พบผลลัพธ์ทั้งหมด 13 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1306/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อยกเว้นมาตรา 94(ข) พ.ร.บ.วิธีพิจารณาความแพ่ง: การนำสืบข้อเท็จจริงระหว่างตัวการ-ตัวแทน แม้ขัดกับเอกสาร
กรณีที่จะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94(ข) นั้น ต้องเป็นกรณีที่กฎหมายบังคับให้ต้องนำพยานเอกสารมาแสดง ในกรณีเช่นว่านี้จะขอนำสืบเพื่อเพิ่มเติมตัดทอนหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสารนั้นไม่ได้
แต่การขอสืบความจริงสำหรับกรณีอื่น เช่น ระหว่างตัวการกับตัวแทน ไม่เกี่ยวแก่การบังคับหรือไม่บังคับนิติกรรมนั้นอย่างไร แม้ข้อเท็จจริงจะต้องแตกต่างไปจากที่ปรากฏในหนังสือก็ย่อมนำสืบได้
โจทก์ขอสืบความจริงว่าโจทก์โอนที่ดินให้จำเลยไปจัดการแบ่งปันให้ทายาทตามเหตุผลในฟ้องเป็นเรื่องระหว่างตัวการกับตัวแทนซึ่งเป็นลักษณะส่วนหนึ่งแห่งกฎหมายนั้น เป็นการนำสืบในกรณีว่าส่วนหนึ่งต่างหาก โจทก์ย่อมนำสืบได้(อ้างฎีกาที่ 838/2493) (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2500)
แต่การขอสืบความจริงสำหรับกรณีอื่น เช่น ระหว่างตัวการกับตัวแทน ไม่เกี่ยวแก่การบังคับหรือไม่บังคับนิติกรรมนั้นอย่างไร แม้ข้อเท็จจริงจะต้องแตกต่างไปจากที่ปรากฏในหนังสือก็ย่อมนำสืบได้
โจทก์ขอสืบความจริงว่าโจทก์โอนที่ดินให้จำเลยไปจัดการแบ่งปันให้ทายาทตามเหตุผลในฟ้องเป็นเรื่องระหว่างตัวการกับตัวแทนซึ่งเป็นลักษณะส่วนหนึ่งแห่งกฎหมายนั้น เป็นการนำสืบในกรณีว่าส่วนหนึ่งต่างหาก โจทก์ย่อมนำสืบได้(อ้างฎีกาที่ 838/2493) (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2500)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2017/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารหลักฐานโจทก์ แม้ไม่ได้ส่งสำเนาให้จำเลยก่อน แต่ศาลอนุญาตใช้ได้ตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาความแพ่ง
เอกสารที่โจทก์ระบุอ้างว่าต้นฉบับอยู่ที่จำเลยสำเนาอยู่ที่โจทก์และได้ขอหมายเรียกจากจำเลย แต่จำเลยว่าค้นไม่พบ ในวันเบิกความโจทก์ได้ส่งสำเนาที่อยู่ที่โจทก์และจำเลยได้ซักค้านถึงเอกสารเหล่านี้แล้ว โดยไม่ได้แถลงคัดค้านอย่างใด ดังนี้ แม้โจทก์ไม่ได้ส่งสำเนาเอกสารดังกล่าวให้จำเลยก่อนพิจารณาก็อนุโลมเข้าประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90 ข้อ 2
คดีที่โจทก์ชนะคดีไม่เต็มตามทุนทรัพย์ที่ฟ้อง ควรให้จำเลยใช้ค่าขึ้นศาลเพียงเท่าทุนทรัพย์ที่โจทก์ชนะ
คดีที่โจทก์ชนะคดีไม่เต็มตามทุนทรัพย์ที่ฟ้อง ควรให้จำเลยใช้ค่าขึ้นศาลเพียงเท่าทุนทรัพย์ที่โจทก์ชนะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5158/2563
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่ชอบตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 27) พ.ศ.2558 ต้องขออนุญาตฎีกาก่อน
คดีนี้ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นแจ้งถอนอายัดที่ดินอันเป็นทรัพย์ที่ผู้ประกันของจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นผู้ขายตามสัญญาจะซื้อจะขายกับผู้ร้องนำมาวางเป็นหลักประกันต่อศาลในการร้องขอปล่อยชั่วคราวในคดีอาญา และผู้ประกันผิดสัญญาไม่ส่งตัวจำเลยที่ 3 จนศาลมีคำสั่งปรับตามสัญญาประกัน โดยผู้ร้องอ้างว่าผู้ร้องอยู่ในฐานะเป็นผู้มีสิทธิจดทะเบียนสิทธิในที่ดินดังกล่าวได้ก่อน ซึ่งมีความผูกพันทางแพ่งที่จะบังคับคดีกับที่ดินอันเป็นหลักประกันในคดีอาญาซึ่งถึงที่สุดแล้ว ผู้ร้องยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2562 หลังจาก พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 27) พ.ศ.2558 มีผลใช้บังคับ การยื่นฎีกาจึงต้องเป็นไปตามบทบัญญัติที่แก้ไขใหม่ เมื่อ ป.วิ.พ. มาตรา 244/1 ที่เพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติดังกล่าวบัญญัติว่า "ภายใต้บังคับมาตรา 247 คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอุทธรณ์ให้เป็นที่สุด" มาตรา 247 วรรคหนึ่ง ที่แก้ไขใหม่ บัญญัติว่า "การฎีกาคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอุทธรณ์ ให้กระทำได้เมื่อได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา" และวรรคสอง บัญญัติว่า "การขออนุญาตฎีกา ให้ยื่นคำร้องพร้อมกับคำฟ้องฎีกาต่อศาลชั้นต้นที่มีคำพิพากษาหรือคำสั่งในคดีนั้น..." การที่ผู้ร้องยื่นฎีกาโดยไม่ได้ยื่นคำร้องขออนุญาตฎีกามาด้วย จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบ