คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้องไม่ถูกต้อง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 32 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 228/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องคดีอาญาไม่ถูกต้องตามรูปแบบ ฟ้องไม่ลงชื่อโจทก์ ศาลฎีกายกฟ้อง
ฟ้องโจทก์ที่มิได้ลงชื่อ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (7) เป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้อง เมื่อคดีขึ้นมาสู่ศาลฎีกา ศาลฎีกาย่อมพิพากษายกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 228/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องไม่ถูกต้องตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(7) ศาลฎีกายกฟ้อง
ฟ้องโจทก์ที่มิได้ลงชื่อ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(7) เป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้อง เมื่อคดีขึ้นสู่ศาลฎีกา ศาลฎีกาย่อมพิพากษายกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 228/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องไม่ถูกต้องตามรูปแบบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ศาลฎีกายกฟ้อง
ฟ้องโจทก์ที่มิได้ลงชื่อ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(7) เป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้อง. เมื่อคดีขึ้นสู่ศาลฎีกา ศาลฎีกาย่อมพิพากษายกฟ้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 540/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความไม่ชัดเจนในการบรรยายฟ้องข้อหาประกอบโรคศิลปะเวชกรรม ทำให้ฟ้องไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
ตามมาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมการประกอบโรคศิลปะ 2479 แก้ไขโดย พ.ร.บ.ควบคุมการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ 5) 2490 มาตรา 3 แสดงว่า ในการประกอบโรคศิลปะสาขาเวชชกรรมนั้น มีการกระทำซึ่งเป็นข้อเท็จจริงต่างกันและแยกกันหลายประการ เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยได้บังอาจประกอบโรคศิลปะสาขาเวชชกรรม มิได้บรรยายข้อเท็จจริงให้เห็นว่า จำเลยได้กระทำการอย่างไรอันเป็นการประกอบโรคศิลปะสาขาเวชชกรรม จึงไม่ชัดเจนพอให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี แม้จะบรรยายว่าจับได้ยาต่าง ๆ หลายอย่างรวมทั้งเข็มและหลอดฉีดยา เลื่อยตัด ก็ไม่อาจทำให้เข้าใจได้ว่าการกระทำผิดของจำเลยได้กระทำการอย่างไร จึงเป็นฟ้องไม่ถูกต้องตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 158.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 540/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความไม่ชัดเจนในการบรรยายฟ้องการประกอบโรคศิลปะสาขาเวชกรรม ทำให้ฟ้องไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
ตามมาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมการประกอบโรคศิลปะ 2479แก้ไขโดยพ.ร.บ.ควบคุมการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ 5)2490มาตรา 3แสดงว่า ในการประกอบโรคศิลปะสาขาเวชกรรมนั้นมีการกระทำซึ่งเป็นข้อเท็จจริงต่างกันและแยกกันหลายประการเมื่อโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยได้บังอาจประกอบโรคศิลปะสาขาเวชกรรมมิได้บรรยายข้อเท็จจริงให้เห็นว่า จำเลยได้กระทำการอย่างไรอันเป็นการประกอบโรคศิลปะสาขาเวชกรรมจึงไม่ชัดเจนพอให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแม้จะบรรยายว่าจับได้ยาต่างๆหลายอย่างรวมทั้งเข็มและหลอดฉีดยา เลื่อยตัดก็ไม่อาจทำให้เข้าใจได้ว่าการกระทำผิดของจำเลยได้กระทำการอย่างไร จึงเป็นฟ้องไม่ถูกต้องตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 538/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องอาญาแจ้งความเท็จต้องระบุวันเวลาชัดเจน หากฟ้องไม่ระบุเวลาของความผิด ถือเป็นฟ้องไม่ถูกต้อง
ฟ้องของโจทก์ข้อ 1. ระบุวันเวลาที่โจทก์ไปตัดไม้ ส่วนฟ้องข้อ 2. มีข้อความเพียงว่าเนื่องจากโจทก์ตัดไม้ในข้อ 1. จำเลยไปแจ้งความเท็จแก่เจ้าหน้าที่แต่มิได้ระบุวันเวลาไว้ แม้จะอ่านฟ้องข้อ 1,2 รวมกันก็ไม่ได้ความว่าจำเลยไปแจ้งในวันเวลาที่โจทก์ตัดไม้ จึงถือว่าฟ้องของโจทก์ไม่ปรากฎเวลาตามมาตรา 158 (5) ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ต้องยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 538/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องอาญาแจ้งความเท็จต้องระบุวันเวลาชัดเจน หากฟ้องไม่ระบุเวลาถือเป็นฟ้องไม่ถูกต้อง
ฟ้องของโจทก์ข้อ 1 ระบุวันเวลาที่โจทก์ไปตัดไม้ส่วนฟ้องข้อ 2 มีข้อความเพียงว่าเนื่องจากโจทก์ตัดไม้ในข้อ 1 จำเลยไปแจ้งความเท็จแก่เจ้าหน้าที่แต่มิได้ระบุวันเวลาไว้ แม้จะอ่านฟ้องข้อ 1,2 รวมกันก็ไม่ได้ความว่าจำเลยไปแจ้งในวันเวลาที่โจทก์ตัดไม้ จึงถือว่าฟ้องของโจทก์ไม่ปรากฏเวลาตามมาตรา 158(5) ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ไม่ถูกต้องตามกฎหมายต้องยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 410/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำกฎหมายใหม่มาใช้ย้อนหลังกับฟ้องที่ไม่ถูกต้อง และอำนาจศาลในการพิจารณาคดีอาญา
โจทก์ฟ้องจำเลยว่าทำร้ายเจ้าพนักงานและฆ่าคนตายโดยเจตนาฟ้องก่อน พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร(ฉบับที่ 5) พ.ศ.2496 ออกใช้บังคับ
ศาลมณฑลทหารบกที่ 7 ยกฟ้องโดยเห็นว่าข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาต่างกับฟ้อง(ฟ้องว่าเหตุเกิดเวลากลางวัน ทางพิจารณาได้ความว่าเวลากลางคืน) ศาลทหารกลางเห็นว่าข้อต่อสู้และการนำสืบของจำเลยแสดงได้ชัดว่าจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้ซึ่งตาม พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร(ฉบับที่ 5) พ.ศ.2496 มาตรา 100 มิให้ถือว่าต่างกันในข้อสาระสำคัญอันจะเป็นเหตุให้ศาลยกฟ้อง พิพากษายกคำพิพากษาศาลทหารบกที่ 7 ให้พิจารณาพิพากษาใหม่
ดังนี้แม้จำเลยจะมิได้ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาของศาลทหารกลางแต่อย่างใดในชั้นนั้นเมื่อศาลมณฑลทหารบกที่ 7 พิจารณาใหม่แล้วพิพากษาลงโทษจำเลยและศาลทหารกลางพิพากษายืนดังนี้ จำเลยจะคัดค้านขึ้นมาในชั้นฎีกาว่าข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาต่างกับฟ้องก็ได้เพราะปัญหาข้อนี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยและเมื่อศาลทหารกลางพิพากษาให้ยกคำพิพากษาของศาลมณฑลทหารบกที่ 7 ให้พิจารณาพิพากษาใหม่นั้น คดีก็ยังไม่ถึงที่สุดคู่ความหรือศาลย่อมยกขึ้นกล่าวอ้างได้
พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร(ฉบับที่ 5)พ.ศ.2496 มาตรา 100นี้ ใช้บังคับแก่ฟ้องที่ไม่ถูกต้องซึ่งเกิดขึ้นภายหลังวันใช้บังคับเท่านั้นจะนำเอากฎหมายที่ออกใช้ภายหลังมาลงโทษจำเลยไม่ได้และกฎหมายใหม่ในกรณีเช่นนี้หาอาจไปแก้ไขฟ้องที่ไม่ถูกต้องให้เป็นการถูกต้องขึ้นได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 793/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องไม่ชัดเจนจำเลยกระทำผิดต่อใคร ฟ้องไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
ฟ้องโจทก์ที่กล่าวว่า จำเลยทั้ง 3 บังอาจใช้กำลังกายและสาตราวุธทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน จำเลยที่ 1 บาดเจ็บสาหัส จำเลยที่ 2 ไม่บาดเจ็บ จำเลยที่ 3 บาดเจ็บ ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.อาญา ม. 254,256 ดังนี้เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะจำเลยคนใดย่อมไม่อาจเข้าใจว่า ต้องหาว่าทำร้ายจำเลยคนใดอย่างไร ถึงบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ และจะลงโทษตาม ม. 258 ก็ไม่ได้ เพราะโจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1239/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความขัดแย้งในการบรรยายฟ้องฉ้อโกงและยักยอก ทำให้ฟ้องไม่ถูกต้อง
โจทก์ฟ้องบรรยายว่าจำเลยเอาความเท็จ มาหลอกลวงผู้เสียหายว่า จะเอารถยนต์ซึ่งจำเลยเอามามอบให้ผู้เสียหายไว้เป็นประกันเงินกู้ไปบรรทุกผลไม้ เจ้าทุกข์หลงเชื่อ จึงมอบรถให้ไปหรือเจ้าทุกข์มอบรถยนต์ให้จำเลยโดยจำเลยยืมเอาไปรับจ้างบรรทุกผลไม้แล้วจะส่งคืน แล้วจำเลยจึงเอาไปขายเสีย ขอให้ลงโทษตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 304,314 ดังนี้ เป็นฟ้องที่บรรยายการกระทำของจำเลยขัดกันอยู่ในตัวและขาดองค์ความผิดฐานฉ้อโกงและยักยอกเป็นฟ้องไม่ถูกต้อง
of 4