คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
รับฟัง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 190 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3936/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังสำเนาเอกสารเป็นหลักฐาน: การไม่โต้แย้งถือเป็นการยอมรับ
จำเลยมิได้ดำเนินการโต้แย้งความถูกต้องของสำเนาเอกสารก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาตามขั้นตอนที่พึงปฏิบัติที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 125 วรรคสามและวรรคสี่กำหนดไว้ ถือได้ว่าเป็นการตกลงรับรอง ความถูกต้องแห่งสำเนาเอกสารดังกล่าว และผู้อ้างไม่จำต้องส่งต้นฉบับเอกสาร อีกตามมาตรา 93(1) สำเนาเอกสารนั้นย่อมรับฟังได้เสมอกับต้นฉบับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7219/2542

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานหลักฐาน การไม่ชำระค่าธรรมเนียมอ้างเอกสาร และผลต่อสัญญาประกันชีวิต
จำเลยอ้างและขอคำสั่งศาลเรียกประวัติการตรวจรักษาของผู้ป่วยจากโรงพยาบาลเป็นพยานเอกสาร เมื่อโรงพยาบาลส่งเอกสารมาแล้ว ศาลชั้นต้นสั่งในรายงานกระบวนการพิจารณาถึง 2 ครั้ง ให้จำเลยชำระค่าอ้างเอกสารเป็นพยาน แต่จำเลยไม่ชำระในชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกาโจทก์ได้กล่าวแก้อุทธรณ์เป็นประเด็นว่าจำเลยไม่ชำระค่าอ้างเอกสารเป็นพยาน จำเลยมิได้นำค่าอ้างเอกสารเป็นพยานมาชำระต่อศาล ดังนี้แสดงว่าจำเลยจงใจไม่ชำระค่าอ้างเอกสารเป็นพยานตามตาราง 2(5)ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เอกสารดังกล่าวจึงเป็นพยานหลักฐานที่ได้ยื่นฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งศาลชอบที่จะปฏิเสธไม่รับเอกสารนั้นไว้และถ้ารับไว้แล้วก็ไม่ชอบที่จะรับฟังเอกสารนั้น ศาลจึงนำข้อความในเอกสารดังกล่าวมาประกอบการวินิจฉัยไม่ได้
ส. กรอกข้อความหรือตอบคำถามจำเลยไปตามความเป็นจริง สัญญาประกันชีวิตระหว่าง ส. กับจำเลยจึงไม่เป็นโมฆียะ จำเลยไม่มีสิทธิบอกล้าง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1083/2542

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานหลักฐาน การขัดแย้งในคำให้การ และองค์ประกอบความผิดฐานลักทรัพย์
พยานโจทก์เบิกความชั้นพิจารณาว่าจำเลยปฏิเสธว่าไม่ได้ลักทรัพย์ซึ่งขัดต่อเหตุผล เห็นเจตนาได้ชัดว่าพยานโจทก์ เบิกความช่วยเหลือจำเลยมิให้รับโทษศาลย่อมฟังข้อเท็จจริง ตามคำให้การโจทก์ในชั้นสอบสวนซึ่งสมเหตุผลยิ่งกว่าได้ แม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานเห็นจำเลยกระทำผิดแต่จำเลยให้การรับสารภาพมาตั้งแต่ชั้นจับกุม ชั้นสอบสวนนำชี้ที่เกิดเหตุแสดงการลักทรัพย์ประกอบกับคำพยานโจทก์และพฤติการณ์แวดล้อมแล้ว ฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์ ของผู้เสียหาย โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยลักยางพาราซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกสิกรรม มิได้กล่าวในฟ้องว่า เป็นยางพาราของเจ้าทรัพย์ผู้มีอาชีพกสิกรรม ขาดองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(12) จึงลงโทษจำเลยตามบทกฎหมายดังกล่าวไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 863/2541 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังเอกสารภาพถ่ายแทนต้นฉบับ: หนังสือรับรองนิติบุคคล
หนังสือรับรองการเป็นนิติบุคคลและผู้เป็นกรรมการโจทก์นายทะเบียนจะต้องแต่งย่อรายการซึ่งได้ลงทะเบียน ส่งไปลงพิมพ์โฆษณาในหนังสือราชกิจจานุเบกษา และถือว่าบรรดาเอกสารและข้อความซึ่งลงทะเบียนในย่อเอกสารนั้นเป็นอันรู้แก่บุคคลทั้งปวงตามที่ได้บัญญัติใน ป.พ.พ.มาตรา 1021 และ 1022ดังนั้น แม้โจทก์จะส่งแต่ภาพถ่ายเอกสารก็ไม่ทำให้พยานหลักฐานของโจทก์เสียไปหนังสือฉบับนี้เป็นภาพถ่ายหนังสือรับรองออกโดยสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร กรมทะเบียนการค้า กระทรวงพาณิชย์ ต้นฉบับอยู่ในอารักขาของราชการ ซึ่งหนังสือรับรองที่ถ่ายภาพมามีนายทะเบียนสำนักงานทะเบียนลงลายมือชื่อและประทับตราไว้ ย่อมเพียงพอที่จะรับฟังภาพถ่ายฉบับนี้แทนต้นฉบับเอกสารได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7432/2541 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานเบิกความยืนยันเหตุการณ์ต่างกันได้ หากคำเบิกความสอดคล้องกับพยานหลักฐานอื่น จึงรับฟังได้
แม้ ล.ประจักษ์พยานได้นั่งอยู่ในห้องพิจารณาด้วยในขณะที่ผู้เสียหายทั้งสองเบิกความต่อศาลก็ตาม แต่ผู้เสียหายทั้งสองเบิกความว่า เห็นเหตุการณ์ตอนไฟไหม้บ้านแล้ว ไม่เห็นว่าใครเป็นคนจุดไฟ ส่วน ล.เบิกความยืนยันว่าเห็นจำเลยเป็นคนใช้ไฟแช็กจุดไฟเผาบ้านผู้เสียหายที่ 1 แล้วไฟลุกลามไปไหม้บ้านผู้เสียหายที่ 2 บางส่วนด้วย คำเบิกความของ ล.จึงมิได้เบิกความตามที่ได้ยินผู้เสียหายทั้งสองเบิกความแต่อย่างใด ทั้งโจทก์ยังมี ค.ประจักษ์พยานอีกปากหนึ่งเบิกความยืนยันว่าจำเลยเป็นคนจุดไฟเผาบ้านผู้เสียหายที่ 1 แล้วไฟลุกลามไหม้บ้านผู้เสียหายที่ 2 สอดคล้องกัน คำเบิกความของ ล.จึงรับฟังได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7432/2541 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานหลักฐาน - พยานยืนยันเหตุการณ์ต่างจากคำเบิกความอื่น และมีพยานสนับสนุน
แม้ ล. ประจักษ์พยานได้นั่งอยู่ในห้องพิจารณาด้วยในขณะที่ผู้เสียหายทั้งสองเบิกความต่อศาลก็ตาม แต่ผู้เสียหายทั้งสองเบิกความว่า เห็นเหตุการณ์ตอนไฟไหม้บ้านแล้ว ไม่เห็นว่าใครเป็นคนจุดไฟ ส่วน ล. เบิกความยืนยันว่าเห็นจำเลยเป็นคนใช้ไฟแช็กจุดไฟเผาบ้านผู้เสียหายที่ 1 แล้วไฟลุกลามไปไหม้บ้านผู้เสียหายที่ 2 บางส่วนด้วยคำเบิกความของ ล. จึงมิได้เบิกความตามที่ได้ยินผู้เสียหายทั้งสองเบิกความแต่อย่างใดทั้งโจทก์ยังมี ค. ประจักษ์พยานอีกปากหนึ่งเบิกความยืนยันว่าจำเลยเป็นคนจุดไฟเผาบ้านผู้เสียหายที่ 1 แล้วไฟลุกลามไหม้บ้านผู้เสียหายที่ 2 สอดคล้องกัน คำเบิกความของ ล. จึงรับฟังได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5495/2541 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังเอกสารประกอบคำให้การ แม้เป็นสำเนาและมิได้สืบประกอบ เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
จำเลยอุทธรณ์ว่า โจทก์ได้รับเงินค่ารักษาพยาบาลจากจำเลยไปแล้ว จึงมีปัญหาที่ศาลอุทธรณ์จะต้องวินิจฉัยว่า โจทก์ได้รับค่ารักษาพยาบาลจากจำเลยไปแล้วเพียงใดหรือไม่ เมื่อปรากฏว่าจำเลยให้การต่อสู้ไว้แล้วว่า จำเลยได้จ่ายเงินให้โจทก์เป็นค่าเสียหายเบื้องต้นจำนวน 10,000 บาท ปรากฏตามเอกสารท้ายคำให้การ และได้จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้โจทก์ไปแล้ว 10,000 บาท ตามสัญญาในกรมธรรม์ประกันภัย โดยผู้รับมอบอำนาจโจทก์เป็นผู้ไปรับเอง ตามเอกสารท้ายฟ้องเอกสารท้ายคำให้การดังกล่าวจึงเป็นเอกสารที่เข้าสู่สำนวนโดยชอบแล้ว แม้จะเป็นสำเนาเอกสารและจำเลยมิได้สืบประกอบก็ตาม แต่เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมก็ย่อมมีอำนาจรับฟังเอกสารดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานในคดีได้ ตามป.วิ.พ.มาตรา 87

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4681/2541 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังเอกสารสำเนาบัตรข้าราชการและลายมือชื่อเพื่อเปรียบเทียบ
เมื่อเอกสารสำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการที่โจทก์อ้างส่งต่อศาล จำเลยไม่คัดค้าน อีกทั้งจำเลยยังได้เบิกความยอมรับถึงความถูกต้องแท้จริงของเอกสารดังกล่าว ดังนี้ ศาลย่อมรับฟังลายมือชื่อของจำเลยในเอกสารดังกล่าวเพื่อนำมาเปรียบเทียบกับลายมือชื่อของผู้ค้ำประกันที่พิพาทได้ ตามนัยแห่ง ป.วิ.พ.มาตรา 93 (1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 327/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขาดนัดยื่นคำให้การ-พยานหลักฐานไม่เพียงพอ ศาลมีอำนาจยกฟ้องได้ แม้จำเลยขาดนัด
แม้จำเลยจะขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาพยานหลักฐานที่โจทก์นำเข้าสืบมีทั้งพยานบุคคลและพยานเอกสารก็ตาม แต่ศาลจะพิพากษาให้โจทก์เป็นฝ่ายชนะคดีได้ก็ต่อเมื่อศาลเห็นว่าข้ออ้างตามฟ้องของโจทก์มีมูลและไม่ขัดต่อกฎหมายหากศาลเห็นว่าพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบไม่เพียงพอรับฟังตามที่โจทก์ฟ้องซึ่งเป็นดุลพินิจในทางรับฟังพยานหลักฐานศาลย่อมมีอำนาจยกฟ้องโจทก์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 205 วรรคหนึ่งปรากฏว่าข้อเท็จจริงในคดีฟังได้เพียงว่า เมื่อวันที่20 มกราคม 2529 ส.เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรเขตบางกะปิเป็นผู้ลงรับหนังสือด่วนมากฉบับวันที่ 14 มกราคม 2529แทนจำเลย และอ้างว่าได้มอบหนังสือดังกล่าวให้จำเลยไปเท่านั้นประกอบกับในช่วงเกิดเหตุอยู่ระหว่างโยกย้ายที่ทำการสรรพากรเขตบางกะปิ มีงานยุ่งและเอกสารต่าง ๆ มีจำนวนมากทั้งขณะมีการสอบสวนหาตัวผู้รับผิดทางแพ่งนั้น หนังสือด่วนมากฉบับดังกล่าวยังค้นหาไม่พบ และการที่มิได้เวียนหนังสือดังกล่าวให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบเพื่อดำเนินการต่อไปก็ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าเกิดจากการกระทำผิดหรือการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของจำเลยหรือไม่ พยานหลักฐานโจทก์เท่าที่นำสืบมาไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะรับฟังว่า จำเลยได้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เพิกเฉยละเลยไม่นำหนังสือและประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เสนอต่อเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบตรวจสอบหนี้ภาษีอากรของบริษัท ห. เพื่อยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ถือไม่ได้ว่าจำเลยจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำให้โจทก์เสียหายไม่อาจรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายดังกล่าวได้ภายในกำหนดเวลาที่กฎหมายกำหนด จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดใช้เงินแก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3260/2541 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานหลักฐานจากคดีอาญาในคดีแพ่ง: ที่ดินพิพาท
คดีแพ่งโจทก์จำเลยตกลงกันไม่สืบพยาน แต่ขอให้ศาลนำคำเบิกความของพยานและพยานหลักฐานต่าง ๆ ในสำนวนคดีอาญาของศาลชั้นต้นซึ่งโจทก์คดีนี้เป็นโจทก์ร่วมและจำเลยคดีนี้เป็นจำเลยและคดีถึงที่สุดแล้ว เป็นพยานหลักฐานของโจทก์จำเลยเพื่อวินิจฉัยคดีนี้ได้ การที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์รับฟังพยานหลักฐานที่โจทก์จำเลยนำสืบในคดีอาญาดังกล่าว มาวินิจฉัยว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ จึงเป็นการรับฟังพยานหลักฐานที่ชอบแล้ว
of 19