คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ราคาประเมิน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 88 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4800/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องค่าทดแทนการใช้ที่ดินหลังเวนคืน: ราคาประเมินต้องเป็นธรรม พิจารณาปัจจัยตลาด
การที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยจำเลยที่ 3 กำหนดเขตเดินสายส่งไฟฟ้าพาดผ่านที่ดินแปลงใด ย่อมทำให้สิทธิต่าง ๆ ที่เกิดจากกรรมสิทธิ์ในที่ดินแปลงดังกล่าวถูกจำกัดตัดรอน ผู้เป็นเจ้าของที่ดินที่ถูกเขตเดินสายส่งไฟฟ้าพาดผ่าน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์อยู่ในขณะดำเนินการสำรวจเพื่อดำเนินการก่อสร้างระบบส่งไฟฟ้าแรงสูงหรือผู้ที่รับโอนกรรมสิทธิ์มาภายหลังดำเนินการสำรวจแล้ว ก็ถูกจำกัดตัดรอนสิทธิเหมือนกัน เมื่อจำเลยที่ 3 ยังไม่ได้จ่ายเงินค่าทดแทนการใช้ที่ดินพิพาทให้แก่จำเลยที่ 1 และที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าของเดิม และโจทก์ได้รับโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทมาจากจำเลยที่ 1 และที่ 2 ก่อนที่จำเลยที่ 3 จะเข้าไปใช้ที่ดินพิพาท โจทก์ผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทมาจึงเป็นเจ้าของผู้มีสิทธิที่จะได้รับเงินค่าทดแทนการใช้ที่ดินพิพาทตามพระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2511 มาตรา 30(1) โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องเรียกเงินค่าทดแทนการใช้ที่ดินพิพาทจากจำเลยที่ 3
พระราชบัญญัติบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยพ.ศ. 2511 มาตรา 30 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2535 มีเจตนารมณ์เหมือนกับพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2530 มาตรา 21วรรคหนึ่ง ซึ่งต่างมุ่งประสงค์ที่จะให้มีการจ่ายเงินค่าทดแทนให้เป็นธรรมแก่เจ้าของหรือผู้ครอบครองทรัพย์สินหรือผู้ทรงสิทธิอื่น แต่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2511 มาตรา 30 ไม่ได้บัญญัติถึงรายละเอียดของหลักเกณฑ์ที่จะให้นำมาใช้คำนึงในการกำหนดและจ่ายเงินค่าทดแทนอย่างเป็นธรรมไว้เหมือนอย่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์พ.ศ. 2530 มาตรา 21 วรรคหนึ่ง ดังนี้ การที่จะกำหนดและจ่ายเงินค่าทดแทนตามความเป็นธรรมตามพระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยพ.ศ. 2511 มาตรา 30 ควรคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ ในทำนองเดียวกันกับที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2530 มาตรา 21วรรคหนึ่ง (1) ถึง (5) เพื่อใช้เป็นฐานในการกำหนดเงินค่าทดแทนให้แก่เจ้าของหรือผู้ครอบครองทรัพย์สินหรือผู้ทรงสิทธิอื่นด้วย การที่คณะกรรมการกำหนดค่าทดแทนฯ กำหนดเงินค่าทดแทนการใช้ที่ดินพิพาทโดยใช้ราคาประเมินที่ดินของกรมที่ดินตามบัญชีกำหนดจำนวนทุนทรัพย์ในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดินของสำนักงานที่ดินเป็นฐานในการคำนวณเงินค่าทดแทนการใช้ที่ดินพิพาทเพียงประการเดียวยังไม่เพียงพอให้ฟังได้ว่าเป็นราคาที่แท้จริงของที่ดินพิพาท จึงยังฟังไม่ได้ว่าเงินค่าทดแทนการใช้ที่ดินพิพาทที่คณะกรรมการกำหนดค่าทดแทนฯ กำหนดนั้นเป็นธรรมแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7093/2542 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหลอกลวงศาลด้วยเอกสารราคาประเมินที่ดินปลอมเพื่อขอประกันตัว มีลักษณะร้ายแรงและไม่สมควรให้รอการลงโทษ
ผู้ถูกกล่าวหาทราบดีอยู่แล้วว่า หนังสือรับรองราคาประเมินที่ดินไม่ถูกต้อง เพราะราคาประเมินที่ดินสูงเกินความเป็นจริง การที่ผู้ถูกกล่าวหานำหนังสือรับรองราคาประเมินที่ดินที่ไม่ถูกต้องดังกล่าวมาใช้ยื่นขอประกันตัวจำเลยต่อศาล ย่อมเป็นการหลอกลวงศาลให้หลงเชื่อถึงความถูกต้องของหนังสือรับรองราคาประเมินที่ดินนั้นพฤติการณ์ดังกล่าวมีลักษณะร้ายแรง กรณีไม่มีเหตุสมควรที่จะลงโทษสถานเบาหรือรอการลงโทษให้ผู้ถูกกล่าวหา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1596/2542 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการขายทอดตลาดที่ราคาต่ำกว่าราคาประเมินและราคาตลาด ชี้ว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีอาจปฏิบัติหน้าที่ไม่สุจริต
จำเลยยื่นคำร้องคัดค้านการขายทอดตลาดว่าโจทก์ เข้าประมูลซื้อที่ดินและในการประมูลซื้อที่ดินโจทก์กดราคาที่ดินของจำเลยให้ต่ำกว่าปกติเป็นการซื้อที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยราคาที่เจ้าพนักงานบังคับคดีประเมินไว้จะต่ำกว่าราคาที่เจ้าพนักงานที่ดินประเมินถึง 4 เท่าและราคาที่เจ้าพนักงานบังคับคดีอนุมัติให้ขายแก่โจทก์ซึ่งให้ราคาสูงสุด จะต่ำกว่าราคาที่เจ้าพนักงานที่ดินประเมินเกิน 3 เท่า ทั้งเป็นการขายครั้งแรก หากเป็นจริงตามคำร้องจะเห็นได้ว่า การกระทำของ เจ้าพนักงานบังคับคดีมีลักษณะกดราคาที่ดินให้ต่ำมาก และไม่ระมัดระวังในการตรวจสอบราคาอันแท้จริง ส่อพฤติการณ์ว่าไม่สุจริตอยู่ในตัว ย่อมมีเหตุตามกฎหมาย ที่ศาลจะเพิกถอนการขายได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง แม้ตามคำร้องคัดค้านการขายทอดตลาดของจำเลยจะมิได้กล่าวอ้างอย่างตรงไปตรงมาว่าเป็นการกระทำของเจ้าพนักงานบังคับคดีก็ตาม แต่หากพิจารณาคำร้องพร้อมเอกสารที่แนบท้ายคำร้องแล้วพอแปลได้ว่าเป็นการกล่าวอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งการบังคับคดี ดังนี้ ถือว่าคำร้อง ของ จำเลยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ควรที่ศาลชั้นต้นจะต้องดำเนินการไต่สวนและมีคำสั่งต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1596/2542

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการขายทอดตลาดที่ราคาต่ำกว่าราคาประเมินและราคาตลาด เจ้าพนักงานบังคับคดีประเมินราคาต่ำเกินไป
จำเลยยื่นคำร้องคัดค้านการขายทอดตลาดว่า โจทก์ เข้าประมูลซื้อที่ดิน โดยกดราคาที่ดินของจำเลย ให้ต่ำกว่าปกติ เป็นการซื้อที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายโดยราคา ที่เจ้าพนักงานบังคับคดีประเมินไว้จะต่ำกว่าราคา ที่เจ้าพนักงานที่ดินประเมินถึง 4 เท่า และราคาที่เจ้าพนักงาน บังคับคดีอนุมัติให้ขายแก่โจทก์ซึ่งให้ราคาสูงสุด จะต่ำกว่าราคาที่เจ้าพนักงานที่ดินประเมินเกิน 3 เท่าทั้งเป็นการขายครั้งแรกหากเป็นจริงตามคำร้องจะเห็นได้ว่าการกระทำของเจ้าพนักงานบังคับคดีมีลักษณะกดราคาที่ดินให้ต่ำมาก และไม่ระมัดระวังในการตรวจสอบราคาอันแท้จริงส่อพฤติการณ์ว่าไม่สุจริตอยู่ในตัว ย่อมมีเหตุตามกฎหมายที่ศาลจะเพิกถอนการขายได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง แม้ตามคำร้องคัดค้านการขายทอดตลาดของจำเลย จะ มิได้กล่าวอ้างอย่างตรงไปตรงมาว่าเป็นการกระทำ ของเจ้าพนักงานบังคับคดีก็ตามแต่หากพิจารณาคำร้อง คัดค้านการขายทอดตลาดพร้อมเอกสารที่แนบท้ายคำร้อง แล้วพอแปลได้ว่าจำเลยกล่าวอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดี ดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งการบังคับคดีแล้ว คำร้องของ จำเลยจึงชอบด้วยกฎหมายที่ศาลชั้นต้นจะต้องดำเนินการ ไต่สวนและมีคำสั่งต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7515/2541 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดที่ไม่ชอบ เนื่องจากราคาต่ำกว่าราคาประเมินและขาดการแจ้งเจ้าของทรัพย์
แม้เจ้าพนักงานบังคับคดีจะประเมินราคาที่ดินพิพาทขณะยึดเพียง 404,000 บาท และผู้ซื้อทรัพย์เป็นผู้ให้ราคาสูงสุด 430,000 บาท ก็ตาม แต่ก่อนมีการขายทอดตลาดเจ้าพนักงานบังคับคดีได้มีหนังสือสอบถามราคาที่ดินพิพาทไปยังเจ้าพนักงานที่ดิน ซึ่งเจ้าพนักงานที่ดินมีหนังสือตอบมาว่าที่ดินพิพาทราคา 808,000 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาที่เจ้าพนักงานบังคับคดีประเมินและสูงกว่าราคาที่ผู้ซื้อทรัพย์ประมูลเกือบเท่าตัว ประกอบกับการขายทอดตลาดครั้งนี้เป็นการขายครั้งแรก และจำเลยที่ 1 ไม่ได้มาระวังการขายเนื่องจากไม่ทราบวันขายทอดตลาด ทั้งค่าเสียหายที่จำเลยที่ 1 จะต้องรับผิดต่อโจทก์ในขณะนั้นมีเพียง 100,000 บาทเศษ เท่านั้น พฤติการณ์ในการขายทอดตลาดดังกล่าวมีลักษณะเป็นการรวบรัดและกดราคาจึงเป็นการขายทอดตลาดที่ดินพิพาทที่ไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7515/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดที่ไม่ชอบเนื่องจากราคาต่ำกว่าราคาประเมินและจำเลยไม่ทราบวันขาย
แม้เจ้าพนักงานบังคับคดีจะประเมินราคาที่ดินพิพาทขณะยึดเพียง 404,000 บาท และผู้ซื้อทรัพย์เป็นผู้ให้ราคาสูงสุด430,000 บาท ก็ตาม แต่ก่อนมีการขายทอดตลาดเจ้าพนักงานบังคับคดีได้มีหนังสือสอบถามราคาที่ดินพิพาทไปยังเจ้าพนักงานที่ดิน ซึ่งเจ้าพนักงานที่ดินมีหนังสือตอบมาว่า ที่ดินพิพาทราคา 808,000 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาที่เจ้าพนักงานบังคับคดีประเมินและสูงกว่าราคาที่ผู้ซื้อทรัพย์ประมูลเกือบเท่าตัวประกอบกับการขายทอดตลาดครั้งนี้เป็นการขายครั้งแรกและจำเลยที่ 1 ไม่ได้มาระวังการขายเนื่องจากไม่ทราบวันขายทอดตลาด ทั้งค่าเสียหายที่จำเลยที่ 1 จะต้องรับผิดต่อโจทก์ในขณะนั้นมีเพียง 100,000 บาทเศษเท่านั้น พฤติการณ์ในการขายทอดตลาดดังกล่าวมีลักษณะเป็นการรวบรัดและกดราคา จึงเป็นการขายทอดตลาดที่ดินพิพาทที่ไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6554/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดบังคับคดี: ราคาประเมิน, การสมรู้กัน, ราคาตลาด, ความชอบด้วยกฎหมาย
แม้เจ้าพนักงานบังคับคดีจะประเมินราคาที่ดินและสิ่งปลูกสร้างพิพาทไว้ต่ำกว่าราคาประเมินของ สำนักงานวางทรัพย์กลางก็หาเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่เนื่องจากการประเมินราคาทรัพย์อาจมีความเห็นแตกต่างกันได้ทั้งไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีผู้ทำการประเมินราคามีเจตนาไม่สุจริต การเข้าสู้ราคาในการขายทอดตลาดเป็นเรื่องของบุคคลที่สนใจจะเข้าประมูลไม่เกี่ยวกับเจ้าพนักงานบังคับคดีผู้ขายทอดตลาดแต่อย่างใด เพราะเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่มีอำนาจจะบังคับหรือห้ามมิให้ผู้ใดเข้าสู้ราคา ดังนั้นการที่มีผู้เข้าสู้ราคาน้อยจึงไม่ใช่ข้อแสดงว่าการขายทอดตลาดเป็นไปโดยไม่ชอบ การที่ ว. ซึ่งเป็นผู้เข้าร่วมสู้ราคา มิได้เสนอราคาเข้าต่อสู้ มิได้หมายความว่า ว. สมรู้กับผู้เข้าสู้ราคาคนอื่นหรือบุคคลภายนอก เพราะการที่ ว. มิได้เสนอราคาดังกล่าวอาจเป็นเพราะ ว. เห็นว่าราคาในการประมูลสูงเกินไปก็ได้ เมื่อพยานหลักฐานรับฟังไม่ได้ว่าฝ่ายผู้ซื้อทรัพย์สมรู้กับผู้เข้าสู้ราคาคนอื่นและบุคคลภายนอกในการประมูลที่ดินและสิ่งปลูกสร้างพิพาท ทั้งราคาที่ผู้ซื้อทรัพย์ ประมูลได้ก็สูงกว่าราคาประเมินของสำนักงานวางทรัพย์กลางดังนั้นการที่เจ้าพนักงานบังคับคดีตกลงขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างให้แก่ผู้ซื้อตามราคาที่ผู้ซื้อเสนอมาจึงเป็นการขายทรัพย์ในราคาที่พอสมควรแล้ว ไม่ต่ำเกินไปกรณีจึงไม่มีเหตุที่จะเพิกถอนการขายทอดตลาดรายนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 958/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดชอบด้วยกฎหมาย แม้ราคาประเมินแตกต่างกัน ผู้ซื้อเสนอราคาสูงสุด ไม่มีสมยอม
ในวันขายทอดตลาดที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมีผู้สนใจประมูลประมาณ20คนเมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้อ่านประกาศขายทอดตลาดและข้อสัญญาตลอดจนคำเตือนให้ผู้สนใจทราบทุกคนแล้วมีผู้เข้าสู้ราคาเพียง2คนคืออ. และโจทก์ซึ่งอ.เป็นผู้เสนอราคาสูงสุดเป็นเงิน14,100,000บาทสูงกว่าราคาประเมินของเจ้าพนักงานบังคับคดีและสำนักงานวางทรัพย์เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงเคาะไม้ขายไปในราคาดังกล่าวทั้งไม่ปรากฏว่าการขายทอดตลาดครั้งนี้มีการสมยอมกันแต่อย่างใดและเจ้าพนักงานบังคับคดีก็ไม่ได้กระทำการฝ่าฝืนบทบัญญัติว่าด้วยการบังคับคดีอีกด้วยที่จำเลยที่1อ้างมาในฎีกาว่าการประมูลมีการกดราคาและสู้ราคาในอัตราที่ต่ำกว่าความเป็นจริงนั้นเมื่อมีการขายทอดตลาดถึง18ครั้งจำเลยที่1กับพวกก็หาได้ขวนขวายหาผู้มาประมูลตามที่จำเลยที่1อ้างแต่อย่างใดไม่จึงถือได้ว่าการขายทอดตลาดเป็นอันสมบูรณ์และชอบด้วยกฎหมายแล้วไม่มีเหตุที่จะขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 523/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดต่ำกว่าราคาประเมิน: ศาลต้องไต่สวนเหตุผลเพื่อคุ้มครองสิทธิลูกหนี้
จำเลยทั้งสามยื่นคำร้องคัดค้านการขายทอดตลาดที่ดินพิพาทสรุปได้ว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดต่ำกว่าราคาประเมินของสำนักงานกลางประเมินราคาทรัพย์สินโดยราคาที่ขายได้ต่ำกว่าราคาตามท้องตลาดถึง30เปอร์เซ็นต์เป็นการขายทอดตลาดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่เป็นธรรมดังนั้นคำร้องของจำเลยทั้งสามเท่ากับอ้างเหตุว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา513คือไม่ขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยทั้งสามให้ได้ราคาสูงสุดนั่นเองซึ่งเจ้าพนักงานบังคับคดีต้องดำเนินตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา308วรรคหนึ่งและหากได้ความว่าประเมินราคาทรัพย์ต่ำกว่าราคาแท้จริงในท้องตลาดมากโดยไม่ตรวจสอบราคาอันถูกต้องแท้จริงเสียก่อนย่อมส่อพฤติการณ์ว่าไม่สุจริตอยู่ในตัวเป็นการที่เจ้าพนักงานบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา296วรรคสองโดยที่จำเลยทั้งสามไม่ต้องระบุบทกฎหมายดังกล่าวมาในคำร้องด้วยศาลชั้นต้นชอบที่จะไต่สวนคำร้องให้สิ้นกระแสความไม่ควรด่วนสั่งงดการไต่สวนเสียเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 262/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินราคาทรัพย์สินบังคับคดี: ราคาประเมินของเจ้าพนักงานบังคับคดีต้องเทียบกับราคาตลาด ไม่ใช่ราคาประเมินของเจ้าพนักงานที่ดิน
ราคาประเมินของเจ้าพนักงานบังคับคดีจะสูงหรือต่ำกว่าราคาประเมินของเจ้าพนักงานที่ดินมิได้เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าราคาประเมินของเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ชอบต่ำกว่าราคาท้องตลาดที่ซื้อขายกันจริงเพราะราคาประเมินของเจ้าพนักงานที่ดินมีวัตถุประสงค์ใช้เป็นเกณฑ์กำหนดการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนนิติกรรมเท่านั้นราคาประเมินของเจ้าพนักงานบังคับคดีจะสูงหรือจะต่ำต้องเทียบกับราคาซื้อขายกันจริงตามท้องตลาดขณะกำหนดราคาจึงไม่มีเหตุจะเพิกถอนราคาประเมินของเจ้าพนักงานบังคับคดี การที่ผู้ร้องอ้างราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของเจ้าพนักงานบังคับคดีเปรียบเทียบกับราคาประเมินที่ดินของเจ้าพนักงานที่ดินและราคาสิ่งปลูกสร้างที่จำเลยคิดเอาเองนั้นทางไต่สวนฟังไม่ได้ว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีทำการขายทอดตลาดทรัพย์ได้ราคาต่ำกว่าราคาท้องตลาดโดยไม่สุจริตและฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของกฎหมายแต่อย่างใดกรณีไม่มีเหตุตามกฎหมายจะเพิกถอนการขายทอดตลาด
of 9