พบผลลัพธ์ทั้งหมด 27 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1042/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาหลอกลวงในการแนะนำรักษาพยาบาล และการสิ้นผลของกฎหมายเก่าเมื่อมีกฎหมายใหม่
จำเลยที่ 4 เคยรักษาโรคเบาหวานกับจำเลยที่ 1 โดยเชื่อว่าเป็นแพทย์สามารถรักษาโรคต่าง ๆ ได้ ต่อมาอาการเจ็บป่วยของจำเลยที่ 4 ทุเลาลง ทำให้เกิดความเลื่อมใสในความสามารถรักษาโรคของจำเลยที่ 1 จึงได้แนะนำให้ ล. รักษาโรคกับจำเลยที่ 1 จึงยังรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 4 มีเจตนาหลอกลวง ล.ให้รักษาโรคกับจำเลยที่ 1 การกระทำของจำเลยที่ 4 ไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน การกระทำผิดของจำเลยที่ 1 ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการประกอบโรคศิลปะฯในส่วนที่เกี่ยวกับเวชกรรมและตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรมฯเป็นการกระทำที่เป็นกรรมเดียวมิใช่คนละกรรม และตาม พ.ร.บ.ควบคุมการประกอบโรคศิลปะฯ ในส่วนที่เกี่ยวกับเวชกรรม ต่อมาได้ถูกยกเลิกไปโดย พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2511 แล้ว ดังนั้นที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมการประกอบโรคศิลปะฯ ตามที่โจทก์ขอมาท้ายฟ้องจึงไม่ถูกต้องปัญหานี้แม้ไม่มีฝ่ายใดฎีกาแต่ก็เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาย่อมวินิจฉัยเองได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1135/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการรักษาพยาบาลกรณีฉุกเฉิน: การรักษาในโรงพยาบาลเอกชนภายใต้ข้อบังคับองค์การเหมืองแร่
ข้อบังคับองค์การเหมืองแร่ในทะเลจำเลยว่าด้วยเงิน ช่วยเหลือในการรักษาพยาบาลและเงินช่วยเหลือในการคลอดบุตรระบุว่า ในกรณีฉุกเฉินที่ผู้ป่วยไม่สามารถไปสถานพยาบาลขององค์การเหมืองแร่ในทะเลหรือสถานพยาบาลของส่วนราชการได้ทันท่วงที ผู้ป่วยจะเข้ารับการรักษาตัวในสถานพยาบาลของเอกชนก็ได้ ได้ความว่า บ. มารดาโจทก์มีอายุ 83 ปีแล้วมีโรคประจำตัวคือเบาหวานและความดันโลหิตสูง เกิดมีอาการไข้ไม่ค่อยจะรู้สึกตัวและอาเจียนติดต่อกัน 4 ครั้งโดยเฉียบพลันในเวลาดึก ถ้าปล่อยให้มีอาการไข้สูงและอาเจียนมากกว่านี้โดยไม่ได้รับการรักษาโดยทันที อาจเกิดอันตรายถึงชีวิต เช่นนี้อาการเจ็บป่วยของ บ. เป็นกรณีฉุกเฉินที่ผู้ป่วยไม่สามารถไปสถานพยาบาลขององค์การเหมืองแร่ในทะเลหรือสถานพยาบาลส่วนราชการได้ทันท่วงที จึงเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลเอกชนตามข้อบังคับดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3999/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าเสียหายทางละเมิดต้องเป็นค่าเสียหายโดยตรง ศาลจำกัดเฉพาะค่าที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาลโดยตรง
ค่าเสียหายในคดีละเมิดที่โจทก์จะเรียกจากจำเลยได้ต้องเป็นค่าเสียหายโดยตรงที่เกิดจากการที่จำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์ดังนี้ ค่ารถแท็กซี่พาพยานไปให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนและค่าถ่ายรูปเพื่อใช้ประกอบคดี จึงมิใช่เป็นค่าเสียหายโดยตรงที่เกิดจากการทำละเมิดของจำเลย โจทก์เรียกเอาจากจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1802/2533 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงินได้จากการรักษาพยาบาลนอกเวลางานเป็นเงินได้จากการประกอบวิชาชีพอิสระ ไม่ใช่ค่าจ้าง
โจทก์เป็นลูกจ้างของโรงพยาบาล ได้รับค่าจ้างเป็นรายเดือนและทางโรงพยาบาลตกลงให้โจทก์เปิดคลีนิกพิเศษ นอกเวลาทำการปกติในโรงพยาบาลโดยเมื่อได้เงินมาก็แบ่งรายได้ให้โรงพยาบาล เงินที่โจทก์ได้รับจากคนป่วยของโจทก์เองที่มาทำการรักษาที่โรงพยาบาลนอกเวลาทำการปกตินี้มิใช่เงินที่โรงพยาบาลจ่ายให้เป็นเงินเดือนหรือค่าจ้างแก่โจทก์ จึงเป็นเงินที่โจทก์ได้รับมาจากการประกอบวิชาชีพอิสระมิใช่เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) แต่เป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(6) แห่งประมวลรัษฎากร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 659/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่า vs. การรักษาพยาบาล: ความรับผิดฐานพยายามฆ่า
จำเลยใช้ ของแข็งตี ทำร้ายผู้ตายมีบาดแผลฟกช้ำดำ เขียวทั่วร่างกายกับมีบาดแผลฉีกขาดที่ศีรษะยาวประมาณ 3 เซนติเมตร ลึกประมาณ1.5 เซนติเมตร มีบาดแผลฉีกขาดที่หัวคิ้วซ้าย ยาวประมาณ 3 เซนติเมตรลึกประมาณ 1 เซนติเมตร มีบาดแผลถลอกที่ขากรรไกรและข้อศอกซ้ายกระดูกขากรรไกรหัก กระดูกซี่โครงร้าว 2 ซี่ ฟังได้ว่าจำเลยทำร้ายผู้ตายโดย มี เจตนาฆ่า หลังจากที่ผู้ตายถูก ทำร้ายแล้ว ได้ มีการนำตัวผู้ตายไปรับการรักษาที่โรงพยาบาล แพทย์ได้ รักษาผู้ตายเบื้องแรกโดย ให้น้ำเกลือใส่ท่อช่วย หายใจ ผ่าตัดใส่ท่อระบาย ลมในโพรง ปอดข้างซ้าย เพราะมีลมรั่วออกมาจากทางเดินหายใจ แล้วใส่เครื่องช่วย หายใจให้ผู้ตายด้วย และแพทย์ผู้รักษามีความเห็นว่าหากให้ผู้ตายรักษาตัว ที่โรงพยาบาลต่อไปแล้ว โอกาสที่ผู้ตายจะมีชีวิต รอดมีมากกว่าผู้ตายจะถึงแก่ความตาย การที่ญาติผู้ตายกระทำให้การรักษาสิ้นสุดลงโดยการดึง เครื่องช่วย หายใจ และท่อช่วย หายใจออก แล้วพาผู้ตายกลับบ้าน และผู้ตายถึงแก่ความตายในคืนนั้น ย่อมถือได้ว่าเป็นผลโดยตรงที่ทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย หาใช่เป็นผลจากการกระทำของจำเลยโดยตรงไม่ เพราะเมื่อผู้ตายอยู่ในความดูแลรักษาของแพทย์แล้ว ผู้ตายย่อมเป็นผู้อยู่ในสภาพที่มีโอกาสมีชีวิต อยู่รอดสูงการกระทำของจำเลยจึงมีความผิดเพียงฐาน พยายามฆ่าผู้ตาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4529/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาล: ค่าเลนส์แก้วตาเทียมเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาพยาบาลตามข้อตกลงสภาพการจ้าง
ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างระหว่างจำเลยกับสหภาพแรงงานทอผ้ากรุงเทพ ประจำปี 2531 ระบุว่า "ในกรณีที่พนักงานเจ็บป่วยเป็นโรค หรือต้องทำการผ่าตัดโดยเข้าเป็นคนไข้ในโรงพยาบาลของรัฐ ให้มีสิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลได้... ฯลฯ ดังนั้น เมื่อโจทก์ป่วยเป็นต้อกระจกที่ตาข้างขวาเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแพทย์ต้องผ่าตัดเอาเลนส์แก้วตาที่ขุ่นมัวออก แล้วใส่เลนส์ แก้วตาเทียมให้แทนเพื่อให้ดวงตาผู้ป่วยสามารถมองเห็นได้ดังเดิม ค่าเลนส์แก้วตาเทียมจึงถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของค่ารักษาพยาบาลตามข้อตกลงดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4310-4311/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางละเมิดจากการขับรถประมาท และการรักษาพยาบาลที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แม้เลือกวิธีรักษาทางเลือก
จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์โดยประมาททับขาโจทก์ที่ 3 แพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตรวจแล้วมีความเห็นว่าต้องตัดขาทั้งสองข้างโจทก์ที่ 3 ไม่ยอมให้ตัด ได้ออกจากโรงพยาบาลไปรักษาหมอกระดูกทางไสยศาสตร์อยู่ประมาณ 1 เดือนไม่หาย จึงไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลยาสูบแพทย์ได้ตัดขาโจทก์ที่ 3 ทั้งสองข้างการที่โจทก์ที่ 3 ไม่ยอมตัดขาทั้งสองข้างแล้วไปรักษากับหมอกระดูกทางไสยศาสตร์นั้น เป็นเรื่องความเชื่อของโจทก์ที่ 3 ที่จะเลือกรักษาเช่นนั้นได้เมื่อรักษากับหมอกระดูกทางไสยศาสตร์ไม่หายจึงไปรักษาที่โรงพยาบาลยาสูบโดยแพทย์ตัดขาทั้งสองข้าง ย่อมเป็นผลจากการทำละเมิดโดยตรงของจำเลยที่ 1 มิใช่เหตุแทรกซ้อนจำเลยต้องชดใช้ค่ารักษาที่โจทก์ที่ 3 ใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลกับหมอกระดูกทางไสยศาสตร์รวมทั้งค่ารักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลทั้งสอง และค่าใช้จ่ายที่มารดาโจทก์ที่ 3 ไปดูแลโจทก์ที่ 3ขณะรักษาตัวอยู่ในที่ต่างๆและพาโจทก์ที่ 3 ไปยังสถานพยาบาลต่างๆและพากลับบ้านด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3768/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท: การรักษาพยาบาลโดยผู้ไม่มีใบอนุญาตจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต
จำเลยเป็นผู้ไม่มีสิทธิขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม ได้ทำการตรวจบำบัดโรคโดยได้ทำการฉีดยาและให้ น.กินยาโดยประมาท เป็นเหตุให้ น. ถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 213/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาให้พักอาศัยเพื่อรักษาพยาบาล ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง และเงินไทยไม่ใช่ 'ของ' ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร
จำเลยที่ 2 ให้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกสะใภ้และเป็นคนลาว เข้าพักอาศัยในบ้านเพราะมีครรภ์แก่จวนคลอดเพื่อจะให้แพทย์ตรวจรักษา มิใช่ให้เข้าพักเพื่อให้พ้นจากการจับกุม จำเลยที่ 2 จึงไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ. คนเข้าเมืองฯ ม.64
ธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ไทยมิใช่สิ่งของอันอาจนำไปจำหน่ายเป็นสินค้าอย่างธรรมดาทั่วๆไปได้ จึงมิใช่ "ของ" ตามความใน พ.ร.บ.ศุลกากรฯ ม.27 ฉะนั้นการที่จำเลยที่ 2กับพวกนำเงินไทยดังกล่าวออกไปนอกราชอาณาจักร จึงไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากรฯ ม.27
ธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ไทยมิใช่สิ่งของอันอาจนำไปจำหน่ายเป็นสินค้าอย่างธรรมดาทั่วๆไปได้ จึงมิใช่ "ของ" ตามความใน พ.ร.บ.ศุลกากรฯ ม.27 ฉะนั้นการที่จำเลยที่ 2กับพวกนำเงินไทยดังกล่าวออกไปนอกราชอาณาจักร จึงไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากรฯ ม.27
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2593/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรักษาพยาบาลโดยผู้ไม่ได้รับอนุญาต, โฆษณาเท็จ, ประมาทเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
จำเลยที่ 1 มิได้เป็นแพทย์และมิได้รับอนุญาตให้ประกอบโรคศิลป์ จัดให้มีการโฆษณาว่าสามารถรักษาโรคหลายชนิดให้หายได้ ประชาชนหลงเชื่อได้พากันไปรับรักษาโรคต่างๆกับจำเลยที่ 1 วันละประมาณ 50-60 คน แต่ไม่หายเพราะจำเลยที่ 1 มิได้รักษาโรคตามวิธีที่ถูกต้อง ในการรักษาดังกล่าวจำเลยคิดค่ารักษาคนละ 59 บาทดังนี้การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน และได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากการหลอกลวง จึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343
ผู้ตายเป็นโรคน้ำเลี้ยงสมองโป่งพองมีเนื้อโป่งพองที่ดั้งจมูกมาแต่กำเนิดมารดาพาไปให้จำเลยที่ 1 รักษาจำเลยที่ 1 ใช้เข็มฉีดยาเจาะเนื้อที่โป่งพองแล้วเป่าพ่นด้วยน้ำลาย เมื่อเจาะแล้วมีน้ำใสๆ ไหลออกมาจากรูที่เจาะไม่หยุด กับมีอาการซูบซีดลงและอ่อนเพลีย หลังจากนั้นอีก 6 วันก็ถึงแก่ความตาย ดังนี้ ถือว่าจำเลยที่ 1 กระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ผู้ตายเป็นโรคน้ำเลี้ยงสมองโป่งพองมีเนื้อโป่งพองที่ดั้งจมูกมาแต่กำเนิดมารดาพาไปให้จำเลยที่ 1 รักษาจำเลยที่ 1 ใช้เข็มฉีดยาเจาะเนื้อที่โป่งพองแล้วเป่าพ่นด้วยน้ำลาย เมื่อเจาะแล้วมีน้ำใสๆ ไหลออกมาจากรูที่เจาะไม่หยุด กับมีอาการซูบซีดลงและอ่อนเพลีย หลังจากนั้นอีก 6 วันก็ถึงแก่ความตาย ดังนี้ ถือว่าจำเลยที่ 1 กระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย