พบผลลัพธ์ทั้งหมด 37 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1022/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อาวุธปืนชำรุดก็ผิดกฎหมาย: การครอบครองอาวุธปืนแม้ใช้การไม่ได้ก็ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ
จำเลยมีอาวุธปืนลูกซองพกสั้นไม่มีเครื่องหมายเลขทะเบียนปืนของเจ้าพนักงาน และมีลำกล้องปืนแก๊ปไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้ปืนและลำกล้องปืนดังกล่าวจะชำรุดใช้การไม่ได้ก็เป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2627/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบอาวุธปืนที่ได้รับอนุญาต: ศาลไม่สามารถริบได้หากลงโทษตามบทหนักของ พ.ร.บ.อาวุธปืน
จำเลยได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวจำเลยพาอาวุธปืนนั้นไปในทางสาธารณะในเมือง โดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ มาตรา 8 ทวิ, 72 ทวิ และ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 เมื่อลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ มาตรา 8 ทวิ, 72 ทวิ ซึ่งเป็นบทหนักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 แล้ว จะอาศัยบทเบาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 มาเพื่อริบอาวุธปืนของกลางไม่ได้ อาวุธปืนของกลางจำเลยได้รับอนุญาตให้มีและใช้ได้โดยชอบ เมื่อพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ ที่ลงโทษจำเลยไม่ได้บัญญัติเรื่องริบไว้ ศาลก็ริบอาวุธปืนของกลางไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 778/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกเว้นโทษอาวุธปืนโดย พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 แม้ไม่ได้ฎีกาในความผิดฐานนั้น
จำเลยถูกฟ้องฐานฆ่าผู้อื่นและฐานมีอาวุธปืนซึ่งไม่มีทะเบียนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลฎีกา ได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่6) พ.ศ.2518 ออกใช้บังคับ ซึ่งตาม มาตรา 3 ได้ยกเว้นโทษให้โอกาสผู้มีอาวุธปืนโดยผิดกฎหมายนำอาวุธปืนไปขอรับอนุญาตได้ภายในเก้าสิบวันไม่ต้องรับโทษจำเลยจึงได้รับยกเว้นโทษด้วย ถึงแม้โจทก์จำเลยจะมิได้ฎีกาในความผิดฐานมีอาวุธปืนนี้ ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกบทกฎหมายดังกล่าวขึ้นวินิจฉัยได้ เพราะเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195และกรณีต้องด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 วรรคแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1903/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อาวุธปืนโดยสภาพ แม้ใช้ยิงไม่ได้ ก็มีผิด พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ และพกพาในเมืองโดยไม่มีเหตุอันสมควร ผิดประมวลกฎหมายอาญา
พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 4 (1) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย ฉบับที่ 3 พ.ศ.2501 มาตรา 3 บัญญัติว่า "อาวุธปืนหมายความรวมตลอดถึงอาวุธทุกชนิดซึ่งใช้ส่งเครื่องกระสุนปืนโดยวิธีระเบิดหรือกำลังดันของแกส หรืออัดลม หรือเครื่องกลไกอย่างใดซึ่งต้องอาศัยอำนาจของพลังงาน และส่วนหนึ่งส่วนใดของอาวุธปืนนั้น ๆ ซึ่งรัฐมนตรีเห็นว่าสำคัญและได้ระบุไว้ในกฏกระทรวง" มิได้บัญญัติว่าอาวุธปืนจะต้องใช้ยิงได้หรือจะเป็นอาวุธปืนและแม้ส่วนหนึ่งส่วนใดที่รัฐมนตรีเห็นว่าสำคัญ และได้ระบุไว้ในกฏกระทรวงก็ถือว่าเป็นอาวุธปืนด้วย ดังนั้น การที่จำเลยมีปืนพกสั้นออโตเมติก ชนิดประกอบขึ้นเองขนาด .22 ไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ แม้ปืนดังกล่าวไม่อาจใช้ยิงทำอันตรายแก่ชีวิตและวัตถุได้ จำเลยก็มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 7 และปืนดังกล่าวเป็นอาวุธโดยสภาพ เมื่อจำเลยพาไปในเมืองและทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 ด้วย (วินิจฉัยโดยมติที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4/2520)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1903/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อาวุธปืนโดยสภาพ แม้ใช้ยิงไม่ได้ ก็มีผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ และพกพาในเมืองโดยไม่มีเหตุอันสมควร มีผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 4(1) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยฉบับที่ 3 พ.ศ.2501 มาตรา 3 บัญญัติว่า "อาวุธปืนหมายความรวมตลอดถึงอาวุธทุกชนิดซึ่งใช้ส่งเครื่องกระสุนปืนโดยวิธีระเบิดหรือกำลังดันของแก๊สหรืออัดลม หรือเครื่องกลไกอย่างใดซึ่งต้องอาศัยอำนาจของพลังงานและส่วนหนึ่งส่วนใดของอาวุธปืนนั้นๆ ซึ่งรัฐมนตรีเห็นว่าสำคัญและได้ระบุไว้ในกฎกระทรวง" มิได้บัญญัติว่าอาวุธปืนจะต้องใช้ยิงได้จึงจะเป็นอาวุธปืนและแม้ส่วนหนึ่งส่วนใดที่รัฐมนตรีเห็นว่าสำคัญและได้ระบุไว้ในกฎกระทรวงก็ถือว่าเป็นอาวุธปืนด้วย ดังนั้น การที่จำเลยมีปืนพกสั้นออโตเมติก ชนิดประกอบขึ้นเองขนาด .22 ไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ แม้ปืนดังกล่าวไม่อาจใช้ยิงทำอันตรายแก่ชีวิตและวัตถุได้จำเลยก็มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490มาตรา 7 และปืนดังกล่าวเป็นอาวุธโดยสภาพ เมื่อจำเลยพาไปในเมืองและทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันสมควร จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 ด้วย (วินิจฉัยโดยมติที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4/2520)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1720/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อาวุธสงครามเพื่อการค้า ไม่ได้รับยกเว้นโทษตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518
มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนฯ สำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม (ไว้) โดยเจตนาเพื่อการค้าหรือเพื่อการจำหน่าย ไม่อยู่ในข่ายที่จะได้รับยกเว้นโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6 ) พ.ศ. 2518
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1720/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อาวุธสงครามเพื่อการค้า ไม่ได้รับการยกเว้นโทษตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518
มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนฯ สำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม (ไว้) โดยมีเจตนาเพื่อการค้าหรือเพื่อการจำหน่าย ไม่อยู่ในข่ายที่จะได้รับยกเว้นโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1551/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธสงครามที่หายไปจากราชการทหาร จำเลยไม่มีอำนาจหน้าที่ครอบครองจึงมีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน
ของกลางซึ่งเป็นอาวุธปืนที่ใช้เฉพาะในการสงครามเป็นของทางราชการทหารแต่ได้หายไป จำเลยเป็นทหารแต่ไม่มีอำนาจหรือหน้าที่ครอบครองอาวุธปืนของกลาง การครอบครองของจำเลยไม่ใช่การครอบครองในราชการทหาร จำเลยจึงมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 55, 78 (ที่แก้ไขแล้ว)
สำเนาเอกสารซึ่งโจทก์อ้างเป็นพยานต่อศาลนั้น จำเลยไม่ได้โต้แย้งปฏิเสธแต่ประการใด ทั้งนำสืบรับด้วยว่าเป็นเอกสารติดต่อซื้อขายสุราต่างประเทศ เช่นนี้ ศาลจึงรับฟังประกอบพยานหลักฐานอื่นๆของโจทก์ได้
สำเนาเอกสารซึ่งโจทก์อ้างเป็นพยานต่อศาลนั้น จำเลยไม่ได้โต้แย้งปฏิเสธแต่ประการใด ทั้งนำสืบรับด้วยว่าเป็นเอกสารติดต่อซื้อขายสุราต่างประเทศ เช่นนี้ ศาลจึงรับฟังประกอบพยานหลักฐานอื่นๆของโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 615/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีกระสุนปืนสำหรับอาวุธปืนที่ได้รับอนุญาต ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ
เมื่อกระสุนปืนของกลางที่จำเลยมีไว้เป็นกระสุนปืนที่ใช้กับอาวุธปืนซึ่งจำเลยได้รับอนุญาตให้มีและใช้ได้แล้วจำเลยย่อมไม่มีความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต ตามมาตรา 7แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ
ฟ้องกล่าวหาจำเลยมาแต่เพียงว่ามีกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต โจทก์จะนำสืบว่าจำเลยซื้อกระสุนปืนนั้นมาโดยยังไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ตามกฎหมายเพื่อแสดงว่าจำเลยมีความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตตามมาตรา 7พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ จึงเป็นการนำสืบนอกประเด็นตามข้อกล่าวหาความผิดในคำฟ้อง
ฟ้องกล่าวหาจำเลยมาแต่เพียงว่ามีกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต โจทก์จะนำสืบว่าจำเลยซื้อกระสุนปืนนั้นมาโดยยังไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ตามกฎหมายเพื่อแสดงว่าจำเลยมีความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตตามมาตรา 7พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ จึงเป็นการนำสืบนอกประเด็นตามข้อกล่าวหาความผิดในคำฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 286/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกเว้นโทษอาวุธปืนตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 แม้ไม่นำปืนขึ้นทะเบียนหลังหมดกำหนด
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยมีอาวุธปืนซึ่งไม่มีเครื่องหมายของเจ้าพนักงานไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต แต่เห็นว่าในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ(ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 มาตรา 6 บัญญัติว่าถ้าผู้มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่อาจขออนุญาตได้ตามกฎหมาย นำปืนมามอบให้แก่นายทะเบียนท้องที่ภายใน 90 วัน ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ จำเลยจึงไม่ต้องรับโทษ ต่อมาโจทก์จะฎีกาว่าในขณะที่ศาลฎีกากำลังพิจารณาคดีนี้อยู่ ได้เลยกำหนดให้นำอาวุธปืนไปขึ้นทะเบียนเพื่อขออนุญาตแล้ว และจำเลยก็มิได้นำไปขึ้นทะเบียนภายในกำหนด จึงต้องมีความผิดฐานนี้อยู่ดังนี้ ฟังไม่ขึ้นเพราะเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาถูกต้องตามบทกฎหมายที่มีอยู่ในเวลาพิพากษาคดีแล้ว แม้จำเลยจะมิได้นำปืนไปขอรับใบอนุญาตภายใน 90 วัน ก็ไม่ทำให้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เสียไปศาลฎีกาไม่มีเหตุที่จะต้องแก้ไขคำพิพากษาศาลอุทธรณ์