คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ยุติธรรม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 14 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1385/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับบัญชีระบุพยานล่าช้า: เหตุสมควรเพื่อความยุติธรรม ศาลมีอำนาจรับฟังพยานได้
โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานล่าช้ากว่ากำหนดตามกฎหมายไป 2 วัน แต่หาใช่เป็นโดยโจทก์จงใจฝ่าฝืนประการใดไม่ โจทก์ได้ยื่นคำร้องขออนุญาต และยื่นคำขอให้ศาลออกหมายเรียกพยาน ศาลก็ออกหมายเรียกพยานให้ตามคำขอแล้ว ทั้งจำเลยก็ยังมิได้สืบพยาน ดังนี้ มีเหตุผลสมควรเพื่อความยุติธรรมที่จะสั่งรับบัญชีระบุพยานของโจทก์ไว้ได้ (อ้างฎีกาที่ 1830/2492,148/2496)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 853/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีอาญา: ศาลต้องสืบพยานทั้งโจทก์และจำเลยเพื่อความยุติธรรม
สาลชั้นต้นฟังคำพยานโจท+เดียว แล้วพิพากสายกฟ้อง โดยที่รูปคดีของโจทมี+เปนความผิดและยังไม่+อันไดที่จะฟังข้อเท็ดจิง+ยุติเช่น ย่อมเปนการ++ด้วยวิธีพิจารนา สาล+ดำเนินกะบวนพิจารนาไห้เส็ดสิ้นกะแสความ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1003/2485

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นบัญชีระบุพยานนอกกรอบเวลา ศาลมีดุลพินิจอนุญาตได้เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
โจทยื่นบัญชีระบุพยานไนวันนัดพิจารนาซึ่งเปนการฝ่าฝืนตามประมวนกดหมายวิธีพิจารนาความแพ่ง ม.88, 90 ถ้าเปนไนกรีนีที่สาลเห็นมีเหตุผลอันสมควนและเพื่อประโยชน์แห่งความยุตติธัม สาลย่อมมีอำนาดรับบัญชีระบุพยานได้ตามมาตรา 87 (2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3843/2553

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานหลักฐานไม่เพียงพอต่อการลงโทษจำเลย จำเลยมีสิทธิได้รับการพิจารณาคดีอย่างยุติธรรม
เมื่อโจทก์ไม่สามารถนำผู้เสียหายและ ส. ซึ่งเป็นประจักษ์พยานมาเบิกความต่อศาลต่อหน้าจำเลย จำเลยย่อมไม่มีโอกาสถามค้านเพื่อให้ข้อเท็จจริงเป็นที่กระจ่างแก่ศาลได้ นอกจากนี้ที่ ส. พยานโจทก์ไม่สามารถมาศาลได้ ก็ปรากฏว่าพนักงานสอบสวนได้ส่งหมายเรียกให้ ส. โดยมี จ. มารดา ส. เป็นผู้รับหมายเรียกแทน พยานโจทก์ปาก ส. มีที่อยู่และสถานที่ทำงานที่แน่นอน โดยพักอาศัยกับภริยาและบุตร ทำงานเป็นคนขับรถของบริษัท ท. เชื่อว่าอยู่ในวิสัยที่จะยังติดตามพยานปากนี้มาเบิกความได้ จึงมิใช่กรณีที่มีเหตุจำเป็นเนื่องจากไม่สามารถนำบุคคลซึ่งเป็นผู้ได้เห็น ได้ยิน หรือทราบข้อความเกี่ยวในเรื่องที่จะให้การเป็นพยานนั้นด้วยตนเองโดยตรงมาเป็นพยานได้ และมีเหตุสมควรเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมที่จะรับฟังพยานบอกเล่านั้นตาม ป.วิ.อ. มาตรา 226/3 (2) ทั้งปรากฏว่าศาลลงโทษ ก. ข้อหาทำร้ายร่างกาย ยกฟ้องข้อหาพยายามฆ่า ทำให้มีความจำเป็นที่ต้องมีประจักษ์พยานที่รู้เห็นเหตุการณ์เกี่ยวกับการกระทำความผิดของจำเลยมาสืบเพื่อให้รับฟังได้โดยปราศจากสงสัยว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง เมื่อโจทก์ไม่สามารถนำผู้เสียหายและ ส. ซึ่งเป็นประจักษ์พยานมาเบิกความต่อศาลได้ คงมีพันตำรวจตรี ป. พนักงานสอบสวนเพียงปากเดียวมาเบิกความโดยที่จำเลยให้การปฏิเสธมาโดยตลอด พยานหลักฐานของโจทก์ย่อมไม่พอให้รับฟังลงโทษจำเลยได้
of 2