คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
รูปแบบ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 49 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2285/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานหลักฐานที่ไม่ถูกต้องตามรูปแบบ แต่มีเหตุผลสมควรเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
โจทก์มิได้ส่งสำเนาลายมือชื่อด้านหลังเช็คพิพาทให้แก่จำเลยก่อนวันสืบพยานสามวัน แต่โจทก์ได้ระบุอ้างเช็คพิพาทไว้ในบัญชีพยานโดยชอบ และเช็คพิพาทเป็นเอกสารสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญแห่งคดี ดังนี้เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมศาลมีอำนาจรับฟังเช็คพิพาทตาม ป.วิ.พ. มาตรา 87(2) ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2285/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบเอกสารที่ไม่ถูกต้องตามรูปแบบ แต่มีเหตุผลให้รับฟังได้เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
โจทก์มิได้ส่งสำเนาลายมือชื่อด้านหลังเช็คพิพาทให้แก่จำเลยก่อนวันสืบพยานสามวัน แต่โจทก์ได้ระบุอ้างเช็คพิพาทไว้ในบัญชีพยานโดยชอบและเช็คพิพาทเป็นเอกสารสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญแห่งคดี ดังนี้เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลมีอำนาจรับฟังเช็คพิพาทตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 87(2) ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1677/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงคำฟ้องหลังวันชี้สองสถาน: พินัยกรรมปลอม vs. ความไม่เป็นไปตามรูปแบบ
ตาม ฟ้องโจทก์อ้างว่าพินัยกรรมฉบับพิพาทเป็นโมฆะ เพราะผู้ทำพินัยกรรมมิได้ลงชื่อต่อหน้าพยาน และพยานมิได้ลงลายมือชื่อรับรองลายมือชื่อของผู้ทำพินัยกรรมไว้ในขณะนั้น ทั้งในวันชี้สองสถาน โจทก์ก็ได้ แถลงรับว่าเจ้ามรดกได้ ทำพินัยกรรมฉบับพิพาทไว้จริง แต่ ตกเป็นโมฆะเพราะทำขึ้นโดย ฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมาย การที่โจทก์ยกขึ้นอ้างใหม่ในคำร้องขอแก้ไขคำฟ้องภายหลังวันชี้สองสถานว่า พินัยกรรมฉบับพิพาทเป็นพินัยกรรมปลอม จึงมิใช่ปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยชอบที่ศาลจะยกคำร้องของโจทก์เสีย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5965/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความยินยอมในการทำนิติกรรมของผู้เยาว์: รูปแบบไม่จำกัดกฎเกณฑ์
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 21 มิได้บัญญัติถึงแบบหรือวิธีปฏิบัติในการที่ผู้แทนโดยชอบธรรมให้ความยินยอมในการทำนิติกรรมของผู้เยาว์ไว้ดังนั้นการให้ความยินยอมดังกล่าวจึงกระทำด้วยวาจาลายลักษณ์อักษรหรือพฤติการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ เมื่อบิดาและมารดาให้ความยินยอมแก่บุตรผู้เยาว์ในการทำนิติกรรมแล้ว นิติกรรมจึงสมบูรณ์มีผลใช้บังคับได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1341/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องฎีกาไม่ถูกต้องตามรูปแบบและขาดการโต้แย้งเหตุผลศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกายกคำร้อง
ฟ้องฎีกาจำเลยไม่มีลายมือชื่อผู้เรียง เป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(7),215,225 ซึ่งจะต้องจัดการให้ถูกต้องเสียก่อน แต่เมื่อฎีกาจำเลยมิได้โต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าไม่ชอบด้วยข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายอย่างไรไว้โดยชัดเจน เพียงแต่อ้างว่ายังไม่ทราบเหตุผลที่ศาลอุทธรณ์ลงโทษมาเท่านั้น เป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 วรรคสอง,195,225 อันจะพึงรับไว้วินิจฉัย คดีจึงไม่มีเหตุสมควรที่จะส่งสำนวนคืนศาลชั้นต้นเพื่อจัดการให้มีการลงชื่อผู้เรียงให้ถูกต้องศาลฎีกาพิพากษายกฎีกาจำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3179/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตั้งตัวแทนต้องทำเป็นหนังสือเมื่อสัญญาเช่าต้องจดทะเบียน และผลของการไม่ทำตามรูปแบบ
โจทก์ผู้รับมรดกของ อ.ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินและตึกแถวที่เช่า จำเลยอ้างว่าจำเลยตั้งให้ ร.เป็นตัวแทนของจำเลยเข้าทำสัญญาเช่าและจดทะเบียนการเช่าตึกแถวกับ อ.ผู้ให้เช่าซึ่งอ.ก็ทราบเรื่องนี้ดีและยินยอมให้ ร.เข้าทำสัญญาเช่าในฐานะตัวแทนของจำเลยได้กรณีจึงเป็นเรื่องที่จำเลยเปิดเผยให้บุคคลภายนอกทราบแล้วว่าตนเป็นตัวการตั้งให้ ร.ทำสัญญาเช่าแทนจำเลยจะมาอ้างว่าตนเป็นตัวการไม่เปิดเผยชื่อ กลับแสดงตนให้ปรากฏและเข้ารับเอาสัญญาเช่าที่ ร.ตัวแทนได้ทำไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 806 หาได้ไม่ การที่จำเลยตั้ง ร.เป็นตัวแทนไปกระทำการดังกล่าวซึ่งต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงต้องทำเป็นหนังสือ เมื่อการตั้งตัวแทนของจำเลยไม่ได้ทำ เป็นหนังสือจึงไม่เป็นผลให้ใช้บังคับแก่อ.และโจทก์ได้ว่าจำเลยเป็นผู้เช่าตามสัญญาเช่าดังกล่าวโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องบังคับให้จำเลยออกไปจากตึกแถวของโจทก์ได้ เมื่อข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามคำฟ้อง คำให้การและที่คู่ความแถลงรับกันเพียงพอที่จะวินิจฉัยชี้ขาดประเด็นข้อใดหรือทั้งคดีโดยไม่ต้องฟังข้อเท็จจริงอื่นอีกแล้วศาลก็มีอำนาจที่จะสั่งงดสืบพยานได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1336/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือเตือนของนายจ้าง: รูปแบบและหลักเกณฑ์การวินิจฉัย ความชอบธรรมในการเลิกจ้าง
หนังสือเตือนของนายจ้างจะต้องมีรูปแบบอย่างใดจึงจะเป็นการสมบูรณ์ไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้ ฉะนั้นการจะวินิจฉัยว่าหนังสือใดเป็นหนังสือเตือน จึงพิจารณาโดยความคิดเห็นของบุคคลสามัญจะพึงเข้าใจ โจทก์เคยมีแบบฟอร์มใบเตือนใช้อยู่ทั่วไป ครั้นในคราวเตือนลูกจ้างมิได้ใช้แบบฟอร์มเช่นนั้น เมื่อหนังสือดังกล่าวมีข้อความเตือนลูกจ้างอย่างชัดแจ้ง ทั้งยังมีข้อความว่าต่อไปจะลงโทษหากปฏิบัติทำนองเดิมอีก ดังนี้ เป็นการว่ากล่าวและตักเตือนเป็นหนังสือโดยชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 665/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่เป็นไปตามรูปแบบ และเป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริง ศาลฎีกายก
คำฟ้องฎีกาของโจทก์ไม่มีลายมือชื่อผู้ฎีกา ผู้เรียงและผู้พิมพ์คำฟ้องฎีกา เป็นคำฟ้องฎีกาที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามฎีกา คดีไม่มีเหตุสมควรที่จะส่งสำนวนคืนศาลชั้นต้นเพื่อจัดการให้มีการลงชื่อผู้ฎีกาผู้เรียงและผู้พิมพ์ให้ถูกต้อง ศาลฎีกาจึงพิพากษายกฎีกาโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 665/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ถูกต้องตามรูปแบบ & ปัญหาข้อเท็จจริง ศาลฎีกายก
คำฟ้องฎีกาของโจทก์ไม่มีลายมือชื่อผู้ฎีกา ผู้เรียงและผู้พิมพ์คำฟ้องฎีกา เป็นคำฟ้องฎีกาที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามฎีกา คดีไม่มีเหตุสมควรที่จะส่งสำนวนคืนศาลชั้นต้นเพื่อจัดการให้มีการลงชื่อผู้ฎีกา ผู้เรียงและผู้พิมพ์ให้ถูกต้อง ศาลฎีกาจึงพิพากษายกฎีกาโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3913/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่เป็นไปตามรูปแบบ – ขาดการระบุประเด็นข้อพิพาทที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยคลาดเคลื่อน
ฎีกาของจำเลยมีใจความเพียงว่า ขอคัดค้านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ซึ่งยังวินิจฉัยคลาดเคลื่อนต่อเหตุผลและความเป็นจริงอยู่หลายประเด็น จำเลยยังไม่สามารถนำเอกสารคำให้การพยานโจทก์ มาเสนอศาลได้ ขอทำฎีกาย่อเพื่อขอขยายเวลาอีก 60 วัน ไม่ได้ระบุ ข้อเท็จจริงโดยย่อว่าประเด็นใดที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไม่ชอบหรือขัดต่อกฎหมายอย่างไร จึงไม่เป็นฎีกาที่คัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 วรรค 2 ประกอบด้วยมาตรา 225 และมาตรา 216
of 5