คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
รับฟังพยาน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 93 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3227/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพยายามฆ่าและพยายามชิงทรัพย์: การรับฟังพยานหลักฐานและการพิจารณาความผิดสำเร็จ
แม้คืนวันเกิดเหตุจะเป็นคืนข้างแรมเดือนมืด แต่โจทก์ร่วมก็รู้จักกับจำเลยมาตั้งแต่ยังเด็ก อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ประกอบกับจำเลยมีลักษณะพิเศษคือศีรษะมีผมขาวและรูปร่างล่ำไม่สูงขณะเกิดเหตุโจทก์ร่วมยืนยันว่าจำเลยยืนอยู่ที่มุมบ่อเลี้ยงปลาห่างจากโจทก์ร่วมเพียง 8 เมตร และไฟฉายที่ใช้ส่องไปยังจำเลยกับพวกเป็นไฟฉายขนาดถ่านไฟฉาย 3 ก้อน และถ่านที่ใช้ยังใหม่ โจทก์ร่วมสามารถเห็นจำเลยได้อย่างชัดเจนจากแสงไฟฉายที่ส่องกราดไปยังจำเลย นอกจากนี้คำเบิกความของโจทก์ร่วมก็ยังสอดคล้องกับคำเบิกความของพยานโจทก์และโจทก์ร่วม ซึ่งแม้ส่วนใหญ่จะเกี่ยวพันเป็นญาติใกล้ชิดกับโจทก์ร่วมก็ตามแต่ทั้งโจทก์ร่วมและพยานโจทก์คนอื่น ๆ ต่างก็รู้จักคุ้นเคยกับจำเลยมาก่อน และต่างก็ยืนยันว่าไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อน เชื่อว่าพยานดังกล่าวได้เบิกความไปตามความเป็นจริงจึงรับฟังได้ว่าจำเลยเป็นคนร้ายที่ร่วมกับพวกลักปลาในบ่อเลี้ยงปลาของโจทก์ร่วมและใช้อาวุธปืนยิงโจทก์ร่วมจริง การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าโจทก์ร่วม และร่วมกันพยายามชิงทรัพย์เป็นเหตุให้โจทก์ร่วมรับอันตรายสาหัสโดยมีและใช้อาวุธปืน
ก่อนที่จะได้ยินเสียงทอดแหในบ่อเลี้ยงปลา โจทก์ร่วมซุ่มอยู่ที่โคนต้นขนุนมุมบ่อ เมื่อได้ยินเสียงทอดแหในบ่อเลี้ยงปลานั้นโจทก์ร่วมก็ยิงปืนขึ้นฟ้า 1 นัด เมื่อคนร้ายเพิ่งจะทอดแหในบ่อเลี้ยงปลาของโจทก์ร่วมเพียงครั้งเดียว และนอกจากปลาจำนวน 6 ตัว ซึ่งติดอยู่ในแหของคนร้ายที่จมอยู่ในบ่อเลี้ยงปลาแล้วจำเลยกับพวกยังไม่ได้ปลาอื่น ๆ ไปจากบ่อเลี้ยงปลาของโจทก์ร่วม การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานร่วมกันพยายามชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสโดยมีและใช้อาวุธปืน มิใช่เป็นความผิดฐานชิงทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2021/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้อง, พยาน, สัญญาเช่า: การรับฟังพยานที่ไม่เป็นคู่ความ และอำนาจฟ้องของโจทก์
แม้โจทก์และจำเลยจะอ้าง ท. เป็นพยาน แต่ตอนที่ ท. เบิกความได้เบิกความในฐานะพยานจำเลย หาได้เบิกความในฐานะพยานโจทก์ด้วยไม่ ว. และ อ. พยานโจทก์ซึ่งนั่งฟัง ท. เบิกความ จึงไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 114

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1892/2543 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานเด็กประกอบพฤติการณ์แวดล้อม และอำนาจศาลในการวินิจฉัยจำเลยที่ไม่ได้ฎีกา
โจทก์มีผู้เสียหายซึ่งขณะเกิดเหตุอายุ 9 ปีเศษ เป็นประจักษ์พยานเพียงคนเดียว แต่พฤติการณ์แวดล้อมที่ปรากฏ มีเหตุผลเชื่อได้ว่าเหตุการณ์เป็นไปดังที่ผู้เสียหายเบิกความ แม้คำเบิกความของผู้เสียหายในชั้นศาลจะแตกต่างจากคำให้การในชั้นสอบสวนบ้าง ซึ่งเป็นเพียงประเด็นรายละเอียดปลีกย่อยในเรื่องที่ไม่สำคัญ ย่อมไม่ทำให้น้ำหนักคำเบิกความของผู้เสียหายลดน้อยลง
จำเลยทั้งสองกอดปล้ำผู้เสียหายก็เพื่อการกระทำชำเราผู้เสียหายและในเวลาเดียวกันจำเลยทั้งสองก็ได้พยายามกระทำชำเราผู้เสียหาย ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองได้กระทำอนาจารอย่างอื่นแก่ผู้เสียหายอีก จะถือว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตาม ป.อ.มาตรา 279 วรรคสอง ด้วยไม่ได้ ข้อนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยที่ 2 จะไม่ฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225 และเป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดี ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยที่ 1 ที่ไม่ได้ฎีกาด้วยได้ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 213 ประกอบมาตรา 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8889/2542 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังคำให้การชั้นสอบสวนประกอบการพิจารณาคดี และเจตนาฆ่าจากการกระทำด้วยอาวุธอันตราย
โจทก์มีประจักษ์พยานรู้เห็นใกล้ชิดมาให้การต่อพนักงานสอบสวนแต่ประจักษ์พยานโจทก์เบิกความในชั้นศาลเพื่อช่วยเหลือจำเลย ศาลจึงนำคำให้การของพยานโจทก์ดังกล่าวชั้นสอบสวนมาฟังประกอบข้อพิจารณาของศาลได้ ทั้งไม่มีบทบัญญัติใดห้ามมิให้ศาลรับฟังคำให้การชั้นสอบสวนหรือให้รับฟังแต่เฉพาะพยานที่มาเบิกความต่อศาลเท่านั้น เมื่อคำให้การชั้นสอบสวนเกิดขึ้นโดยสมัครใจของพยานโจทก์ ศาลจึงนำคำให้การพยานชั้นสอบสวนมาฟังประกอบได้
ผู้ตายถูกจำเลยใช้มีดอีโต้ขนาดยาวประมาณ 1 ศอก ฟันที่บริเวณศีรษะและท้อง กะโหลกศีรษะแตกมีสมองไหลไม่รู้สึกตัวเมื่อมาโรงพยาบาลจนแพทย์ต้องรักษาด้วยการผ่าตัดและเย็บแผลให้ แม้แผลภายนอกจะหาย แต่ผู้ตายก็ยังมีอาการไม่สามารถพูดได้รับฟังไม่รู้เรื่อง แม้จะออกจากโรงพยาบาลมานอนรักษาตัวต่อที่บ้านอาการผู้ตายก็คงเช่นเดิม การที่จำเลยใช้มีดอีโต้ขนาดใหญ่ฟันที่บริเวณท้องและที่ศีรษะซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญจนเป็นเหตุให้ผู้ตายกะโหลกศีรษะแตกมีสมองไหลเห็นได้ชัดว่าเป็นการฟันอย่างแรง แสดงว่าจำเลยฟันโดยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย เมื่อผู้ตายถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา ความตายของผู้ตายย่อมเป็นผลโดยตรงจากการกระทำของจำเลยที่ใช้มีดอีโต้ฟัน จำเลยจึงมีความผิดฐานฆ่าผู้ตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1083/2542 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานหลักฐานในคดีลักทรัพย์: พยานคำให้การชั้นสอบสวนมีน้ำหนักกว่าพยานปฏิเสธชั้นพิจารณา
พยานโจทก์เบิกความชั้นพิจารณาว่าจำเลยปฏิเสธว่าไม่ได้ลักทรัพย์ซึ่งขัดต่อเหตุผล เห็นเจตนาได้ชัดว่าพยานโจทก์เบิกความช่วยเหลือจำเลยมิให้รับโทษศาลย่อมฟังข้อเท็จจริงตามคำให้การโจทก์ในชั้นสอบสวนซึ่งสมเหตุผลยิ่งกว่าได้
แม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานเห็นจำเลยกระทำผิด แต่จำเลยให้การรับสารภาพมาตั้งแต่ชั้นจับกุม ชั้นสอบสวน นำชี้ที่เกิดเหตุแสดงการลักทรัพย์ประกอบกับคำพยานโจทก์และพฤติการณ์แวดล้อมแล้ว ฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์ของผู้เสียหาย
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยลักยางพาราซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกสิกรรม มิได้กล่าวในฟ้องว่า เป็นยางพาราของเจ้าทรัพย์ผู้มีอาชีพกสิกรรม ขาดองค์ประกอบความผิดตาม ป.อ.มาตรา 335 (12) จึงลงโทษจำเลยตามบทกฎหมายดังกล่าวไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4306/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขสภาพการจ้างต้องเป็นไปตาม พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ แม้เป็นการแก้ไขชั่วคราว และศาลฎีกาไม่อุทธรณ์ประเด็นการรับฟังพยาน
แม้การแก้ไขเปลี่ยนแปลงวันเวลาทำงานของจำเลยเป็นการเปลี่ยนแปลงแก้ไขสภาพการจ้างเพียงชั่วคราวก็ตามแต่กรณีก็ต้องอยู่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์พ.ศ. 2518 มาตรา 13 มาตรา 16 และมาตรา 18 กล่าวคือจำเลยซึ่งเป็นนายจ้างต้องแจ้งข้อเรียกร้องเป็นหนังสือให้ อีกฝ่ายหนึ่งทราบและทั้งสองฝ่ายต้องเจรจากันภายใน 3 วันนับแต่วันที่ได้รับข้อเรียกร้อง หากเป็นที่ตกลงกันก็ต้องทำข้อตกลงเป็นหนังสือลงลายมือชื่อทั้งสองฝ่าย ทั้งต้องปิดประกาศข้อตกลงดังกล่าวและนำไปจดทะเบียนตามกฎหมายดังกล่าวด้วย จึงจะถือว่าเป็นการแก้ไขข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่ชอบด้วยกฎหมาย ที่จำเลยอุทธรณ์ว่า ศาลแรงงานฟังข้อเท็จจริงจากโจทก์และจำเลยรวบรัดเกินไป จำเลยจึงไม่สามารถชี้แจงข้อเท็จจริงและส่งเอกสารประกอบได้ทั้งหมด ทำให้การรับฟังข้อเท็จจริงไม่สมบูรณ์และครบถ้วน เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ขัดต่อวิธีพิจารณา สมควรที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่นั้นเป็นการอุทธรณ์โต้แย้งดุลพินิจการงดสืบพยานและการรับฟังพยานหลักฐานของศาลแรงงานอันเป็นปัญหาข้อเท็จจริงจึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54 วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3260/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานหลักฐานจากคดีอาญาในคดีแพ่ง: การพิพากษาเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดิน
คดีแพ่งโจทก์จำเลยตกลงกันไม่สืบพยาน แต่ขอให้ศาลนำคำเบิกความของพยานและพยานหลักฐานต่าง ๆ ในสำนวนคดีอาญาของศาลชั้นต้นซึ่งโจทก์คดีนี้เป็นโจทก์ร่วมและจำเลยคดีนี้เป็นจำเลยและคดีถึงที่สุดแล้ว เป็นพยานหลักฐานของโจทก์จำเลยเพื่อวินิจฉัยคดีนี้ได้ การที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์รับฟังพยานหลักฐานที่โจทก์จำเลยนำสืบในคดีอาญาดังกล่าวมาวินิจฉัยว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ จึงเป็นการรับฟังพยานหลักฐานที่ชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1201/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสืบพยานหลักฐานและผลกระทบต่อการรับฟังพยาน การแสดงเจตนาลวงในสัญญาประกันภัย
คู่ความซึ่งมีหน้าที่นำพยานมาสืบภายหลังต้องถามค้านพยานของคู่ความฝ่ายที่นำสืบก่อนในเวลาที่พยานเบิกความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 นั้น ต้องเป็นกรณีที่คู่ความฝ่ายที่มีหน้าที่นำสืบภายหลังประสงค์จะสืบพยานของตนเพื่อหักล้างหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขถ้อยคำพยานฝ่ายที่นำสืบก่อนในข้อความทั้งหลายซึ่งพยานเช่นว่านั้นเป็นผู้รู้เห็นหรือเพื่อพิสูจน์ข้อความอย่างใดอย่างหนึ่งอันเกี่ยวด้วยการกระทำหรือถ้อยคำหรือหนังสือซึ่งพยานเช่นว่านั้นได้กระทำขึ้นโดยเฉพาะ คดีนี้จำเลยที่ 2 ถึงที่ 4นำสืบหักล้างพยานโจทก์โดยตรง ไม่ใช่เป็นการจู่โจมทางพยานหลักฐานหรือเอาเปรียบโจทก์ จึงไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 ศาลรับฟังได้ ก่อนจะตกลงทำสัญญาประกันภัย โจทก์กับจำเลยที่ 2ถึงที่ 4 ได้ตกลงกันตามเอกสารหมาย ล.1 ซึ่งมีข้อความว่าโจทก์ยอมรับเบี้ยประกันอัตราร้อยละ 30 ของเบี้ยประกันภัยทั้งหมดและให้จำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเองนับแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2536 ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2536แต่ตามกรมธรรม์ประกันภัยเอกสารหมาย จ.10 และ จ.13 ระบุให้จำเลยทั้งสี่ชำระเบี้ยประกันทั้งหมดและให้โจทก์เป็นผู้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตลอดอายุสัญญาการแสดงเจตนาในการทำสัญญาประกันภัยดังกล่าวจึงเป็นการแสดงเจตนาลวงโดยโจทก์กับจำเลยทั้งสี่สมรู้กันทำขึ้นเพื่อลวงบุคคลอื่นว่าจำเลยทั้งสี่เป็นผู้เอาประกันภัยและโจทก์เป็นผู้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้บุคคลภายนอก สัญญาประกันภัยจึงตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 155 วรรคหนึ่งจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ซึ่งเป็นคู่กรณียกขึ้นต่อสู้โจทก์ได้ข้อเท็จจริงตามคำฟ้องโจทก์ฟังได้ว่าจำเลยทั้งสี่ได้ชำระเบี้ยประกันให้โจทก์ไปแล้วตามข้อตกลงเอกสารหมาย ล.1โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเบี้ยประกันจากจำเลยทั้งสี่อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7631/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานหลักฐานนอกบัญชีรายชื่อพยานเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมในคดีแพ่ง
จำเลยทั้งสองมิได้อ้างสำนวนคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 6310/2534 ในบัญชีระบุพยาน แต่ศาลชั้นต้นจดรายงานกระบวนพิจารณาว่าคู่ความแถลงรับกันว่าโจทก์ได้เป็นพยานเบิกความไว้ที่ศาลแพ่ง ในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 6310/2534 แต่คำเบิกความดังกล่าวจำเลยทั้งสองยังติดต่อขอคัดไม่ได้เนื่องจากสำนวนคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โดยจำเลยรับจะดำเนินขอคัดคำเบิกความดังกล่าวและอ้างส่งต่อศาลในภายหลังและต่อมาศาลชั้นต้นจดรายงานกระบวนพิจารณาว่า คู่ความแถลงรับว่าทนายจำเลยทั้งสองขออ้างคำเบิกความดังกล่าว ศาลหมาย ล.9 ให้แยกเก็บและให้เสียค่าอ้าง และได้มีการนัดสืบพยานโจทก์ต่อไปอีก 2 นัด โดยโจทก์มิได้โต้แย้งหรือคัดค้านว่าเอกสารดังกล่าวไม่สมบูรณ์หรือไม่ถูกต้อง ดังนี้เมื่อบันทึกคำเบิกความโจทก์ตามเอกสารหมาย ล.9เป็นพยานสำคัญเกี่ยวกับประเด็นสำคัญในคดี เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลจึงมีอำนาจรับฟังเอกสารนั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9412/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานก่อนฟ้องในคดีอาญาเมื่อจำเลยไม่ต้องการทนายความ และประเด็นความร่วมมือในการกระทำความผิด
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 237 ทวิที่ให้ศาลซักถามพยานนั้น ต้องเป็นกรณีที่ผู้ต้องหาต้องการทนายความและศาลเห็นว่าไม่สามารถตั้งทนายความหรือผู้ต้องหาไม่อาจตั้งทนายความได้ทัน เมื่อจำเลยทั้งสามไม่ต้องการทนายความ หากแม้ศาลจะมิได้ซักถามพยานนั้นให้แทนจำเลยทั้งสาม การสืบพยานก็ชอบ และรับฟังคำเบิกความของพยานในการพิจารณาคดีเมื่อจำเลยทั้งสามถูกฟ้องได้
of 10