พบผลลัพธ์ทั้งหมด 21 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4848/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีขายทอดตลาด: แม้ไม่ปิดประกาศ ณ ที่ทรัพย์ แต่การขายชอบหากผู้มีส่วนได้เสียทราบ และราคาเหมาะสม
ระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วยการบังคับคดีของเจ้าพนักงานบังคับคดีพ.ศ. 2522 ข้อ 68 วรรคแรก ที่กำหนดให้เจ้าพนักงานบังคับคดีจัดการปิดประกาศขายทอดตลาดไว้โดยเปิดเผยณ สถานที่ที่ทรัพย์ที่จะขายตั้งอยู่ด้วย ตามก็เพื่อประสงค์จะให้บุคคลภายนอกที่สนใจมาประมูลซื้อทรัพย์ในการขายทอดตลาดทรัพย์เท่านั้น และระเบียบดังกล่าวไม่เป็นกฎหมาย แม้เจ้าพนักงานบังคับคดีมิได้นำประกาศขายทอดตลาดไปปิดไว้ ณ สถานที่ที่ทรัพย์ที่จะขายก็ตาม แต่ทั้งโจทก์และจำเลยได้ทราบการขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทโดยชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 306 แล้วเมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้อนุญาตให้ขายทอดตลาดแก่ผู้ซื้อทรัพย์ได้ในราคาที่สูงกว่าราคาที่เจ้าพนักงานบังคับคดีประเมินและสูงกว่าราคาประเมินของเจ้าพนักงานที่ดินและสูงกว่าราคาที่โจทก์เสนอประมูลในการขายทอดตลาดครั้งที่ผ่านมา ถือได้ว่าการขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทเป็นไปโดยชอบตามมาตรา 308 วรรคแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 420/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายทอดตลาดบังคับคดี: ราคาเหมาะสมเมื่อสูงกว่าราคาประเมินและไม่มีพฤติการณ์ทุจริต
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 308 วรรคแรกการที่จะอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทรัพย์สินโดยไม่ชอบนั้นจะต้องปรากฏว่าการขายทอดตลาดนั้นฝ่าฝืนต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และกฎกระทรวงว่าด้วยเรื่องการขายทอดตลาดทรัพย์สิน ฉะนั้นเมื่อจำเลยที่ 2 ไม่ได้คัดค้านว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยที่ 2 ไม่ถูกต้อง คงคัดค้านเฉพาะราคาว่าต่ำกว่าที่ควรเท่านั้น ซึ่งปรากฏว่าผู้ประมูลได้ให้ราคาสูงกว่าทั้งราคาประเมินของเจ้าพนักงานบังคับคดีและราคาประเมินของเจ้าพนักงานที่ดินทั้งไม่ปรากฏว่าในการขายทอดตลาดมีพฤติการณ์ส่อให้เห็นว่าไม่สุจริตแต่อย่างใด ราคาที่ผู้ประมูลซื้อในการขายทอดตลาดจึงเป็นราคาที่เหมาะสมแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 717/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายทอดตลาดบังคับคดี: ศาลไม่อนุญาตให้สืบพยานเพิ่มเติมและยืนราคาขายที่เหมาะสม
ศาลมีคำสั่งงดสืบพยานจำเลยเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2531 ซึ่งเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา และมีคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดีวันที่ 1 ธันวาคม 2531 โดยจำเลยมิได้โต้แย้งไว้ จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 226(2) ในการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดี มีผู้เสนอราคาสูงสุดกว่าราคาประเมินจำเลยคัดค้านลอย ๆ ว่าเป็นราคาต่ำกว่าราคาประเมินของกรมที่ดิน แต่เมื่อราคาที่เสนอเป็นราคาเหมาะสมกับสภาพทรัพย์สิน การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ขายทอดตลาดทรัพย์นั้นไป เป็นการใช้ ดุลพินิจโดยสุจริต มิได้เป็นการแสดงว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีสมรู้กับ โจทก์และผู้ร้องจำเลยจะขอให้ศาลสั่งขายทอดตลาดใหม่ โดยแสดง หนังสือรับรองราคาประเมินเข้ามาหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3519/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีขายทอดตลาดต้องได้ราคาเหมาะสม หากราคาต่ำกว่าควรเลื่อนการขายเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ขาย
การขายทอดตลาดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา ตามคำสั่งศาลนั้นกฎหมายมีเจตนารมณ์ ว่าจะต้องขายให้ได้ราคาสูงที่สุดเท่าที่สามารถจะประมูลขายได้ หากเจ้าพนักงานบังคับคดีผู้ทอดตลาดหรือศาลเห็นว่าราคาของผู้ประมูลสูงสุดในการประมูลครั้งนั้นต่ำไป เป็นราคาที่ไม่สมควรหรือควรจะได้ราคาที่สูงกว่านั้น เจ้าพนักงานบังคับคดีหรือศาลอาจไม่อนุญาตให้ขาย แล้วเลื่อนไปประกาศขายใหม่ได้ แม้โจทก์จะเป็นผู้ประมูลได้โดยเสนอราคาสูงสุดซึ่งสูงกว่าราคาประเมินของเจ้าพนักงานบังคับคดีก็ตาม แต่ราคาดังกล่าวหาใช่เป็นการประเมินตามราคาท้องตลาดที่แท้จริงไม่ เจ้าพนักงานบังคับคดีอาจคำนวณราคาท้องตลาดได้โดยอาศัยวงเงินที่โจทก์รับจำนองประกอบกับประเพณีของธนาคารที่จะ รับจำนองในวงเงินที่ต่ำกว่าราคาทรัพย์ที่แท้จริง ทั้งกรณีเป็นการประกาศขายทอดตลาดครั้งแรกหลังการจำนองเกินกว่า 5 ปี ราคาน่าจะต้องสูงขึ้นไปอีกมาก เจ้าพนักงานบังคับคดีพอจะเห็นได้ว่า ราคาซึ่งโจทก์เสนอสูงสุดนั้นยังไม่เพียงพอโดยต่ำกว่าวงเงินที่โจทก์รับจำนอง ฉะนั้น หากถอนทรัพย์จากการขายทอดตลาดในครั้งนี้แล้วประกาศขายทอดตลาดใหม่ อาจได้ราคาสูงกว่าที่โจทก์เสนอ ดังนี้ การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีอนุญาตให้ขายทรัพย์แก่โจทก์จึงเป็นการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อ ป.พ.พ. มาตรา 513ประกอบ ป.วิ.พ. มาตรา 308.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3519/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายทอดตลาดต้องได้ราคาเหมาะสมตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย เจ้าพนักงานบังคับคดีต้องพิจารณาราคาที่สมเหตุสมผล
การขายทอดตลาดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาตามคำสั่งของศาล กฎหมายมีเจตนารมณ์ว่า จะต้องขายให้ได้ราคาสูงที่สุดเท่าที่สามารถจะประมูลขายได้ เพราะหากเจ้าพนักงานบังคับคดีผู้ทอดตลาดหรือศาลเห็นว่าราคาของผู้ประมูลสูงสุดในครั้งนั้นต่ำไปเป็นราคาที่ไม่สมควรหรือควรจะได้ราคาที่สูงกว่านั้นเจ้าพนักงานบังคับคดีหรือศาลอาจไม่อนุญาตให้ขายแล้วเลื่อนไปประกาศขายใหม่คดีนี้เจ้าพนักงานบังคับคดีอนุญาตให้ขายแก่ผู้ประมูลที่ให้ราคาสูงสุด ซึ่งต่ำกว่าวงเงินที่ธนาคารเคยรับจำนองเมื่อ 5 ปีก่อนแม้ราคาประมูลสูงสุดนั้นจะสูงกว่าราคาประเมินของเจ้าพนักงานบังคับคดี แต่การประเมินดังกล่าวเป็นเพียงการประมาณราคาเพื่อคำนวณค่าธรรมเนียมในกรณียึดแล้วไม่มีการขาย และเพื่อดูว่าทรัพย์สินที่ยึดเพียงพอที่จะบังคับชำระหนี้ตามคำพิพากษาหรือไม่เป็นการประมาณราคาแบบคร่าว ๆ มิใช่ประเมินตามราคาท้องตลาดที่แท้จริง และการขายทอดตลาดนั้น ผู้ทอดตลาดอาจคำนวณราคาท้องตลาดโดยอาศัยวงเงินที่ธนาคารรับจำนอง ประกอบกับประเพณีของธนาคารที่จะรับจำนองในวงเงินต่ำกว่าราคาทรัพย์ที่แท้จริง อีกทั้งการขายทอดตลาดคดีนี้ก็กระทำภายหลังการจำนองเกินกว่า 5 ปีทรัพย์ที่ขายทอดตลาดเป็นอาคารพาณิชย์พร้อมที่ดินอยู่ในย่าน ทำเลการค้า ราคาน่าจะต้องสูงขึ้นไปอีกมาก และเป็นการขายทอดตลาดครั้งแรก ผู้ทอดตลาดพอจะเห็นได้ว่าราคาซึ่งผู้สู้สูงสุดนั้นยังไม่เพียงพอ หากมีการประกาศขายใหม่จะมีผู้สู้ราคาสูงกว่าในครั้งนี้ ดังนั้น การอนุญาตให้ขายของเจ้าพนักงานบังคับคดีดังกล่าวจึงไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของการขายทอดตลาด ฝ่าฝืนต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 513 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 308 ซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง ให้ศาลสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีในกรณีเช่นนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 262/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายทอดตลาด: การพิจารณาเรื่องราคาที่เหมาะสมและระยะเวลาการขายทรัพย์เพื่อชำระหนี้
ในการขายทอดตลาดทรัพย์ ผู้ซื้อทรัพย์ให้ราคาสูงสุด 3,000,000 บาทเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ได้เคาะไม้ขายไปในราคาดังกล่าว แต่ เมื่อได้ปรึกษา ป. รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดี และวางทรัพย์ภูมิภาคแล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีถามผู้เข้าสู้ราคา ว่าจะมีใครให้ราคาสูงกว่าที่ผู้ซื้อทรัพย์เสนอไว้อีกหรือไม่ตาม ที่ ป. แนะนำปรากฏว่าผู้ซื้อทรัพย์เสนอเพิ่มราคาเป็น3,500,000 บาท ป.จึง อนุมัติให้เจ้าพนักงานบังคับคดีเคาะไม้ขายให้แก่ผู้ซื้อทรัพย์ไปในราคา3,500,000 บาท การดำเนินการขายทอดตลาด เช่นนี้ถือได้ว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีได้กระทำต่อเนื่องตาม ระเบียบและเปิดโอกาสให้ผู้อื่นเข้าสู้ราคากันอย่างเต็มที่และ ยังอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการขายทอดตลาดเพื่อรักษาผลประโยชน์ ของคู่ความให้ได้ราคาสูงสุด หาใช่เป็นการที่ผู้ทอดตลาดถอนทรัพย์ จากการขายทอดตลาดโดยปริยายไม่จึงเป็นการขายทอดตลาดที่ชอบด้วยกฎหมาย ตั้งแต่โจทก์เริ่มฟ้องคดีจนถึงวันขายทอดตลาดได้เป็นเวลา เกือบ3 ปี ได้ทำการขายทอดตลาดมาเป็นครั้งที่ 11 และราคา ที่ผู้ซื้อทรัพย์ประมูลได้ก็สูงกว่าราคาปานกลางที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ประเมินไว้อีกทั้งยังสูงกว่าราคาที่ผู้แทนโจทก์เคย กำหนดว่าควรขายได้เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงชอบที่จะอนุมัติให้ ขายได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 594/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายทอดตลาดบังคับคดี: ราคาเหมาะสมและดุลพินิจเจ้าพนักงานบังคับคดี
จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดโดยมิได้โต้แย้งว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ใช้ดุลพินิจในการขายโดยไม่สุจริตอย่างไร กรณีจึงต้องถือว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ขายทอดตลาดทรัพย์ให้แก่ผู้ประมูลราคาสูงสุดโดยเห็นว่าเป็นราคาที่สมควรแล้ว จำเลยจะรื้อฟื้นขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดโดยอ้างว่าเป็นการขายในราคาต่ำหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1631/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายทอดตลาดชอบด้วยกฎหมายเมื่อราคาเหมาะสมและไม่มีพฤติการณ์ทุจริต แม้ราคาต่ำกว่าราคาประเมิน
การที่จะอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์สินโดยไม่ชอบนั้น จะต้องปรากฏว่าการขายทอดตลาดนั้นขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และกฎกระทรวงที่ว่าด้วยเรื่องการขายทอดตลาดทรัพย์สินเมื่อผู้แทนโจทก์ค้านเฉพาะราคาทรัพย์สินพิพาทว่าผู้เข้าประมูลสู้ราคาประมูลราคาต่ำไป และโจทก์นำสืบแต่เพียงว่าราคาประมูลต่ำกว่าราคาที่สำนักงานวางทรัพย์กลางประเมินไว้โดยไม่มีหลักฐานอื่นประกอบให้เห็นว่าราคาทรัพย์สินพิพาทที่แท้จริงควรจะเป็นจำนวนเท่าใด และในการขายทอดตลาดดังกล่าวไม่ปรากฏว่ามีพฤติการณ์ส่อให้เห็นว่าการประมูลซึ่งทรัพย์สินพิพาทที่ขายทอดตลาดเป็นการสมรู้กันกดราคาซื้อหรือไม่สุจริต การขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทจึงชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 717/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดี: ราคาขายทอดตลาดเหมาะสมและประกาศขายแพร่หลายแล้ว ศาลยืนตามคำพิพากษาเดิม
ในการประกาศขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทรวม 14 ครั้ง ในระยะเวลา3 ปี ไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดเสนอราคาสูงกว่าราคาที่ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้ขายได้ในการขายทอดตลาดครั้งที่ 15 ราคาที่ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้ขายจึงเป็นราคาที่เหมาะสมแล้ว
เจ้าพนักงานบังคับคดีแจ้งคำสั่งของศาลที่อนุญาตให้ขายทอดตลาดและวันขายทอดตลาดแก่บรรดาบุคคลผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินที่จะขายทอดตลาดซึ่งทราบได้ตามทะเบียน หรือโดยประการอื่นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 306 ครบถ้วนแล้ว ถือได้ว่าเป็นการประกาศขายทอดตลาดทรัพย์สินพิพาทที่แพร่หลายตามสมควรแล้วไม่มีเหตุที่จะต้องขายทอดตลาดใหม่.(ที่มา-เนติ)
เจ้าพนักงานบังคับคดีแจ้งคำสั่งของศาลที่อนุญาตให้ขายทอดตลาดและวันขายทอดตลาดแก่บรรดาบุคคลผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินที่จะขายทอดตลาดซึ่งทราบได้ตามทะเบียน หรือโดยประการอื่นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 306 ครบถ้วนแล้ว ถือได้ว่าเป็นการประกาศขายทอดตลาดทรัพย์สินพิพาทที่แพร่หลายตามสมควรแล้วไม่มีเหตุที่จะต้องขายทอดตลาดใหม่.(ที่มา-เนติ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2162/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายทอดตลาดทรัพย์สิน: การมีผู้สู้ราคาสูงสุดเพียงคนเดียวไม่ทำให้การขายเป็นโมฆะ หากเป็นไปตามขั้นตอน
ในการขายทอดตลาดทรัพย์เพื่อเอาเงินชำระค่าปรับฐานผิดสัญญาประกันมีทรัพย์ 3 รายการ รวมทั้งทรัพย์รายพิพาทด้วย เจ้าพนักงานบังคับคดีได้โฆษณาบอกขายเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปเข้าสู้ราคาได้โดยเปิดเผยแล้ว เวลาขายทรัพย์อีก 2 รายการนั้น มีผู้เข้าสู้ราคา 2 - 3 คน แต่เมื่อขายทรัพย์รายพิพาทมีผู้สู้ราคาเพียงคนเดียว เมื่อไม่มีผู้อื่นสู้ราคาสูงขึ้นไปอีกแล้ว ผู้สู้ราคาคนเดียวนี้ย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้สู้ราคาสูงสุด ศาลย่อมอนุญาตให้ขายให้แก่ผู้สู้ราคานี้ได้เมื่อเห็นว่าเป็นราคาสมควรแล้ว แม้จะมีผู้สู้ราคาเพียงคนเดียวก็จะถือว่าการขายทอดตลาดทรัพย์รายพิพาทนี้ ไม่เป็นไปตามวิธีการขายทอดตลาดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 513, 514หาได้ไม่