พบผลลัพธ์ทั้งหมด 20 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 999/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทเนื้อที่ดินหลังคำพิพากษาถึงที่สุด ไม่เป็นฟ้องซ้ำ จำเลยรับข้อเท็จจริงไม่ต้องพิสูจน์
คดีก่อนโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยโอนขายที่ดินให้โจทก์ คดีถึงที่สุดโดยจำเลยยอมขายที่ดินให้โจทก์ แต่ต่อมาปรากฏว่า เนื้อที่ดินที่จำเลยยอมขายให้โจทก์ ซึ่งว่ามี 59 ไร่เศษนั้น วัดได้เพียง 21 ไร่เศษโจทก์จึงมาฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ ขอให้ลดราคาที่ดินลงตามส่วน จึงเป็นคนละประเด็นกับที่พิพาทกันในคดีก่อน ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
โจทก์ฟ้องบรรยายว่า เนื้อที่ดินที่จำเลยตกลงขายให้โจทก์มี 59 ไร่เศษ แต่เมื่อรังวัดแล้วมีเพียง21 ไร่เศษ จึงขอให้จำเลยลดราคาลงตามส่วน จำเลยมิได้ปฏิเสธความข้อนี้อย่างใด จึงต้องถือว่า จำเลยรับในข้อที่โจทก์อ้าง โดยโจทก์ไม่จำต้องนำสืบในข้อนี้
โจทก์ฟ้องบรรยายว่า เนื้อที่ดินที่จำเลยตกลงขายให้โจทก์มี 59 ไร่เศษ แต่เมื่อรังวัดแล้วมีเพียง21 ไร่เศษ จึงขอให้จำเลยลดราคาลงตามส่วน จำเลยมิได้ปฏิเสธความข้อนี้อย่างใด จึงต้องถือว่า จำเลยรับในข้อที่โจทก์อ้าง โดยโจทก์ไม่จำต้องนำสืบในข้อนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 254/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับข้อเท็จจริงจากการให้การของผู้เช่าและการใช้สิทธิประโยชน์จากสัญญาเช่า
โจทก์ฟ้องกล่าวอ้างว่าจำเลยเช่าห้องรายพิพาทเพื่อประกอบการค้า จำเลยให้การว่าได้ทำสัญญาเช่ากับโจทก์จริง แต่เรื่องการค้าจำเลยไม่ได้ปฏิเสธเช่นนี้ต้องถือว่าจำเลยรับว่าจำเลยประกอบการค้า.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 254/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับข้อเท็จจริงจากการไม่ปฏิเสธคำฟ้อง และผลต่อการพิจารณาคดีเช่าทรัพย์สิน
โจทก์ฟ้องกล่าวอ้างว่าจำเลยเช่าห้องรายพิพาทเพื่อประกอบการค้าจำเลยให้การว่าได้ทำสัญญาเช่ากับโจทก์จริงแต่เรื่องการค้าจำเลยไม่ได้ปฏิเสธเช่นนี้ต้องถือว่าจำเลยรับว่าจำเลยประกอบการค้า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 527/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับข้อเท็จจริงตามคำฟ้อง หากจำเลยไม่ปฏิเสธหรือต่อสู้ ถือเป็นประเด็นที่ยุติแล้ว
โจทก์บรรยายฟ้องมาชัดเจนแล้ว แต่จำเลยมิได้ปฏิเสธหรือต่อสู้เป็นอย่างอื่น ก็ต้องถือว่าจำเลยรับตามนั้น คดีไม่มีประเด็นที่โจทก์จะต้องนำสืบอีกต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 527/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับข้อเท็จจริงตามคำฟ้อง หากจำเลยไม่โต้แย้ง ถือเป็นการยอมรับ ทำให้ไม่ต้องสืบพยานเพิ่มเติม
โจทก์บรรยายฟ้องมาชัดเจนแล้ว แต่จำเลยมิได้ปฏิเสธหรือต่อสู้เป็นอย่างอื่นก็ต้องถือว่าจำเลยรับตามนั้นคดีไม่มีประเด็นที่โจทก์จะต้องนำสืบอีกต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 47/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดสืบพยานและการวินิจฉัยนอกคำฟ้อง: ศาลต้องเปิดโอกาสสืบพยานเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามฟ้อง แม้มีการรับข้อเท็จจริงบางส่วน
แม้คู่ความจะแถลงรับกันในประเด็นส่วนใหญ่ในฟ้อง แต่ยังไม่หมดประเด็นตามคำฟ้อง และโจทก์ยังติดใจสืบพยานตามฟ้องอยู่อีก ดังนี้ศาลไม่ด่วนวินิจฉัยคดี โดยงดสืบพะยาน ต้องสืบพยานเสียให้สิ้นกระแสร์ความ
โจทก์กล่าวในฟ้องว่า จำนำที่ดินและคู่ความแถลงรับกันว่าได้จำนำที่ดินกันจริง มอบที่ดินให้ทำกินต่างดอกเบี้ย ดังนี้แม้จะก่อนใช้ ป.พ.พ.บรรพ 3 ศาลจะวินิจฉัยว่าเป็นการขายฝากมิได้เป็นการวินิจฉัยนอกข้อหาผิดกับคำฟ้อง
โจทก์กล่าวในฟ้องว่า จำนำที่ดินและคู่ความแถลงรับกันว่าได้จำนำที่ดินกันจริง มอบที่ดินให้ทำกินต่างดอกเบี้ย ดังนี้แม้จะก่อนใช้ ป.พ.พ.บรรพ 3 ศาลจะวินิจฉัยว่าเป็นการขายฝากมิได้เป็นการวินิจฉัยนอกข้อหาผิดกับคำฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 47/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดสืบพยานและการวินิจฉัยนอกประเด็นฟ้อง: ศาลต้องเปิดโอกาสให้สืบพยานเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามฟ้อง แม้มีการรับข้อเท็จจริงบางส่วน
แม้คู่ความจะแถลงรับกันในประเด็นส่วนใหญ่ในฟ้อง แต่ยังไม่หมดประเด็นตามคำฟ้องและโจทก์ยังติดใจสืบพยานตามฟ้องอยู่อีก ดังนี้ศาลไม่ด่วนวินิจฉัยคดี โดยงดสืบพยาน ต้องสืบพยานเสียให้สิ้นกระแสความ
โจทก์กล่าวในฟ้องว่า จำนำที่ดินและคู่ความแถลงรับกันว่าได้จำนำที่ดินกันจริง มอบที่ดินให้ทำกินต่างดอกเบี้ยดังนี้แม้จะก่อนใช้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ 3 ศาลจะวินิจฉัยว่าเป็นการขายฝากมิได้เป็นการวินิจฉัยนอกข้อหาผิดกับคำฟ้อง
โจทก์กล่าวในฟ้องว่า จำนำที่ดินและคู่ความแถลงรับกันว่าได้จำนำที่ดินกันจริง มอบที่ดินให้ทำกินต่างดอกเบี้ยดังนี้แม้จะก่อนใช้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ 3 ศาลจะวินิจฉัยว่าเป็นการขายฝากมิได้เป็นการวินิจฉัยนอกข้อหาผิดกับคำฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1238/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับข้อเท็จจริงในสัญญาเช่าและการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า กรณีใช้เป็นสำนักงาน
ในคดีแพ่ง เมื่อจำเลยให้การรับตามฟ้องของโจทก์แล้วโจทก์ก็ไม่ต้องสืบพะยานในข้อที่จำเลยรับ.
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเป็นสถานที่ทำการ หาใช่เป็นเคหะไม่ เพราะมิใช่เป็นที่อยู่อาศัย จึงไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า.
(อ้างฎีกา ที่ 1099,1147/2491)
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเป็นสถานที่ทำการ หาใช่เป็นเคหะไม่ เพราะมิใช่เป็นที่อยู่อาศัย จึงไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า.
(อ้างฎีกา ที่ 1099,1147/2491)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 592/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปฏิเสธฟ้องและการรับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการร้องทุกข์: อำนาจฟ้องและหน้าที่การนำสืบ
โจทฟ้องขอไห้ลงโทสจำเลยตาม ม. 123 และ 304. จำเลยไห้การปติเสธ เช่นนี้ย่อมต้องหมายถึงว่าจำเลยปติเสธคำกล่าวไนฟ้องซึ่งสแดงอำนาดฟ้องไนเรื่องไม่ไห้ร้องทุขด้วย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5112/2560
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับผิดร่วมกันของนายจ้างในความผิดของลูกจ้างที่กระทำในทางการจ้าง และการรับข้อเท็จจริงของจำเลย
ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 177 วรรคสอง บัญญัติว่า "ให้จำเลยแสดงโดยชัดแจ้งในคำให้การว่า จำเลยยอมรับหรือปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ทั้งสิ้นหรือแต่บางส่วน รวมทั้งเหตุแห่งการนั้น" แม้โจทก์จะเป็นฝ่ายกล่าวอ้างว่าจำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 และกระทำการในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 ซึ่งภาระการพิสูจน์ข้อเท็จจริงดังกล่าวตกแก่โจทก์ก็ตาม แต่เมื่อตามคำให้การของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ให้การรับว่าจำเลยที่ 2 เป็นนายจ้างของจำเลยที่ 1 และไม่ได้ให้การปฏิเสธในข้อที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 กระทำในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 จึงต้องถือว่าจำเลยที่ 1 และที่ 2 รับข้อเท็จจริงตามที่โจทก์กล่าวอ้างนั้นแล้ว และไม่เป็นประเด็นข้อพิพาท โจทก์จึงไม่จำต้องนำสืบถึงข้อเท็จจริงดังกล่าวซึ่งถือว่าคู่ความรับกันแล้ว ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 84 (3)