คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
รถเช่าซื้อ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 19 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5589/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของเจ้าของรถเช่าซื้อ, ความรับผิดทางละเมิด, และการแบ่งความรับผิดจากหลายฝ่าย
แม้โจทก์เป็นเพียงผู้เช่าซื้อรถยนต์ที่นายมังกรขับ แต่ถ้าโจทก์ได้ชำระค่าเช่าซื้อครบถ้วนแล้ว โจทก์ย่อมได้กรรมสิทธิ์ในรถยนต์ที่เช่าซื้อ การครอบครองรถยนต์คันดังกล่าวเป็นการครอบครองโดยมีเจตนาจะเป็นเจ้าของ และตามสัญญาเช่าซื้อโจทก์มีหน้าที่ดูแลรักษาและซ่อมแซมรถยนต์คันดังกล่าวให้คงสภาพใช้การได้ดีตลอดเวลาหากมีผู้ทำละเมิดเป็นเหตุให้รถยนต์คันดังกล่าวได้รับความเสียหาย ดังนั้น ที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าโจทก์เป็นเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าว ถือได้ว่าเป็นการบรรยายตามความเข้าใจของโจทก์ไม่เป็นเหตุให้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ในคดีอาญาพนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 ก.เป็นผู้เสียหาย และตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43,157 รัฐเป็นผู้เสียหาย คดีถึงที่สุดโดยศาลพิพากษาลงโทษจำเลย โจทก์ในคดีนี้ไม่ใช่ผู้เสียหายหรือคู่ความในคดีอาญานั้น ในการพิพากษาคดีนี้ศาลจึงไม่จำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาแต่เป็นกรณีที่ต้องฟังข้อเท็จจริงกันใหม่จากพยานหลักฐานที่คู่ความนำสืบกันมาในสำนวนคดีนี้ ความเสียหายของโจทก์มิได้เกิดจากการทำละเมิดของจำเลยเพียงฝ่ายเดียว กล่าวคือเกิดจากการขับรถยนต์โดยประมาทของ ม.จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อโจทก์เป็นอย่างมากด้วย พิเคราะห์พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งละเมิดแล้วไม่สมควรที่จะให้จำเลยรับผิดต่อโจทก์ในความเสียหายทั้งหมดของโจทก์. (วรรคสองวินิจฉัยโดยมติที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2534)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกค่าเสียหายจากละเมิดแม้ได้รับเงินประกันชีวิต และการรับผิดในค่าซ่อมรถเช่าซื้อ
จำเลยขับรถยนต์โดยประมาททำให้คนตาย โจทก์เป็นทายาทฟ้องเรียกค่าซ่อมรถจักรยานยนต์ที่ผู้ตายเช่าซื้อมาและต้องรับผิดต่อผู้ให้เช่าซื้อได้โจทก์ได้รับเงินประกันชีวิตผู้ตายแล้ว ไม่ทำให้หมดสิทธิที่จะเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูเป็นค่าเสียหายด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 375/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความเรียกคืนราคารถเช่าซื้อที่หาย: ไม่ใช่ค่าเช่าซื้อ ใช้ อายุความ 10 ปี
อายุความเรียกให้ผู้เช่าซื้อใช้ราคารถยนต์เช่าซื้อที่หายส่งคืนไม่ได้ ไม่ใช่เรียกค่าเช่าซื้อ มีอายุความ 10 ปี ไม่ใช่ 2 ปี ตามมาตรา 165(6)
พยานโจทก์เบิกความโดยอ่านเอกสารที่ส่งต่อศาลเป็นเอกสารที่จำเลยไม่ได้คัดค้านว่าไม่ถูกต้อง ศาลอนุญาตให้พยานอ่านข้อความนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1973/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเสียหายการใช้รถเช่าซื้อก่อนคืน: ศาลกำหนดตามสมควร ไม่ใช่ค่าเช่าค้างชำระ
ผู้เช่าซื้อรถยนต์ไม่ชำระค่าเช่าซื้อ ผู้ให้เช่าซื้อเลิกสัญญาเอารถคืน ค่าเสียหายที่ผู้ให้เช่าซื้อเรียกได้สำหรับการใช้รถก่อนได้รับคืนมิใช่จำนวนเท่ากับค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระซึ่งผู้ให้เช่าซื้อมีสิทธิเรียกได้ ศาลกำหนดให้ตามสมควร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 468/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของบิดามารดาต่อการกระทำละเมิดของบุตรผู้เยาว์ และสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากรถเช่าซื้อ
จำเลยเป็นบิดามารดาของผู้เยาว์ เป็นผู้มีฐานะดีมีรถใช้ในกิจการ 4 คัน ได้ยินยอมให้ผู้เยาว์ซึ่งมีอายุ 19 ปี 6 เดือน ขับรถไปใช้ได้ และได้ความว่าผู้เยาว์เป็นคนสายตาสั้น ดังนี้ จำเลยย่อมรู้ดีว่าการขับรถของผู้เยาว์ย่อมเกิดอันตรายได้โดยง่าย จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่บิดามารดา ที่จะพึงดูแลบุตร เมื่อผู้เยาว์ขับรถของจำเลยไปทำละเมิดต่อโจทก์ จำเลยต้องรับผิดในผลที่ผู้เยาว์กระทำละเมิดด้วย
แม้ในระหว่างสัญญาเช่าซื้อ ผู้เช่าซื้อยังไม่ได้กรรมสิทธิ์ในรถที่เช่าซื้อมา แต่ผู้เช่าซื้อก็ชอบที่จะใช้ประโยชน์ของรถ และมีหน้าที่ต้องส่งคืนรถในสภาพเรียบร้อยแก่ผู้ให้เช่าซื้อหากมีกรณีต้องคืน เมื่อมีผู้ละเมิดทำให้รถที่เช่าซื้อเสียหาย ผู้เช่าซื้อจึงมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ละเมิดได้ และเมื่อผู้เช่าซื้อตาย สิทธิดังกล่าวก็ตกทอดมายังทายาทที่จะฟ้องเรียกร้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5236/2559

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเสียหายจากการละเมิดต่อรถเช่าซื้อ: คำนวณจากราคาขณะเกิดเหตุ ไม่รวมเงินดาวน์/เช่าซื้อ
การกระทำละเมิดของจำเลยที่ 1 ทำให้รถยนต์ของโจทก์ที่เช่าซื้อได้รับความเสียหายทั้งคันจนไม่สามารถซ่อมให้คืนสู่สภาพเดิมได้ โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากราคารถยนต์ที่เช่าซื้อมาตามสภาพและราคาขณะเกิดเหตุ ไม่อาจเรียกจากราคาเช่าซื้อรวมถึงเงินดาวน์ที่โจทก์ชำระไปแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9489/2558

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการทำละเมิดต่อรถเช่าซื้อ แม้จะขายซากรถแล้ว ก็ยังฟ้องได้
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยประมาทเลินเล่อขับรถบรรทุกชนท้ายรถโดยสาร ทำให้รถโดยสารที่โจทก์ครอบครองและใช้ประโยชน์อยู่ได้รับความเสียหาย เป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์ จำเลยจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น และเรียกค่าเสียหายตามฟ้อง ข้อ ก. เป็นค่าเสียหายที่โจทก์ต้องนำรถโดยสารไปซ่อมเป็นจำนวนเงินตามบัญชีใบประเมินราคาการซ่อม ค่าเสียหายส่วนที่โจทก์ฟ้องมาตามฟ้องข้อ ก. โจทก์มิได้ฟ้องให้จำเลยรับผิดเป็นค่าซ่อมรถโดยตรง เพียงแต่โจทก์เรียกค่าเสียหายส่วนนี้โดยอิงกับใบประเมินราคา ซึ่งหากมีการซ่อมรถก็มีรายการและราคาตามใบประเมินราคานี้ ดังนั้น แม้รถโดยสารจะถูกผู้ให้เช่าซื้อขายไปในลักษณะขายซากรถโดยไม่ได้รับการซ่อมหรือไม่ หรือโจทก์ทราบข้อเท็จจริงว่า ผู้ให้เช่าซื้อขายซากรถไปโดยที่ยังไม่ได้รับการซ่อมหรือไม่ ก็ไม่สำคัญ เพราะโจทก์มิได้ฟ้องเรียกค่าซ่อมรถโดยตรง แต่เป็นการฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการที่จำเลยกระทำละเมิดทำให้รถโดยสารที่โจทก์ครอบครองและใช้ประโยชน์อยู่ได้รับความเสียหาย โจทก์ผู้เช่าซื้อย่อมมีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายตามฟ้องข้อ ก. ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 149/2554

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าของกรรมสิทธิ์รถเช่าซื้อ: การขอคืนรถหลังจำเลยกระทำผิด ไม่ถือเป็นความไม่สุจริต
ผู้ร้องให้จำเลยเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ไปโดยไม่มีส่วนรู้เห็นในการกระทำความผิดของจำเลย จึงต้องคืนรถจักรยานยนต์ให้แก่ผู้ร้อง การที่ผู้ร้องไม่ใช้สิทธิทางแพ่งกับจำเลยและร้องขอรถจักรยานยนต์ของกลางคืน เป็นเพียงการไม่ถือเอาประโยชน์จากข้อสัญญาที่กำหนดไว้เท่านั้น ซึ่งเป็นสิทธิที่ผู้ร้องจะใช้หรือไม่ก็ได้และเมื่อจำเลยผิดสัญญา ผู้ร้องในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์ย่อมมีสิทธิติดตามเอาทรัพย์สินของกลางที่ให้เช่าซื้อคืนได้ กรณียังไม่พอฟังว่าเป็นการช่วยเหลือจำเลยมิให้ต้องรับโทษเต็มตามคำพิพากษา อันเป็นการกระทำโดยไม่สุจริตแต่อย่างใดเพราะกฎหมายสันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลทุกคนกระทำการโดยสุจริต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 113/2566

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับจำนำรถเช่าซื้อโดยไม่ตรวจสอบเอกสารและรู้ว่าเป็นทรัพย์เช่าซื้อเข้าข่ายรับของโจร
จำเลยให้ ม. กู้ยืมเงิน 80,000 บาท โดย ม. ส่งรถแทรกเตอร์ของโจทก์ร่วมให้แก่จำเลยยึดไว้เป็นประกันการชำระหนี้ อันเป็นการรับจำนำ และเมื่อ ม. เคยนำรถยนต์กระบะไปจำนำเป็นประกันการชำระหนี้ที่ ม. กู้ยืมเงินจำเลย 60,000 บาท ครั้งนั้นจำเลยตรวจสอบเอกสารการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เจ้าของรถ อันเป็นปกติของการประกอบกิจการค้าขายรถยนต์มือสองมาประมาณ 20 ปี แต่การรับจำนำรถแทรกเตอร์ของจำเลยในวันเกิดเหตุ จำเลยกลับไม่ได้ขอดูเอกสารเกี่ยวกับรถแทรกเตอร์และไม่ได้ทำสัญญากู้ยืมเงินกัน การไม่ตรวจสอบทางทะเบียนเพื่อทราบถึงบุคคลผู้เป็นเจ้าของที่แท้จริงก่อน เป็นการผิดปกติวิสัยการรับจำนำหรือซื้อขายโดยสุจริตทั่วไป ตามพฤติการณ์แสดงว่าจำเลยต้องรู้ดีว่ารถแทรกเตอร์ที่จำเลยรับจำนำไว้นั้นเป็นทรัพย์ที่ ม. เช่าชื้อมาและอยู่ระหว่างระยะเวลาตามสัญญา ซึ่ง ม. ไม่มีสิทธินำไปแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย เข้าลักษณะกระทำความผิดฐานยักยอก จำเลยจึงมีความผิดฐานรับของโจร
of 2