนะให้โจทก์โดยโจทก์ไม่ต้องทวงถาม เมื่อโจทก์ฟ้องคดีอันเป็นการเรียกให้ชำระหนีแล้ว จำเลยก็มีหน้าที่ต้องชำระดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 929/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความสะดุดหยุดจากคดีแพ่งต่อเนื่องคดีล้มละลาย การพิสูจน์หนี้ไม่ขาดอายุความ
ศาลสั่งจำหน่ายคดีแพ่งเพราะมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาด เจ้าหนี้นำเช็คในคดีนั้นมาขอพิสูจน์หนี้ในคดีล้มละลาย ถือเป็นการตั้ง หลักฐานสิทธิเรียกร้องทางศาลต่อเนื่องเกี่ยวโยงกัน อายุความสะดุดหยุดลง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 173 ไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2542/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเงินกู้ที่เกิดจากหนี้ค่าแชร์ การพิสูจน์การใช้เงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
โจทก์เป็นนายวงแชร์ จำเลยเป็นผู้เข้าเล่นด้วยและเป็นผู้ประมูลได้ จำเลยจึงทำหนังสือสัญญากู้เงินให้โจทก์ไว้ระบุจำนวนเงินกู้เท่ากับเงินค่าแชร์ที่จำเลยจะต้องส่งเป็นรายเดือนต่อไปจนครบ โดยยอมเสียดอกเบี้ยตามกฎหมาย ดังนี้ เป็นเรื่องโจทก์จำเลยตกลงกันให้หนี้ค่าแชร์ระหว่างกันผูกพันกันในรูปหนี้เงินกู้ตามสัญญากู้โดยมีหนี้ค่าแชร์กันจริงสัญญากู้จึงชอบด้วยกฎหมาย โจทก์จำเลยจึงมีความผูกพันต่อกันในลักษณะกู้ยืม จำเลยจะพ้นความรับผิดต่อเมื่อได้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1067/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์หนี้ในคดีล้มละลาย: เจ้าหนี้ต้องแสดงหลักฐานต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ขอพิสูจน์หนี้ในคดีล้มละลายแล้วไม่นำพยานหลักฐานมาแสดงต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการสอบสวนคำขอรับชำระหนี้ คดีรับฟังไม่ได้ว่าเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์เป็นเจ้าหนี้อยู่จริงตามที่ขอรับชำระเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ชอบที่จะยกคำขอนั้น
ค่าฤชาธรรมเนียมที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เสียไปในการดำเนินกระบวนพิจารณาต่อศาล ศาลให้หักเอาจากเงินที่รวบรวมได้ในคดีล้มละลาย ถ้าไม่มีพอก็ให้เอาจากเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ตาม พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา155
ค่าฤชาธรรมเนียมที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เสียไปในการดำเนินกระบวนพิจารณาต่อศาล ศาลให้หักเอาจากเงินที่รวบรวมได้ในคดีล้มละลาย ถ้าไม่มีพอก็ให้เอาจากเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ตาม พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา155
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 198/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปฏิเสธหนี้เฉพาะยอดเงิน ถือเป็นการยอมรับหนี้โดยรวม โจทก์พิสูจน์ยอดหนี้ได้ ศาลตัดสินให้ใช้คืน
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลไทยถาวรพานิชได้เบิกเงินจากโจทก์ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชี เป็นเงิน 317,789.14 บาทจำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้ว่ายอดเงินที่อ้างว่าห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลไทยถาวรพานิชเป็นหนี้โจทก์เป็นเงิน 317,789.14 บาทนั้น ไม่เป็นความจริงคำให้การ เช่นนี้เป็นการปฏิเสธเฉพาะยอดเงินกู้ ส่วนห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลไทยถาวรพานิชจะได้เบิกเงินเกินบัญชีจากธนาคารโจทก์หรือเป็นหนี้โจทก์ดังคำบรรยายฟ้องหรือไม่ จำเลยมิได้ปฏิเสธโดยแจ้งชัดต้องถือว่าจำเลยรับถึงความข้อนี้ สำหรับยอดเงินที่จำเลยปฏิเสธอ้างว่าไม่เป็นความจริงนั้น จำเลยให้การปฏิเสธลอย ๆ มิได้อ้างเหตุว่าความจริงเป็นอย่างไรและยอดเงินมีจำนวนมากน้อยเท่าใด เป็นคำให้การที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรค 2 คำให้การจำเลยจึงไม่มีประเด็นที่จะ นำสืบตามข้อต่อสู้ถึงยอดเงินว่าเท็จจริงอย่างไร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1670/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้ยืมเงินและการพิสูจน์หนี้จากเอกสารสัญญาและสัญญาประนีประนอมยอมความ
เอกสารคำมั่นสัญญาระหว่างเจ้าหนี้กับจำเลย ลงวันที่ 7ธันวาคม 2496 มีข้อความสำคัญว่า. จำเลยมอบฉันทะให้เจ้าหนี้รับเงินค่ารับเหมาส่งหินจากกรมทางหลวงแผ่นดิน495,980 บาท. และเพื่อเป็นการตอบแทน. เจ้าหนี้จึงจ่ายเงินให้จำเลย 450,000บาท. เมื่อพิจารณาเอกสารนี้รวมกับหนังสือสัญญาประนีประนอมยอมความของศาลแพ่งคดีดำที่ 875/2506ระหว่างบริษัทสหธนกิจ โจทก์. บริษัทไทยนิยมพาณิชย์ จำเลยซึ่งมีข้อความว่า'ข้อ 2 จำเลยยอมให้เอาหนี้ที่จำเลยเป็นเจ้าหนี้โจทก์ตามข้อ 1 ไปหักกับดอกเบี้ยรายต้นเงิน 336,000 บาท ที่โจทก์ยังไม่ได้ฟ้องอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี. ซึ่งยังค้างอยู่ถึงวันนี้.....'ตามคำขอรับชำระหนี้รายการอันดับ 4 รายพิพาทมีความว่า '4.หนี้เงินกู้เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2496 ต้นเงินเดิม450,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีลูกหนี้ผ่อนต้นมาคงค้างต้น 336,000 บาท' แสดงว่าหนี้ราย 336,000 บาทคือหนี้ราย 450,000 บาทแต่เดิมนั่นเอง. เมื่อพิจารณาเอกสารคำมั่นสัญญาและสัญญาประนีประนอมยอมความประกอบกันแล้ว.เห็นได้ชัดว่าจำเลยกู้เงินจำนวนดังกล่าวจากเจ้าหนี้.เอกสารทั้งสองฉบับนี้รวมกันจึงเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญ. ดังนั้น. การที่เจ้าหนี้นำพยานบุคคลมาสืบว่าเป็นหนี้เงินกู้. จึงหาใช่นำสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสารไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 759/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องล้มละลาย: รายละเอียดการเบิกเกินบัญชีไม่จำเป็นต้องระบุในฟ้อง หากพิสูจน์หนี้ได้
การเบิกเงินเกินบัญชีจะกระทำไปกี่คราว คราวละเท่าใดนั้นเป็นรายละเอียดที่โจทก์ไม่จำต้องกล่าวในฟ้อง และไม่ทำให้ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 30/2509)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1498-1499/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปฏิเสธหนี้ในคดีล้มละลาย: โจทก์ต้องพิสูจน์หนี้จริง & หนี้เก่าไม่ถือเป็นเหตุล้มละลาย
คำให้การจำเลยระบุบ่งชัดโดยเฉพาะว่าขอปฏิเสธหนี้สินตามที่โจทก์อ้างมาเป็นจำนวนรายละ 20,000 บาทนั้น ย่อมมีประเด็นที่โจทก์จะต้องนำสืบถึงหนี้ตามที่โจทก์ฟ้อง แม้จำเลยจะไม่อ้างรายละเอียดว่าจำเลยปฏิเสธหนี้ของโจทก์เพราะเหตุใด ก็มีผลเพียงแต่จำเลยไม่มีข้ออ้างที่จะเป็นประเด็นข้อนำสืบต่อสู้คดีเท่านั้น แต่ไม่ทำให้กลายเป็นว่าจำเลยรับตามฟ้องโจทก์
หนี้ที่จำเลยประนีประนอมกับเจ้าหนี้ในคดีล้มละลายเดิม และยังค้างชำระอยู่บ้างนั้น ไม่ควรนำมาเป็นเหตุให้จำเลยล้มละลายอีก
หนี้ที่จำเลยประนีประนอมกับเจ้าหนี้ในคดีล้มละลายเดิม และยังค้างชำระอยู่บ้างนั้น ไม่ควรนำมาเป็นเหตุให้จำเลยล้มละลายอีก