คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ยึดถือครอบครอง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 25 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2270/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานยึดถือครอบครองที่ดินของรัฐหลังประกาศ คปฎ.ฉบับที่ 96: ฎีกายืนตามศาลล่าง
ประมวลกฎหมายที่ดินบัญญัติความผิดในการเข้ายึดถือครอบครองที่ดินของรัฐไว้เป็น 2 กรณี กล่าวคือถ้าเป็นกรณีเข้ายึดถือครอบครอง ก่อนวันที่ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 96 ลงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2515ใช้บังคับก็เป็นความผิดตามมาตรา 108 ถ้าเป็นกรณีเข้ายึดถือครอบครอง นับตั้งแต่วันที่ประกาศของคณะปฏิวัติดังกล่าวใช้บังคับ ก็เป็นความผิด ตามมาตรา 108 ทวิ ซึ่งมีองค์ประกอบแตกต่างกัน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดซึ่งเป็นเวลาภายหลังที่ ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 96 ใช้บังคับแล้ว และศาลล่างทั้งสองพิพากษายืนตามกันให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 108 ทวิ หาใช่ มาตรา108 ไม่ การที่จำเลยฎีกาว่าการกระทำของจำเลยไม่ครบ หลักเกณฑ์หรือไม่ครบองค์ประกอบความผิดตามมาตรา 108 จึงไม่มีผลที่จะเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นอย่างอื่นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2871/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีเกี่ยวกับที่ดินในเขตป่าสงวนฯ บุคคลไม่มีสิทธิยึดถือครอบครองย่อมไม่มีอำนาจให้เช่าหรือฟ้องขับไล่
ที่พิพาทอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาไม่มีอำนาจนำที่พิพาทให้จำเลยเช่าจึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาทและเรียกค่าเช่าจากจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 784/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ที่ดิน: คำสั่งศาลครอบครองปรปักษ์ใช้ยันเจ้าของเดิมไม่ได้หากเจ้าของเดิมยังยึดถือครอบครองอยู่
คำสั่งศาลว่าที่ดินเป็นของจำเลยที่ 1 หาอาจใช้ยันโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินกึ่งหนึ่งและไม่ได้ทอดทิ้งที่ดินได้ไม่ ไม่จำเป็นที่ศาลต้องพิพากษาเพิกถอนคำสั่งนั้นเสียก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 670/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้มาซึ่งสิทธิครอบครองที่ดิน: การยึดถือครอบครองต่อเนื่องและการขาดการยึดถือ
โจทก์มอบที่นาพิพาทให้สามีจำเลยทำกินตั้งแต่ปี 2488ต่อมาปี 2492 สามีจำเลยขอรังวัดออกโฉนด โจทก์ร้องคัดค้าน ดังนี้ ถือว่าสามีจำเลยแสดงออกแล้วว่าจะเอาที่นานั้นเสียเอง มิได้ยึดถือแทนโจทก์ต่อไป โจทก์หาได้ฟ้องคดีเรียกเอาคืนซึ่งการ ครอบครองจากสามีจำเลยไม่ จำเลยได้ขอรังวัดออกโฉนดที่ 2497 แย่งการออกโฉนดกับโจทก์จนโจทก์ร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรี เป็นเวลาเกือบ 10 ปี ปล่อยให้จำเลยยึดถือที่ดินเพื่อตนเอง เป็นเวลาเกิน 1 ปีแล้ว โจทก์จะเรียกร้องเอาคืนซึ่งการครอบครองหาได้ไม่
ที่ดินซึ่งมีแต่สิทธิครอบครอง ผู้ที่จะได้สิทธิในที่ดินประเภทนี้ต้องเป็นผู้ยึดถือที่ดินนั้น หรือมีผู้ยึดถือแทน หากโจทก์ขาดการยึดถือโดยมีผู้แย่งการครอบครอง ผู้ที่เข้ายึดถือเพื่อตนโดยแย่งการครอบครองย่อมได้สิทธิครอบครอง แต่กฎหมายกำหนดทางแก้ไว้ให้ผู้ครอบครองที่ถูกแย่งฟ้องคดีเรียกเอาคืนภายใน 1 ปี เมื่อโจทก์ไม่ปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนดก็เรียกเอาคืนซึ่งการครอบครองไม่ได้ ข้อที่อ้างว่ายังคงติดตามทางเจ้าพนักงาน มิใช่ทางแก้ที่กฎหมายกำหนดให้กระทำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 101/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้ยึดถือครอบครอง: แม้ยังไม่มีกรรมสิทธิ์ ก็มีสิทธิฟ้องเมื่อถูกรบกวน
โจทก์เป็นผู้ยึดถือครอบครองที่ดิน ได้ใช้น้ำและทางสัญจรไปมาทางคลอง ๆ หนึ่งจนได้ภารจำยอมแล้ว เมื่อจำเลยได้ปิดขวางคลองนั้น แม้ที่ดินที่โจทก์ครอบครองจะอยู่ในเขตพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามอันเป็นเหตุให้โจทก์ยังไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่แปลงนี้ก็ดี แต่เมื่อโจทก์ถูกรบกวนสิทธิของโจกท์ในฐานะผู้ยึดถือครอบครองจนได้รับความเสียหาย โจทก์ก็ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยผู้ซึ่งรบกวนสิทธิของโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 101/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้ยึดถือครอบครอง: แม้ยังไม่ได้กรรมสิทธิ์ ก็มีสิทธิฟ้องหากถูกรบกวน
โจทก์เป็นผู้ยึดถือครอบครองที่ดิน ได้ใช้น้ำและทางสัญจรไปมาทางคลองหนึ่งจนได้ภารจำยอมแล้ว เมื่อจำเลยได้ปิดขวางคลองนั้นแม้ที่ดินที่โจทก์ครอบครองจะอยู่ในเขตพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามอันเป็นเหตุให้โจทก์ยังไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่แปลงนี้ก็ดีแต่เมื่อโจทก์ถูกรบกวนสิทธิของโจทก์ในฐานะผู้ยึดถือครอบครองจนได้รับความเสียหายโจทก์ก็ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยผู้ซึ่งรบกวนสิทธิของโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2135/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานลักทรัพย์หรือยักยอกทรัพย์: การยึดถือครอบครองทรัพย์ที่หล่นหาย และเจตนาเอาทรัพย์ไปเป็นของตนเอง
เจ้าทรัพย์ลืมกระเป๋าทิ้งไว้ที่ข้างเกียร์บนรถยนต์ที่จำเลยเป็นผู้ขับขี่มีบุคคลอื่นมาพบและเก็บได้ถามว่ากระเป๋าของใคร ผู้โดยสารคนหนึ่งว่าเป็นของเขา ผู้เก็บได้จึงส่งกระเป๋าเงินให้จำเลยไปให้ผู้โดยสารคนนั้นเพราะมาด้วยกัน แต่จำเลยกลับเอาไว้เสียเองเช่นนี้การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานยักยอกมิใช่ลักทรัพย์ เพราะเมื่อเจ้าทรัพย์ลืมกระเป๋าเงินทิ้งไว้กรณีเป็นเก็บของตก ความยึดถือครอบครองทรัพย์ย่อมตกอยู่แก่คนกระเป๋ารถๆ มอบทรัพย์ให้อยู่ในความยึดถือครอบครองของจำเลยอีกตอนหนึ่งโดยจำเลยไม่ทราบว่าเป็นของใคร เมื่อจำเลยเอาไว้เป็นประโยชน์ส่วนตัวเสียจึงมีความผิดฐานยักยอกทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 58/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดถือครอบครองที่ดินโดยมิชอบ เมื่อพ้นกำหนดไถ่ถอน เจ้าของหมดสิทธิเรียกคืน
มารดาเอาที่ดินมือเปล่าของบุตรไปขายฝากไว้แก่ผู้อื่น โดยไม่มีอำนาจ แต่เมื่อครบกำหนดไถ่ถอนตามสัญญาแล้ว ไม่มีการไถ่การยึดถือของผู้รับซื้อฝากในที่ดินนั้น ย่อมเป็นการยึดถือครอบครองอย่างเจ้าของตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา 1367 เมื่อเกิน 1 ปี แล้ว บุตรผู้เป็นเจ้าของก็หมดสิทธิที่จะเรียกที่ดินคืนได้./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 58/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้มาซึ่งที่ดินโดยการยึดถือครอบครองอย่างเจ้าของหลังครบกำหนดไถ่ถอนจากการซื้อฝากโดยไม่มีอำนาจ
มารดาเอาที่ดินมือเปล่าของบุตรไปขายฝากไว้แก่ผู้อื่นโดยไม่มีอำนาจแต่เมื่อครบกำหนดไถ่ถอนตามสัญญาแล้วไม่มีการไถ่การยึดถือของผู้รับซื้อฝากในที่ดินนั้นย่อมเป็นการยึดถือครอบครองอย่างเจ้าของตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1367เมื่อเกิน 1 ปีแล้ว บุตรผู้เป็นเจ้าของก็หมดสิทธิที่จะเรียกที่ดินคืนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 78/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้จากการละเมิดด้วยการมอบกระบือ และการละเมิดสิทธิยึดถือครอบครอง
กระบือของจำเลยขวิดกระบือโจทก์ขาหักพิการ ใช้งานไม่ได้โจทก์จำเลยตกลงกันโดยจำเลยเอากระบือเมียให้แก่โจทก์ 1 ตัวเป็นค่าเสียหายการที่จำเลยมอบกระบือเมีย 1 ตัวแก่โจทก์นี้ ถือได้ว่าจำเลยได้ชำระหนี้อันเกิดจากการละเมิดให้โจทก์ เป็นการปฏิบัติต่อกันเลยคั่นที่จะถือว่าทำสัญญาประณีประนอมยอมความต่อกันไปแล้ว จึงไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือก็ใช้ได้ ฉะนั้นเมื่อจำเลยกลับไปเอากระบือนั้นมาเสียจากการยึดถือครอบครองของโจทก์ ก็นับว่าจำเลยได้ทำละเมิดสิทธิยึดถือครอบครองของโจทก์ขึ้นอีก โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยให้คืนกระบือนั้นหรือใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ได้
of 3