พบผลลัพธ์ทั้งหมด 20 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1346/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบเรือของกลางในคดีฝิ่น: ศาลฎีกายกฎีกาโจทก์ เหตุข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าเรือเป็นของใช้ในการกระทำผิด
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันว่า จำเลยมีฝิ่นไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ให้จำคุกจำเลยไว้ 1 ปี 6 เดือนและปรับ 4,662,000 บาท ฝิ่นของกลางให้ริบ ส่วนเรือของกลาง ไม่ใช่ของใช้ในการกระทำผิดคือมีไว้ซึ่งฝิ่นโดยตรง ไม่ใช่ของควรริบ ให้คืนให้จำเลยไป ดังนี้ โจทก์จะฎีกาโต้เถียงว่า เรือเป็นของที่ใช้ในการกระทำผิดไม่ได้ ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1142/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจับกุมเรือต่างชาติในทะเลหลวงหลังกระทำผิดในเขตประมงไทย: อำนาจศาลในการริบเรือ
ชนต่างด้าวที่มีภูมิลำเนาอยู่นอกประเทศนำเรือเข้ามาทำผิดภายในเขตการประมงไทย เรือรบไทยไล่ตามจับได้ห่างฝั่ง 6 ไมล์ อันเป็นท้องทะเลหลวง ดังนี้ ถือว่าการจับย่อมสมบูรณ์ตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 418/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบเรือมาดที่ใช้บรรทุกข้าวผิดกฎหมาย พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว แม้จะเช่ามาก็ต้องริบหากพิสูจน์ไม่ได้
พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว บัญญัติไว้ชัดว่า การขนข้าวย้ายออกนอกเขตต์ ฯลฯ ให้ริบข้าวรวมทั้งสิ่งบรรจุและพาหนะใด ๆ ที่ใช้บรรทุกข้าวนั้นเสีย เป็นการบังคับไว้ให้ริบ +จำเลยใช้เรือมาดซึ่งฟังได้ว่าเป็น+ของจำเลยบรรทุกข้าวออกนอกเขตต์ ฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการสำรวจและห้ามกักกันข้าว ศาลต้องริบเรือมาดที่ใช้เป็นพาหนะนั้นเสียด้วย โดยไม่ต้องคำนึงว่า การบรรทุกข้าวเป็นปัจจับสำคัญหรือไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 418/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบเรือมาดจากการขนย้ายข้าวผิดกฎหมาย แม้เช่ามาก็ต้องริบหากไม่มีหลักฐาน
พระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าวบัญญัติไว้ชัดว่าการขนย้ายข้าวออกนอกเขต ฯลฯ ให้ริบข้าวรวมทั้งสิ่งบรรจุและพาหนะใดๆที่ใช้บรรทุกข้าวนั้นเสียเป็นการบังคับไว้ให้ริบ
จำเลยใช้เรือมาดซึ่งฟังได้ว่าเป็นเรือของจำเลยบรรทุกข้าวออกนอกเขตฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการสำรวจและห้ามกักกันข้าว ศาลต้องริบเรือมาดที่ใช้เป็นพาหนะนั้นเสียด้วยโดยไม่ต้องคำนึงว่า การบรรทุกข้าวเป็นปัจจัยสำคัญหรือไม่
จำเลยใช้เรือมาดซึ่งฟังได้ว่าเป็นเรือของจำเลยบรรทุกข้าวออกนอกเขตฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการสำรวจและห้ามกักกันข้าว ศาลต้องริบเรือมาดที่ใช้เป็นพาหนะนั้นเสียด้วยโดยไม่ต้องคำนึงว่า การบรรทุกข้าวเป็นปัจจัยสำคัญหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 275/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบเรือของกลางตาม พ.ร.บ.สุลกากร ต้องระบุระวางบรรทุกชัดเจน มิฉะนั้นศาลไม่อาจสั่งริบได้
เรือของกลางอันจะพึงริบตาม พ.ร.บ.สุลกากร ม.32 โจทจะต้องบันยายฟ้องไห้ได้ความชัดว่ามีระวางบันทุกเท่าได มิฉนั้นสาลจะไม่สั่งริบ
กรนีที่ถือว่าโจทระบุเปนความผิดตาม พ.ร.บ.สุลกากรและ พ.ร.บ.ควบคุมการนำเข้ามาและส่งออกไปซึ่งสินค้าบางหย่าง
กรนีที่ถือว่าโจทระบุเปนความผิดตาม พ.ร.บ.สุลกากรและ พ.ร.บ.ควบคุมการนำเข้ามาและส่งออกไปซึ่งสินค้าบางหย่าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 275/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบเรือของกลาง: จำเป็นต้องระบุระวางบรรทุกในคำฟ้อง
เรือของกลางอันจะพึงริบตาม พระราชบัญญัติศุลกากร มาตรา 32โจทก์จะต้องบรรยายฟ้องให้ได้ความชัดว่ามีระวางบรรทุกเท่าใดมิฉะนั้นศาลจะไม่สั่งริบ
กรณีที่ถือว่าโจทก์ระบุเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติศุลกากรและ พระราชบัญญัติควบคุมการนำเข้ามาและส่งออกไปซึ่งสินค้าบางอย่าง
กรณีที่ถือว่าโจทก์ระบุเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติศุลกากรและ พระราชบัญญัติควบคุมการนำเข้ามาและส่งออกไปซึ่งสินค้าบางอย่าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 274/2471
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบเรือที่ใช้ในการขนส่งสินค้าผิดกฎหมาย: เจ้าของเรือไม่รู้เห็น ไม่ควรริบ
เรือฉะลอมที่เปนพาหนะขนสุราเถื่อนนั้นถ้าไม่ใช่เรือของจำเลยแลเจ้าของเรือไม่ทราบว่าจะเอาไปกระทำผิดไม่ควรริบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8646/2561
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบเรือประมง: การกระทำความผิดตามเงื่อนไขใบอนุญาตใช้เรือ ไม่ถึงขั้นเป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิดตามกฎหมาย
มูลเหตุการกระทำความผิดในคดีนี้เกิดจากการนำเรือกลประมงทะเลชั้น 1 ขนาด 40.39 ตันกรอส ออกจากท่า โดยไม่มีคนใช้เครื่องจักรยนต์ชั้นหนึ่งตามที่แจ้งต่อเจ้าพนักงานก่อนนำเรือออกจากท่า ซึ่งเป็นการใช้เรือผิดจากเงื่อนไขหรือข้อกำหนดในใบอนุญาตใช้เรือและเป็นเรือประมงซึ่งปฏิบัติไม่ครบถ้วนตามกฎหมายว่าด้วยการเดินเรือในน่านน้ำไทย และการที่จำเลยยินยอมให้ผู้ควบคุมเรือนำเรือประมงซึ่งปฏิบัติไม่ครบถ้วนตามกฎหมายว่าด้วยการเดินเรือในน่านน้ำไทยออกจากท่า ไม่ปรากฏว่าเรือของจำเลยเป็นเรือที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ได้รับอนุญาตแต่อย่างใด การกระทำความผิดของจำเลยเป็นเพียงการผิดเงื่อนไขหรือข้อกำหนดในใบอนุญาตใช้เรือและยินยอมให้ผู้ควบคุมเรือกระทำการดังกล่าว เรือประมงของกลางจึงมิใช่ทรัพย์ที่ได้ใช้ในการกระทำความผิดตาม ป.อ. มาตรา 33 (1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8480/2561
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบเรือประมง: การกระทำความผิดตามกฎหมายเดินเรือและคำสั่ง คสช. มิได้ทำให้เรือกลายเป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิดตาม ป.อ. มาตรา 33
มูลเหตุการกระทำความผิดในคดีนี้เกิดจากการนำเรือกลประมงทะเลชั้น 1 ขนาด 43.14 ตันกรอส ออกจากท่า โดยไม่มีคนใช้เครื่องจักรยนต์ชั้นหนึ่งตามที่แจ้งต่อเจ้าพนักงานก่อนนำเรือออกจากท่า ซึ่งเป็นการใช้เรือผิดเงื่อนไขหรือข้อกำหนดในใบอนุญาตใช้เรือและเป็นเรือประมงซึ่งปฏิบัติไม่ครบตามกฎหมายว่าด้วยการเดินเรือในน่านน้ำไทย และการที่จำเลยยินยอมให้ผู้ควบคุมเรือกระทำการดังกล่าว ไม่ปรากฏว่าเรือของจำเลยเป็นเรือที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ได้รับใบอนุญาตแต่อย่างใด เรือประมงของกลางจึงมิใช่ทรัพย์ที่ได้ใช้ในการกระทำความผิดตาม ป.อ. มาตรา 33 (1) ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ไม่ริบเรือประมงของกลางจึงชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2693/2566
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประมงผิดกฎหมาย: ริบเรือและเครื่องมือเนื่องจากทำการประมงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตและใช้เครื่องมือต้องห้าม
จำเลยทั้งสามร่วมกันทำการประมงโดยใช้อวนลากคานถ่างซึ่งถือเป็นประมงพาณิชย์โดยไม่ได้รับใบอนุญาตอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.การประมง พ.ศ. 2558 มาตรา 36 จึงเป็นการทำการประมงโดยฝ่าฝืนกฎหมายอย่างร้ายแรงตามมาตรา 114 (2) เรือยนต์ประมงหางยาวพร้อมเครื่องยนต์ของกลางซึ่งจำเลยทั้งสามร่วมกันใช้ในการกระทำความผิดจึงต้องริบเสียทั้งสิ้นตามมาตรา 169 วรรคหนึ่ง