คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้องบังคับคดี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 19 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2668/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หลักฐานสัญญาประกันภัย: หนังสือรับรองการทำประกันภัยเพียงพอต่อการฟ้องบังคับคดีได้ตามมาตรา 867
จำเลยมีหนังสือไปถึงโจทก์ข้อความว่า 'ตามที่ทางบริษัทกรุงเทพบูรพา จำกัด ได้ทำสัญญาประกันภัยไว้กับบริษัท ท่านเพื่อประกันภัยตัวเรือบางกอกโอเรียนท์ 1, 2 และ 3 ตามกรมธรรม์ประกันภัยเลขที่ เอม. เอช. 00576 เอม. เอช. 00577 และ เอม. เอช. 00578 สัญญาประกันภัยเริ่มคุ้มครอง ตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน 2519 ถึงวันที่ 4 กันยายน 2520 ฯลฯ เห็นได้ว่าข้อความดังกล่าวยืนยันว่าจำเลยได้ทำสัญญาประกันภัยไว้กับโจทก์ตามกรมธรรม์ประกันภัยที่โจทก์ฟ้อง จริงและต่อมาเมื่อโจทก์ฟ้องคดีนี้แล้วจำเลยก็ยังได้ ทำคำให้การรับรองข้อความตามหนังสือดังกล่าวอีกด้วย ถือว่า หนังสือดังกล่าวเป็นหลักฐานแสดงว่าจำเลยได้เอาประกันภัยไว้แก่โจทก์ตามความหมายของ มาตรา 867 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แล้ว โจทก์จึงฟ้องร้องบังคับเอาแก่จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 235/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาที่ไม่สมบูรณ์: ลายพิมพ์นิ้วมือผู้กู้ต้องมีพยานรับรอง 2 คน การฟ้องบังคับคดีจึงตก
ลายพิมพ์นิ้วมือผู้กู้มีพยานลงลายมือชื่อรับรองคนเดียวโจทก์ลงชื่อในสัญญากู้ในช่องผู้ให้กู้ไม่ได้เป็นพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือผู้กู้ไม่ชอบด้วย มาตรา 9 วรรค 3 ฟ้องบังคับคดีแก่ผู้กู้ไม่ได้ เป็นเหตุลักษณะคดีแม้โจทก์ฎีกาฝ่ายเดียว ศาลก็พิพากษายกฎีกาโจทก์และยกฟ้องผู้ค้ำประกันด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 950/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารเรื่องราวขอจดทะเบียนสิทธิฯ เป็นหลักฐานสัญญาจะซื้อขายได้หรือไม่ และมีผลต่อการฟ้องบังคับคดีอย่างไร
ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยแล้ววินิจฉัยว่า โจทก์ไม่มีหลักฐานการซื้อขายที่ดินเป็นหนังสือลงลายมือชื่อจำเลยผู้ต้องรับผิดเป็นสำคัญ ทั้งโจทก์มิได้วางมัดจำหรือชำระหนี้บางส่วน จึงฟ้องให้บังคับคดีไม่ได้ พิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ว่าเอกสารเรื่องราวขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมและการสอบสวนสิทธิในที่ดินเป็นหลักฐานฟ้องบังคับคดีได้ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่ จำเลยฎีกาว่า เรื่องราวขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมและการสอบสวนสิทธิในที่ดินมิใช่สัญญาจะซื้อขายที่ดิน ขอให้ศาลฎีกาพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยต้องเสียค่าขึ้นศาลในชั้นฎีกาเพียง 50 บาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 950/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารเรื่องราวขอจดทะเบียนสิทธิฯ เป็นหลักฐานสัญญาจะซื้อจะขายได้หรือไม่ และมีผลต่อการฟ้องบังคับคดี
ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยแล้ววินิจฉัยว่า โจทก์ไม่มีหลักฐานการซื้อขายที่ดินเป็นหนังสือลงลายมือชื่อจำเลยผู้ต้องรับผิดเป็นสำคัญ ทั้งโจทก์มิได้วางมัดจำหรือชำระหนี้บางส่วน จึงฟ้องให้บังคับคดีไม่ได้ พิพากษายกฟ้องโจทก์อุทธรณ์ว่าเอกสารเรื่องราวขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมและการสอบสวนสิทธิในที่ดิน เป็นหลักฐานฟ้องบังคับคดีได้ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่ จำเลยฎีกาว่าเรื่องราวขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมและการสอบสวนสิทธิในที่ดินมิใช่สัญญาจะซื้อขายที่ดิน ขอให้ศาลฎีกาพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นจำเลยต้องเสียค่าขึ้นศาลในชั้นฎีกาเพียง 50 บาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1505/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความ: หลักฐานลายมือชื่อฝ่ายจำเลยเพียงพอ แม้โจทก์มิได้ลงลายมือชื่อร่วม
สัญญาประนีประนอมยอมความนั้น กฎหมายมิได้บังคับให้ต้องทำตามแบบ เพียงแต่บัญญัติว่า ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดหรือลายมือชื่อตัวแทนของฝ่ายนั้นเป็นสำคัญ จะฟ้องร้องให้บังคับคดีมิได้
โจทก์และจำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน แต่แยกลงลายมือชื่อในเอกสารคนละฉบับ โจทก์ย่อมอาศัยเอกสารที่จำเลยลงลายมือชื่อฟ้องร้องบังคับจำเลยได้ แม้โจทก์จะมิได้ลงลายมือชื่อร่วมในเอกสารนั้นด้วย
ปัญหาข้อกฎหมายซึ่งมิได้ยกขึ้นกล่าวในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ทั้งไม่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนต้องห้ามมิให้ฎีกา แม้ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกามา ศาลฎีกาก็ไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 802/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงลดหนี้และการคืนเช็ค ถือเป็นการประนีประนอมยอมความ ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือจึงจะฟ้องบังคับคดีได้
ผู้ทรงเช็คชอบที่จะเรียกให้ผู้สั่งจ่ายชำระหนี้เต็มจำนวนตามเช็คได้ การที่ผู้ทรงและผู้สั่งจ่ายตกลงกัน โดยผู้ทรงยอมให้ชำระหนี้เพียงบางส่วน และผู้ทรงยอมคืนเช็คให้ผู้สั่งจ่าย จึงเป็นการระงับข้อพิพาทซึ่งมีอยู่หรือมีขึ้นให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน อันเป็นการประนีประนอมยอมความ
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ออกเช็คให้จำเลยเพื่อชำระหนี้เงินยืม ต่อมาโจทก์ไม่มีเงินพอชำระหนี้ โจทก์กับจำเลยตกลงกันลดหนี้ให้โจทก์ โดยจำเลยยอมให้โจทก์ชำระหนี้เพียงบางส่วน และจำเลยจะคืนเช็คให้โจทก์ โจทก์ชำระหนี้ตามที่ตกลงแต่จำเลยไม่คืนเช็คให้จึงขอบังคับให้จำเลยคืนเช็ค ดังนี้ ข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยเป็นการประนอมหนี้ อันเป็นการระงับข้อพิพาทที่จะเรียกร้องเงินเต็มจำนวนตามเช็คให้เสร็จสิ้นไป ด้วยยอมผ่อนผันให้แก่กัน ซึ่งเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 850 เมื่อสภาพแห่งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาและคำขอบังคับตามฟ้องเป็นเรื่องขอให้บังคับจำเลยคืนเช็คให้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ แต่ตามฟ้องไม่ปรากฏว่ามีหลักฐานเป็นหนังสือ ก็จะฟ้องให้บังคับคดีไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 851

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 802/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงลดหนี้และการคืนเช็คถือเป็นการประนีประนอมยอมความ ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือจึงจะฟ้องบังคับคดีได้
ผู้ทรงเช็คชอบที่จะเรียกให้ผู้สั่งจ่ายชำระหนี้เต็มจำนวนตามเช็คได้ การที่ผู้ทรงและผู้สั่งจ่ายตกลงกัน โดยผู้ทรงยอมให้ชำระหนี้เพียงบางส่วน และผู้ทรงยอมคืนเช็คให้ผู้สั่งจ่าย จึงเป็นการระงับข้อพิพาทซึ่งมีอยู่หรือจะมีขึ้นให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กันอันเป็น การประนีประนอมยอมความ
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ออกเช็คให้จำเลยเพื่อชำระหนี้เงินยืมต่อมาโจทก์ไม่มีเงินพอชำระหนี้ โจทก์กับจำเลยตกลงกันลดหนี้ให้โจทก์ โดยจำเลยยอมให้โจทก์ชำระหนี้เพียงบางส่วน และจำเลยจะคืนเช็คให้โจทก์ โจทก์ชำระหนี้ตามที่ตกลงแต่จำเลยไม่คืนเช็คให้จึงขอบังคับให้จำเลยคืนเช็ค ดังนี้ ข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลย เป็นการประนอมหนี้ อันเป็นการระงับข้อพิพาทที่จะเรียกร้องเงิน เต็มจำนวนตามเช็คให้เสร็จสิ้นไปด้วยยอมผ่อนผันให้แก่กัน ซึ่งเป็น สัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 เมื่อสภาพแห่งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาและ คำขอบังคับตามฟ้องเป็นเรื่องขอให้บังคับจำเลยคืนเช็คให้ตาม สัญญาประนีประนอมยอมความ แต่ตามฟ้องไม่ปรากฏว่ามีหลักฐาน เป็นหนังสือก็จะฟ้องให้บังคับคดีไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 851

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 624/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายไม่จำเป็นต้องเป็นหนังสือเพื่อฟ้องบังคับคดีได้ หากมีการวางประจำหรือชำระเงินแล้ว การรับเงินไม่ต้องมีใบรับเงิน
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 หาได้กำหนดว่าจะต้องมีหนังสือสัญญาซื้อขายจึงจะฟ้องร้องบังคับคดีได้เสมอไปไม่หากการซื้อขายมีการวางประจำหรือชำระหนี้บางส่วนแล้วก็ย่อมฟ้องร้องได้เช่นกัน
ในการรับเงินค่ากระบือตามกฎหมายมิได้บังคับว่าต้องมีใบรับเงินมาแสดง คู่กรณีย่อมนำพยานบุคคลมาสืบถึงการรับเงินกันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 315/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญายืมใช้สิ้นเปลืองไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ฟ้องบังคับคดีไม่ได้
จำเลยนำสายพานมามอบไว้กับโจทก์เพื่อขาย แต่ยังขายไม่ได้ จำเลยจึงขอให้โจทก์จ่ายเงินค่าสายพานให้จำเลยไปก่อน ถ้ามีผู้ซื้อสายพานได้ตามที่นัดไว้ จำเลยก็ไม่ต้องชำระเงินคืน ถ้าผู้ซื้อไม่มาซื้อ จำเลยจะต้องชำระเงินคืน ข้อตกลงเช่นนี้เป็นสัญญายืมใช้สิ้นเปลืองตาม ป.พ.พ.มาตรา 650 ถ้าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือแล้วจะฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้
of 2