คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้องคดีเช็ค

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 28 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 222/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระบุวันกระทำผิดในฟ้องคดีเช็ค: รายละเอียดสำคัญที่จำเลยต้องเข้าใจ ไม่ใช่ขาดองค์ประกอบความผิด
คดีความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คนั้นการที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเป็นการกระทำอย่างหนึ่งที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิด ส่วนวันที่ที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินนั้นเป็นวันที่มีการกระทำผิดซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่เป็นรายละเอียดเกี่ยวกับการกระทำที่อ้างว่าเป็นความผิด ดังนั้นเมื่อโจทก์กล่าวในฟ้องว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คโดยมิได้ระบุว่าปฏิเสธการจ่ายเงินเมื่อวันใด จึงเป็นฟ้องที่ขาดรายละเอียดที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีเท่านั้น มิใช่ฟ้องที่บรรยายข้อเท็จจริงขาดองค์ประกอบความผิด โจทก์จึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอแก้ หรือเพิ่มเติมฟ้องได้ในเมื่อจำเลยมิได้เสียเปรียบในการต่อสู้คดีหรือหลงข้อต่อสู้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 163,164.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3440/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชอบของโจทก์ในการฟ้องคดีเช็ค และความครบถ้วนของฟ้องที่ไม่เคลือบคลุม
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ผู้มีชื่อโอนเช็คพิพาทชำระหนี้โจทก์ แต่ทางพิจารณาโจทก์นำสืบว่า จ. นำเช็คมาแลกเงินสดไปจากโจทก์ การที่ จ.นำเช็คพิพาทไปแลกเงินสดจากโจทก์ถือได้ว่าเช็คที่มอบให้โจทก์นั้น จ. มอบให้เพื่อชำระหนี้เงินที่ จ.เอาไปจากโจทก์ ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาจึงมิได้แตกต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง
โจทก์กล่าวในฟ้องข้อ 1 ตอนท้ายว่า จำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเงินในเช็คแล้วส่งมอบแก่ผู้มีชื่อ ต่อมาผู้มีชื่อได้โอนเช็คดังกล่าวเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์ เห็นว่า ฟ้องโจทก์ดังกล่าวได้บรรยายถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ส่วนที่ว่าผู้มีชื่อโอนเช็คให้โจทก์เป็นใคร ชื่ออะไรนั้น เป็นรายละเอียดที่โจทก์จะนำสืบได้ในชั้นพิจารณา ฟ้องโจทก์ครบถ้วนตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158 (5) บัญญัติไว้ หาใช่เป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3440/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชอบของโจทก์ในการฟ้องคดีเช็ค และความเพียงพอของฟ้องที่ไม่เคลือบคลุม
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ผู้มีชื่อโอนเช็คพิพาทชำระหนี้โจทก์แต่ทางพิจารณาโจทก์นำสืบว่า จ. นำเช็คมาแลกเงินสดไปจากโจทก์การที่จ.นำเช็คพิพาทไปแลกเงินสดจากโจทก์ถือได้ว่าเช็คที่มอบให้โจทก์นั้นจ. มอบให้เพื่อชำระหนี้เงินที่ จ.เอาไปจากโจทก์ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาจึงมิได้แตกต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง
โจทก์กล่าวในฟ้องข้อ 1 ตอนท้ายว่า จำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเงินในเช็คแล้วส่งมอบแก่ผู้มีชื่อ ต่อมาผู้มีชื่อได้โอนเช็คดังกล่าวเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์ เห็นว่า ฟ้องโจทก์ดังกล่าวได้บรรยายถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ส่วนที่ว่าผู้มีชื่อโอนเช็คให้โจทก์เป็นใคร ชื่ออะไรนั้น เป็นรายละเอียดที่โจทก์จะนำสืบได้ในชั้นพิจารณา ฟ้องโจทก์ครบถ้วนตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) บัญญัติไว้หาใช่เป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3440/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความถูกต้องของฟ้องคดีเช็ค การเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงในการพิจารณา และความครบถ้วนของรายละเอียดฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าผู้มีชื่อโอนเช็คพิพาทชำระหนี้โจทก์แต่ทางพิจารณาโจทก์นำสืบว่าจ.นำเช็คมาแลกเงินสดไปจากโจทก์การที่จ.นำเช็คพิพาทไปแลกเงินสดจากโจทก์ถือได้ว่าเช็คที่มอบให้โจทก์นั้นจ.มอบให้เพื่อชำระหนี้เงินที่จ.เอาไปจากโจทก์ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาจึงมิได้แตกต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง โจทก์กล่าวในฟ้องข้อ1ตอนท้ายว่าจำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเงินในเช็คแล้วส่งมอบแก่ผู้มีชื่อต่อมาผู้มีชื่อได้โอนเช็คดังกล่าวเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์เห็นว่าฟ้องโจทก์่าวได้บรรยายถึงบุคคลที่เกี่ยวข้อพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้วส่วนที่ว่าผู้มีชื่อโอนเช็คให้โจทก์เป็นใครชื่ออะไรนั้นเป็นรายละเอียดที่โจทก์จะนำสืบได้ในชั้นพิจารณาฟ้องโจทก์ครบถ้วนตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา158(5)บัญญัติไว้หาใช่เป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2551-2554/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องคดีเช็ค และขอบเขตของการยอมความที่มิอาจระงับคดีอาญา
คำบรรยายฟ้องเกี่ยวกับความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คนั้นไม่จำต้องระบุว่าจำเลยนำเช็คไปแลกเงินสดจากโจทก์ที่ไหนเมื่อใดเพราะเป็นข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับความเป็นมาของมูลหนี้ในทางแพ่งซึ่งอาจจะต้องนำสืบชั้นพิจารณาเมื่อมีข้อต่อสู้ของจำเลยดังนี้การที่โจทก์มิได้ระบุถึงข้อเท็จจริงดังกล่าวจึงไม่ทำให้ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม ข้อตกลงกันในเรื่องหนี้สินไม่มีความตอนใดในเอกสารดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าคู่กรณีมีเจตนาที่จะให้ระงับความผิดทางอาญาด้วยแต่อย่างใดข้อตกลงดังกล่าวจึงไม่ใช่การยอมความที่จะทำให้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา39(2).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1325/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องคดีเช็ค: เริ่มนับจากวันธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ไม่ใช่วันรับเช็ค
การฟ้องคดีอาญาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ต้องกระทำภายใน 3 เดือน นับแต่วันรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิด
อายุความ 3 เดือนต้องเริ่มนับแต่วันที่โจทก์ได้รับแจ้งจากธนาคารว่ามีการปฏิเสธการจ่ายเงิน จะนับจากวันที่โจทก์ได้รับเช็คและใบคืนเช็คจากธนาคารหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1173-1174/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีเช็ค และการพิจารณาความผิดหลายกรรม
ฟ้องขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ มาตรา 3 โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยสั่งจ่ายเช็คลงวันที่เท่าใด ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินในวันใด ถึงแม้จะมิได้กล่าวว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเวลาใดก็เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158 (5) เพราะเป็นที่เห็นได้ว่าปฏิเสธการจ่ายเงินในเวลากลางวัน อันเป็นเวลาทำการของธนาคาร
การที่จำเลยออกเช็คสองฉบับชำระหนี้ให้โจทก์คนเดียวก็ต้องถือว่าจำเลยมีเจตนาที่จะออกเช็คมิให้มีการชำระเงินตามเช็คในแต่ละฉบับอันเป็นการกระทำผิดสองกรรมต่างกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1173-1174/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีเช็ค และการพิจารณาว่าการออกเช็คหลายฉบับเป็นความผิดกรรมเดียวหรือต่างกรรมกัน
ฟ้องขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯมาตรา3โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยสั่งจ่ายเช็คลงวันที่เท่าใดธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินในวันใดถึงแม้จะมิได้กล่าวว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเวลาใดก็เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา158(5)เพราะเป็นที่เห็นได้ว่าปฏิเสธการจ่ายเงินในเวลากลางวันอันเป็นเวลาทำการของธนาคาร การที่จำเลยออกเช็คสองฉบับชำระหนี้ให้โจทก์คนเดียวก็ต้องถือว่าจำเลยมีเจตนาที่จะออกเช็คมิให้มีการชำระเงินตามเช็คในแต่ละฉบับอันเป็นการกระทำผิดสองกรรมต่างกัน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 307/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระบุวันเวลาการกระทำผิดในฟ้องคดีเช็ค การบรรยายฟ้องต่อเนื่องย่อมแสดงวันเวลาที่ชัดเจน
โจทก์บรรยายฟ้องมีข้อความติดต่อกันไปว่า จำเลยทั้งสามร่วมกันสั่งจ่ายเช็คธนาคารกรุงเทพ จำกัด สำนักงานใหญ่ ลงวันที่ 26 เมษายน 2522 ชำระหนี้ให้โจทก์ ครั้นวันที่ 4 พฤษภาคม 2522 โจทก์ได้นำเช็คดังกล่าวไปเข้าบัญชีของโจทก์ที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาพาหุรัด เพื่อเรียกเก็บเงินตามเช็ค ปรากฏว่าธนาคารกรุงเทพ จำกัด สำนักงานใหญ่ ปฏิเสธการจ่ายเงินและคืนเช็คให้โจทก์ดังนี้ ย่อมเข้าใจได้ว่าวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้นเป็นวันเดียวกันกับวันที่โจทก์นำเช็คเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินนั้นเอง ฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับเวลา ซึ่งเกิดการกระทำผิดแล้ว เป็นฟ้องที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 307/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระบุวันเวลาการกระทำผิดในฟ้องคดีเช็ค การบรรยายต่อเนื่องทำให้เข้าใจได้ถึงวันปฏิเสธการจ่ายเช็ค
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ได้บรรยายเรื่องเวลาซึ่งเกิดการกระทำผิดว่า ครั้นวันที่ 4 พฤษภาคม 2522 โจทก์ได้นำเช็คไปเข้าบัญชีของโจทก์ที่ธนาคาร ก. สาขาพาหุรัดเพื่อเรียกเก็บเงิน ปรากฏว่าธนาคาร ก. สำนักงานใหญ่ปฏิเสธการจ่ายเงินและคืนเช็ค โดยอ้างเหตุผลว่าผู้สั่งจ่ายให้ติดต่อก่อน ดังนี้ย่อมเข้าใจว่า วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเป็นวันเดียวกันกับวันที่โจทก์นำเช็คเข้าบัญชี คือวันที่ 4 พฤษภาคม 2522 นั่นเอง ฟ้องโจทก์มีรายละเอียดเกี่ยวกับเวลาที่เกิดการกระทำผิดคือวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินแล้ว จึงชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
of 3