คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ยิงพลาด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 15 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 997/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการยิงพลาดเป้า แม้กระสุนไม่ถูกอวัยวะสำคัญ ศาลฎีกาพิพากษายืนความผิดฐานพยายามฆ่า
ทีแรกผู้เสียหายเอาแขนท้าวประตูรถจำเลย เห็นจำเลยเอื้อมมือหยิบวัตถุสีดำเข้าใจว่าปืน จึงเอี้ยวตัวหลบ พอดีจำเลยยิงถูกใต้ศอกซ้ายทะลุ การที่จำเลยยิงถูกผู้เสียหายขณะเอี้ยวตัวหลบ เห็นได้ว่าหมายยิงลำตัวซึ่งอยู่ในอาการเคลื่อนไหวไม่ใช่หมายยิงแขนโดยเฉพาะ ปืนเป็นอาวุธร้ายแรง การยิงสาดตรงไปที่ตัว ย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าอาจถึงตาย เป็นกรณีเจตนาฆ่า เมื่อกระสุนปืนพลาดที่หมายไปถูกศอก จำเลยย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่าคน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 997/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการยิงพลาดเป้า แม้กระสุนไม่ถูกลำตัว แต่ถือเป็นพยายามฆ่า
ทีแรกผู้เสียหายเอาแขนท้าวประตูรถจำเลย เห็นจำเลยเอื้อมมือหยิบวัตถุสีดำเข้าใจว่าปืน จึงเอี้ยวตัวหลบพอดีจำเลยยิงถูกใต้ศอกซ้ายทะลุ การที่จำเลยยิงผู้เสียหายขณะเอี้ยวตัวหลบ เห็นได้ว่าหมายยิงลำตัวซึ่งอยู่ในอาการเคลื่อนไหว ไม่ใช่หมายยิงแขนโดยเฉพาะปืนเป็นอาวุธร้ายแรง การยิงสาดตรงไปที่ตัว ย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าอาจถึงตาย เป็นกรณีเจตนาฆ่า เมื่อกระสุนปืนพลาดที่หมายไปถูกศอก จำเลยย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่าคน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1344/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากวิวาทปืน: การพิจารณาเจตนาจากพฤติการณ์ยิง และการใช้ดุลพินิจของศาล
ต่างใช้ปืนแก๊บยิงกันฝ่ายละนัด โดยสมัครใจวิวาทกันกระสุนถูกฝ่ายเดียวในที่ไม่สำคัญจึงเพียงแต่มีบาดเจ็บ หากถูกที่สำคัญก็ทำให้ตายได้ ต่างฝ่ายต่างมีความผิดตาม มาตรา 249,60

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1373/2553

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการยิงพลาด และการฎีกาเรื่องการลงโทษที่ไม่ชอบ
จำเลยใช้อาวุธปืนซึ่งเป็นอาวุธร้ายแรงมีอานุภาพที่จะใช้ยิงทำให้ถึงแก่ความตายได้ถ้าถูกอวัยวะสำคัญ แต่การที่จำเลยยิงถูกผู้เสียหายบริเวณต้นแขนขวา ก็เนื่องจากผู้เสียหายรู้ตัวจึงเอี้ยวตัวหลบได้ทัน โดยจำเลยเล็งปืนมาที่หน้าอกของผู้เสียหาย ซึ่งขณะนั้นจำเลยยืนอยู่ห่างจากผู้เสียหายเพียง 3 เมตร หากผู้เสียหายไม่เอี้ยวตัวหลบกระสุนปืนอาจถูกบริเวณหน้าอกซึ่งเป็นอวัยวะส่วนสำคัญของร่างกาย จำเลยย่อมเล็งเห็นได้ว่าผู้เสียหายอาจได้รับอันตรายถึงแก่ความตายได้ นอกจากนี้จำเลยยังได้เล็งปืนไปที่ผู้เสียหายทำท่าจะยิงซ้ำ แต่นาย ค. ได้เข้าไปปัดมือของจำเลยเสียก่อนแสดงให้เห็นถึงเจตนาของจำเลยว่ามีความประสงค์ต้องการฆ่าผู้เสียหายให้ถึงแก่ความตายแต่ไม่สามารถยิงซ้ำได้เพราะนาย ค. ปัดมือจำเลยเสียก่อน การกระทำของจำเลยจึงบ่งชี้ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายไม่ถึงความตาย จำเลยย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย
สำหรับความผิดฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตนั้น ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินห้าปี จึงต้องห้ามมิให้จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคหนึ่ง ฎีกาของจำเลยที่ขอให้ลงโทษในสถานเบาเป็นการโต้แย้งดุลพินิจในการลงโทษของศาลอุทธรณ์ภาค 2 อันเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามบทบัญญัติดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4166/2550

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามฆ่าจากเหตุยิงพลาด และการปรับบทลงโทษที่ถูกต้อง
การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิง ส. กระสุนปืนถูก ส. และยังพลาดไปถูก อ. ด้วยนั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่า ส. และฐานพยายามฆ่า อ. โดยพลาด แม้โจทก์จะมิได้บรรยายฟ้องว่าการกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นการกระทำโดยพลาดมาด้วย ก็ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง อันจะเป็นเหตุให้ศาลต้องพิพากษายกฟ้องตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 และการกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท
of 2