คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ภาษีศุลกากร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 43 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4082/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร: การกระทำของผู้เกี่ยวข้อง, อายุความ, และการเปรียบเทียบปรับ
จำเลยเป็นผู้จัดการของบริษัท ท. จำกัด ได้สั่งเครื่องจักรหลายประเภทเข้ามาในราชอาณาจักร โดยสำแดงในใบขนสินค้า ขาเข้าเพื่อชำระอากรต่ำกว่าราคาที่แท้จริง อันเป็นการกระทำความผิด ตามพระราชบัญญัติศุลกากร ทั้งฐานสำแดงเท็จตามมาตรา 99 และฐานหลีกเลี่ยงค่าภาษีอากรตามมาตรา 27 ซึ่งเป็นความผิดต่างกรรมกัน แม้โจทก์จะมิได้ฟ้องจำเลยในความผิดตามมาตรา 99 เพราะขาดอายุความแล้ว ก็ย่อมฟ้องจำเลยในความผิดตามมาตรา 27 ได้ ความผิดตามมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร นอกจากจะเอาความผิดต่อผู้หลีกเลี่ยงค่าภาษีอากรแล้ว ยังเอาผิดต่อผู้ที่ เกี่ยวข้อง ในการหลีกเลี่ยงค่าภาษีอากรด้วย ฉะนั้น แม้บริษัท ท. จำกัด จะ เป็น ผู้นำเครื่องจักรเข้ามาในราชอาณาจักร แต่เมื่อจำเลย ซึ่ง เป็น ตัวแทน ของบริษัท ท.จำกัดเกี่ยวข้องในการหลีกเลี่ยงภาษีอากรของบริษัทท.จำกัด ด้วย จำเลยย่อมมีความผิดฐานดังกล่าว เจ้าพนักงานผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนอธิบดีกรมศุลกากรได้เรียกให้ จำเลยไปตกลงระงับคดี โดยจะเปรียบเทียบปรับแก่จำเลย แต่เมื่อจำเลยไม่ยอมชำระค่าปรับตามที่ตกลงยินยอมกรณีก็ถือไม่ได้ว่า มีการเปรียบเทียบปรับอันจะทำให้คดีของจำเลยเลิกกันตามพระราชบัญญัติศุลกากร มาตรา 102,102 ทวิ และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39 ประกอบมาตรา 37(4).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4794/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อุทธรณ์การประเมินภาษีศุลกากร: การฟ้องคดีแม้มีการอุทธรณ์ และการประเมินราคาตามราคาตลาด
พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 112 ทวิวรรคสามเป็นเพียงข้อกำหนดว่าอาจอุทธรณ์ได้ ถ้ามิได้อุทธรณ์ก็มิได้ตัดสิทธิในการฟ้องคดี เมื่อมีการอุทธรณ์แล้วแม้จะมิได้พิจารณาอุทธรณ์หรือพิจารณาไม่เสร็จก็มิได้ห้ามมิให้ฟ้องคดีฉะนั้นเมื่อมีการประเมินภาษีอากรอันจะพึงต้องเสียและแจ้งให้จำเลยทราบแล้ว จำเลยไม่ชำระก็เป็นการโต้แย้งสิทธิและโจทก์มีอำนาจที่จะฟ้องคดีได้ทันที การที่จำเลยขอความเป็นธรรมต่อโจทก์ที่ 1 เกี่ยวกับการประเมินภาษีถือเป็นการอุทธรณ์การประเมินอากร ตาม พ.ร.บ. ศุลกากรพ.ศ. 2469 มาตรา 112 ทวิ วรรคสาม แต่ไม่ถือว่าเป็นการอุทธรณ์โต้แย้งคัดค้านการประเมินภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาลต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 30 การประเมินภาษีอากรขาเข้าจะชอบหรือไม่ ต้องพิจารณาว่าราคาอันแท้จริงในท้องตลาดของสินค้าดังกล่าวเป็นจำนวนเท่าใด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1859/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินภาษีศุลกากรต้องใช้ราคาแท้จริงในท้องตลาดขณะนำเข้า การเปรียบเทียบราคาที่ไม่สมเหตุสมผลเป็นเหตุให้การประเมินไม่ชอบ
เมื่อเดือน มิถุนายน 2519 จำเลยสั่งสินค้าประเภทอะไหล่รถยนต์มีเฟืองเกียร์ และเดือยหมูจากต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักรและได้ สำแดงราคาสินค้าเพื่อเสียภาษีอากรชุด ละ 41.86 เหรียญสหรัฐเจ้าพนักงานประเมินไม่อาจประเมินราคาสินค้าได้ ในขณะนั้น จึงชักตัวอย่างไว้ตรวจสอบ ต่อมาเจ้าพนักงานได้ วิเคราะห์ข้อมูลจากสินค้าประเภทและแหล่ง เดียว กันที่มีผู้นำเข้า ปรากฏว่ามีการนำเข้าในเดือน ตุลาคม 2517 กำหนดราคาชุดละ 47.87 เหรียญสหรัฐและนำเข้าในเดือน พฤศจิกายน 2519 กำหนดราคาชุด ละ 54.90เหรียญสหรัฐ เจ้าพนักงานประเมินจึงกำหนดราคาแท้จริงในท้องตลาดสำหรับสินค้าที่จำเลยนำเข้าเท่ากับ 47.87 เหรียญสหรัฐโดย เปรียบเทียบราคาแรกกับราคาหลังซึ่ง ขึ้นลงได้ การเรียกเก็บค่าภาษีอากรกฎหมายศุลกากรให้ประเมินอากรตาม ราคาแท้จริงในท้องตลาดแห่งของนั้น เมื่อโจทก์นำสืบไม่ได้ว่าราคาสินค้าที่จำเลยสำแดงเพื่อเสียภาษีต่ำ กว่าราคาที่โจทก์ถือ เป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาดเพื่อเป็นการประเมินเรียกเก็บภาษี ดังนี้ถือ ไม่ ได้ว่าจำเลยได้ สำแดงราคาสินค้าไว้ต่ำ กว่าราคาแท้จริงในท้องตลาด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 933/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ราคาประเมินภาษีศุลกากรต้องเป็นราคาแท้จริง หักดอกเบี้ยเงินเชื่อได้
ราคาที่ถือเป็นเกณฑ์ในการคำนวณภาษีศุลกากรต้องเป็นราคาอันแท้จริงมิใช่ราคาที่ซื้อเงินเชื่อซึ่งรวมดอกเบี้ยด้วยการหักดอกเบี้ยที่เกิดจากการซื้อเงินเชื่อออกก่อนแล้วจึงเสียภาษี จึงเป็นการเสียภาษีที่ถูกต้องแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 587/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ราคาอันแท้จริงในท้องตลาด: การประเมินราคาภาษีศุลกากรโดยสืบราคาจากตลาดจริงเพื่อใช้เป็นเกณฑ์คำนวณภาษี
โจทก์สำแดงราคาสินค้าในใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าเท่ากับราคาสินค้าในบัญชีราคาสินค้าและหลักฐานเอกสารการชำระเงินให้แก่ผู้ขายและโจทก์นำสืบว่าราคาดังกล่าวเป็นราคาแท้จริงจึงควรเป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาดของราคาสินค้าซึ่งต้องใช้เป็นเกณฑ์คำนวณภาษีอากร แต่พระราชบัญญัติศุลกากรพุทธศักราช 2469 มาตรา 2 นิยามคำว่า "ราคาอันแท้จริงในท้องตลาด"หมายความว่า ราคาขายส่งเงินสด (ในส่วนของขาเข้าไม่รวมค่าอากร)ซึ่งจะพึงขายของประเภทและชนิดเดียวกันได้โดยไม่ขาดทุน ณ เวลาและที่ที่นำของเข้าหรือส่งของออกแล้วแต่กรณี โดยไม่มีหักทอนหรือลดหย่อนราคาอย่างใด ตามความหมายนี้ ราคาที่โจทก์ซื้อสินค้ามาโดยอ้างว่าเป็นราคาแท้จริง จึงมิใช่เป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาดเสมอไป แม้โจทก์จะนำสืบว่าเคยนำเข้าสินค้าชนิดเดียวกันมาก่อนในราคาเดียวกับการนำเข้าครั้งนี้ก็ปรากฏว่าเป็นการนำเข้าของโจทก์เองซึ่งซื้อจากผู้ขายรายเดียวกัน นอกจากนี้โจทก์ไม่มีพยานหลักฐานอื่นแสดงให้เห็นว่าราคาขายเงินสด ซึ่งจะพึงขายของประเภทและชนิดเดียวกันได้ โดยไม่ขาดทุน ณ เวลาที่นำเข้าและสถานที่ที่นำเข้าซึ่งเป็นความหมายของราคาอันแท้จริงในท้องตลาดว่าเป็นราคาเท่าใด ดังนี้ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์สำแดงไว้ในใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้านั้นเป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาดของสินค้า อันจะใช้เป็นเกณฑ์ในการคำนวณภาษีอากรได้ จำเลยให้เจ้าหน้าที่ซึ่งประจำเมืองฮ่องกง อันเป็นสถานที่ที่โจทก์สั่งซื้อสินค้าเข้ามา สืบราคาตามร้านใหญ่ ๆ หลายร้านราคาที่สืบได้ส่วนใหญ่ใกล้เคียงกัน เมื่อนำมาเฉลี่ยแล้วราคาขายปลีกสินค้าพิพาทกิโลกรัมละ 3,974.87 เหรียญฮ่องกงคำนวณเป็นราคาขายส่งโดยคิดลดลง 20 เปอร์เซ็นต์เป็นราคาขายส่ง เอฟ.โอ.บี. กิโลกรัมละ3,180 เหรียญฮ่องกง อันถือเป็นราคาอันแท้จริงที่ซื้อขายกันคำนวณเป็นราคา ซี.ไอ.เอฟ. โดยนำค่าขนส่งทางอากาศและค่าประกันภัยในบัญชีราคาสินค้าตามที่โจทก์สำแดงไว้ บวกเข้าไป ผลออกมาเป็นราคาซี.ไอ.เอฟ. กิโลกรัมละประมาณ 3,200 เหรียญฮ่องกง การหาราคาอันแท้จริงของจำเลยได้กระทำตามขั้นตอน มีการคิดคำนวณรายละเอียดต่าง ๆ อย่างมีเหตุผลและเป็นวิธีที่ถูกต้องน่าเชื่อถือเป็นการสืบหาราคาในเวลาที่ใกล้เคียงพอสมควรกับเวลาที่โจทก์นำเข้า ฟังได้ว่าราคาอันแท้จริงในท้องตลาดของสินค้าพิพาทกิโลกรัมละ 3,200เหรียญฮ่องกง มิใช่ราคากิโลกรัมละ 750 เหรียญฮ่องกง ดังที่โจทก์สำแดงราคาไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2758/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องขอคืนภาษีศุลกากร: การยินยอมชำระภาษีเกินและผลกระทบต่ออายุความ
โจทก์นำน้ำมันปาล์มแข็งบริสุทธิ์เข้ามา โดยระบุพิกัดอัตราศุลกากรประเภทที่ 15.13 อัตราอากรร้อยละ 60 ในใบขนสินค้าขาเข้า พร้อมกับบันทึกโต้แย้งว่า สินค้าพิพาทจัดอยู่ในพิกัดอัตราศุลกากรประเภทที่ 15.12 ค อ้างว่าจำเป็นต้องยอมเสียภาษีอากรตามพิกัดดังกล่าว มิฉะนั้นจะไม่สามารถนำสินค้าออกมาได้เช่นนี้ เป็นเรื่องที่โจทก์ยินยอมเสียภาษีอากรเกินจำนวนไปกว่าที่โจทก์เห็นว่าต้องเสียจริง เพราะเหตุอันเกี่ยวกับชนิดและอัตราอากรสำหรับสินค้าพิพาทนั่นเอง มิใช่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการประเมินภาษีอากรของเจ้าหน้าที่ ดังนั้น โจทก์จึงต้องฟ้องคดีภายในสองปีนับแต่วันที่นำของเข้า มิฉะนั้นคดีของโจทก์ขาดอายุความตามมาตรา 10 วรรคห้าแห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2754/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบเรือของกลางและเหตุบรรเทาโทษจากพฤติการณ์มอบตัวในคดีหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร
ข้อเท็จจริงยุติแล้วว่า เรือของกลางมีระวางบรรทุกไม่เกิน250 ตัน ใช้ในการขนยางของกลางที่ยังมิได้เสียค่าภาษี และยางเป็นของที่ต้องจำกัด ศาลสั่งริบเรือของกลางได้ โจทก์หาจำต้องบรรยายฟ้องว่าเรือของกลางมีระวางบรรทุกเท่าใดไม่ เพราะไม่ใช่องค์ประกอบของความผิด
พนักงานศุลกากรยึดเรือและยางของกลางได้โดยไม่มีตัวผู้ต้องหา ไม่มีพยานโจทก์คนใดรู้ตัวผู้กระทำผิด จำเลยเข้ามอบตัวต่อเจ้าพนักงานถึง 2 ครั้ง แม้จำเลยให้การต่อสู้คดีตลอดมาก็ถือได้ว่าเป็นการลุแก่โทษต่อเจ้าพนักงานเป็นเหตุบรรเทาโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ศาลลดโทษให้จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2451/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรโดยการสำแดงประเภทพิกัดเท็จ และการคำนวณค่าปรับตามอัตราที่กฎหมายกำหนด
การกระทำอันเป็นความผิดตามความในมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 นั้นมีหลายประการด้วยกัน หาใช่จำกัดเฉพาะการนำหรือพาของที่ยังมิได้เสียภาษีหรือที่ยังมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องเท่านั้นไม่ จำเลยละเว้นไม่แสดงประเภทพิกัดให้ตรงความเป็นจริงเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีศุลกากรให้น้อยลง การกระทำของจำเลยเข้าลักษณะหลีกเลี่ยงการเสียภาษีศุลกากร หรือหลีกเลี่ยงบทกฎหมายและข้อจำกัดใดๆ อันเกี่ยวแก่การนำของเข้าโดยเจตนาจะฉ้อค่าภาษีของรัฐบาลตามความในมาตรานี้
สำหรับค่าปรับตามมาตรา 27 นั้น กฎหมายกำหนดให้ปรับเงินสี่เท่าราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรด้วยแล้ว ค่าอากรในที่นี้หมายถึงค่าอากรตามอัตราที่จำเลยต้องชำระโดยไม่คำนึงถึงว่าจำเลยได้ชำระค่าอากรไว้แล้ว เพียงไรหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2451/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรโดยการสำแดงประเภทพิกัดสินค้าไม่ตรงความจริง ทำให้รัฐขาดรายได้
การกระทำอันเป็นความผิดตามความในมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 นั้นมีหลายประการด้วยกันหาใช่จำกัดเฉพาะการนำหรือพาของที่ยังมิได้เสียภาษีหรือที่ยังมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องเท่านั้นไม่จำเลยละเว้นไม่แสดงประเภทพิกัดให้ตรงความเป็นจริงเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีศุลกากรให้น้อยลง การกระทำของจำเลยเข้าลักษณะหลีกเลี่ยงการเสียภาษีศุลกากร หรือหลีกเลี่ยงบทกฎหมายและข้อจำกัดใด ๆ อันเกี่ยวแก่การนำของเข้าโดยเจตนาจะฉ้อค่าภาษีของรัฐบาลตามความในมาตรานี้
สำหรับค่าปรับตามมาตรา 27 นั้น กฎหมายกำหนดให้ปรับเป็นเงินสี่เท่าราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรด้วยแล้ว ค่าอากรในที่นี้หมายถึงค่าอากรตามอัตราที่จำเลยต้องชำระโดยไม่คำนึงถึงว่าจำเลยได้ชำระค่าอากรไว้แล้วเพียงไรหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2310/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคำนวณโทษปรับคดีหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร: พิจารณาจากราคาของรวมค่าอากร และขอบเขตของคำว่า 'ค่าอากร'
พระราชบัญญัติศุลกากร มาตรา 27 บัญญัติถึงกำหนดโทษสำหรับความผิดฐานหลีกเลี่ยงการเสียภาษีศุลกากร โดยเจตนาจะฉ้อค่าภาษีของรัฐบาลไว้ว่า ฯลฯ สำหรับความผิดครั้งหนึ่งๆ ให้ปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาของ ซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว ฯลฯ" บทบัญญัตินี้มิได้จำกัดว่า ค่าอากรนั้นให้คิดเฉพาะค่าอากรที่เสียขาดไป จึงย่อมหมายถึงค่าอากรทั้งหมดสำหรับของนั้น อย่างไรก็ดีคำว่า "ค่าอากร" ตามบทบัญญัติดังกล่าว หมายถึงค่าอากรในทางศุลกากรเท่านั้น ไม่หมายความรวมถึงภาษีการค้า อันเป็นภาษีอากรฝ่ายสรรพากร
of 5