คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
รายงานกระบวนพิจารณา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 15 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6958/2557

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่ลงลายมือชื่อในรายงานกระบวนพิจารณา ถือเป็นการไม่ยอมรับรายงานได้ ศาลใช้คำแถลงของจำเลยประกอบพยานหลักฐานได้
การไม่ยอมลงลายมือชื่อตาม ป.วิ.พ. มาตรา 50 (2) ไม่ได้มีข้อความว่าคู่ความฝ่ายใดที่จะต้องลงลายมือชื่อนั้น จะต้องอยู่รับรู้หรืออยู่ฟังการอ่านรายงานกระบวนพิจารณาของศาลแล้วไม่ยอมลงลายมือชื่อ การที่จำเลยทั้งสามแถลงต่อศาลแล้วออกจากห้องพิจารณาไปโดยไม่อยู่รอฟังการอ่านรายงานกระบวนพิจารณาของศาลและลงลายมือชื่อ ก็ถือว่าจำเลยทั้งสามไม่ยอมลงลายมือชื่อในรายงานกระบวนพิจารณาตามความหมายของ ป.วิ.พ. มาตรา 50 (2) เช่นกัน จำเลยทั้งสามจึงไม่อาจอ้างได้ว่ารายงานกระบวนพิจารณาในวันดังกล่าวไม่ชอบ เพราะจำเลยทั้งสามไม่อยู่ลงลายมือชื่อ เมื่อจำเลยทั้งสามแถลงให้ศาลจดรายงานกระบวนพิจารณาว่าจำเลยทั้งสามเป็นหนี้ตามฟ้องโจทก์และยังไม่ได้ชำระหนี้ให้แก่โจทก์ตามฟ้อง ศาลก็ย่อมรับฟังข้อเท็จจริงตามคำแถลงของจำเลยทั้งสามประกอบพยานหลักฐานอื่นที่โจทก์นำสืบในการพิจารณาและวินิจฉัยให้จำเลยทั้งสามชำระหนี้ตามฟ้องแก่โจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2113/2557

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำคำเบิกความชั้นไต่สวนมูลฟ้องมาใช้ในชั้นพิจารณา ต้องมีข้อตกลงระหว่างคู่ความและบันทึกในรายงานกระบวนพิจารณา
ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 237 วรรคสอง ระบุว่า ในกรณีที่คู่ความตกลงกัน ศาลอาจอนุญาตให้ถือเอาบันทึกคำเบิกความของพยานในชั้นไต่สวนมูลฟ้องเป็นคำเบิกความพยานในชั้นพิจารณาโดยพยานไม่ต้องเบิกความใหม่หรือให้พยานเบิกความตอบคำถามค้านของจำเลยไปทันทีได้ อันมีความหมายอยู่ในตัวว่าก่อนที่โจทก์หรือจำเลยจะนำพยานปากใดที่เคยเบิกความในชั้นไต่สวนมูลฟ้องมาเบิกความเป็นพยานในชั้นพิจารณา คู่ความสามารถตกลงกันได้ว่าไม่จำต้องให้พยานปากดังกล่าวต้องเบิกความซ้ำในข้อเท็จจริงเดียวกันนี้ และศาลจะต้องจดบันทึกข้อตกลงของคู่ความนี้ไว้ให้แจ้งชัดในรายงานกระบวนพิจารณา สำหรับคดีนี้ไม่ปรากฏในรายงานกระบวนพิจารณาในวันสืบพยานโจทก์ว่าคู่ความทั้งสองฝ่ายที่มาศาลได้ตกลงกันให้นำคำเบิกความของ ห. ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องมาเป็นคำเบิกความในชั้นพิจารณา ศาลจึงไม่อาจนำคำเบิกความของ ห. ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องมาเป็นคำเบิกความในชั้นพิจารณาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 799/2551

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิเรียกร้องค่าเช่าทำให้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง และการวินิจฉัยชี้ขาดในรายงานกระบวนพิจารณาไม่ทำให้คำพิพากษาคลาดเคลื่อน
ศาลชั้นต้นได้สอบถามข้อเท็จจริงจากคู่ความเมื่อเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายในเรื่องอำนาจฟ้องของโจทก์ได้แล้ว ได้วินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหานั้นตาม ป.วิ.พ. มาตรา 24 ถือได้ว่าศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นแห่งคดีและให้เหตุผลแห่งคำวินิจฉัยทั้งปวงไว้ชัดเจนแล้ว แม้จะได้วินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นแห่งคดีไว้ในรายงานกระบวนพิจารณา ก็ไม่ทำให้คำพิพากษาคลาดเคลื่อนต่อความเป็นจริงและไม่ชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4047/2551

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระบุเวลาในรายงานกระบวนพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 7 ที่ไม่ได้ทำต่อหน้าคู่ความ
ป.วิ.พ. มาตรา 48 (3) ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 15 บัญญัติให้เป็นหน้าที่ของศาลต้องจดแจ้งสถานที่ วัน เวลา ที่ศาลนั่งพิจารณาหรือดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลไว้ในรายงานกระบวนพิจารณา แต่กระบวนพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 7 ไม่ได้กระทำต่อหน้าคู่ความ และต้องส่งรายงานกระบวนพิจารณาให้ศาลชั้นต้นทำการอ่านแทน ศาลอุทธรณ์ภาค 7 จึงไม่ต้องระบุเวลาไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาในช่องที่ผู้พิพากษาออกนั่งพิจารณาคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3562/2551

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รายงานกระบวนพิจารณาที่ไม่สมบูรณ์ ไม่กระทบกระบวนการพิจารณา หากคู่ความไม่โต้แย้ง
ป.วิ.พ. มาตรา 50 บัญญัติว่า ถ้าคู่ความฝ่ายใด หรือบุคคลใดจะต้องลงลายมือชื่อในรายงานใดเพื่อแสดงรับรู้รายงานนั้น หรือจะต้องลงลายมือชื่อในเอกสารใดเพื่อรับรองการอ่านหรือการส่งเอกสารเช่นว่านั้น (2) ถ้าคู่ความหรือบุคคลที่จะต้องลงลายมือชื่อในรายงานดังกล่าวแล้ว ลงลายมือชื่อไม่ได้ หรือไม่ยอมลงลายมือชื่อ ให้ศาลทำรายงานจดแจ้งเหตุที่ไม่มีลายมือชื่อเช่นนั้นไว้แทนการลงลายมือชื่อ ตามบทบัญญัติดังกล่าว การลงลายมือชื่อในรายงานกระบวนพิจารณาเป็นการแสดงการรับรู้ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นต่อหน้าศาลในการพิจารณาคดีในครั้งนั้น ๆ การที่คู่ความไม่ลงลายมือชื่อ และศาลไม่ได้จดแจ้งเหตุที่ไม่มีลายมือชื่อเช่นนั้นไว้แทนการลงลายมือชื่อย่อมมีผลทำให้รายงานกระบวนพิจารณาในครั้งนั้น ๆ ใช้ไม่ได้เท่านั้น แต่ไม่ทำให้กระบวนการพิจารณาที่เกิดขึ้นต่อหน้าศาลโดยชอบต้องเสียไปเพราะเหตุดังกล่าว ดังนั้นการที่ศาลชั้นต้นละเลยไม่ได้จดแจ้งเหตุที่ทนายจำเลยร่วมไม่ลงลายมือชื่อไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาจึงนับว่าเป็นความบกพร่องของศาลชั้นต้นเอง หาทำให้กระบวนพิจารณาที่เกิดขึ้นโดยชอบต้องเสียหายไปเพราะเหตุดังกล่าว อีกทั้งไม่ปรากฏว่าทนายจำเลยร่วมได้โต้แย้งคัดค้านการที่โจทก์ทั้งหกและจำเลยได้ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน นอกจากนั้น หากทนายจำเลยร่วมเห็นว่า ทนายจำเลยร่วมไม่เคยแถลงขอถอนคำร้องจากการเป็นจำเลยร่วมและการที่ศาลชั้นต้นจดแจ้งรายงานกระบวนพิจารณาไม่ตรงกับความเป็นจริงอันจะถือได้ว่าเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบ ทนายจำเลยร่วมก็ชอบที่จะยกข้อคัดค้านเรื่องผิดระเบียบขึ้นกล่าวอ้างภายใน 8 วัน หลังจากที่ศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอมให้แก่โจทก์ทั้งหกและจำเลยได้ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 27 แต่ทนายจำเลยร่วมก็หาได้กระทำไม่ กรณีจึงต้องถือว่า ทนายจำเลยร่วมแถลงขอถอนคำร้องจากการเป็นจำเลยร่วมแล้ว และเมื่อศาลชั้นต้นอนุญาตจำเลยร่วมจึงไม่มีฐานะเป็นคู่ความในคดีอีกต่อไป เมื่อโจทก์ทั้งหกและจำเลยตกลงทำสัญญาประนีประนอมกัน ศาลชั้นต้นจึงไม่จำต้องสอบถามถึงความยินยอมจากจำเลยร่วม ประกอบกับการทำสัญญาประนีประนอมระหว่างโจทก์ทั้งหกและจำเลยก็มิได้กระทบกระทั่งถึงสิทธิในกรรมสิทธิ์รวมของจำเลยร่วมแต่อย่างใด
of 2