พบผลลัพธ์ทั้งหมด 12 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2561/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องละเมิด: เริ่มนับเมื่อรู้การละเมิดและตัวผู้ต้องใช้ค่าสินไหม ไม่ใช่เมื่อได้รับแจ้งคำวินิจฉัย
ครั้งแรกคณะกรรมการควบคุมการเช่านาประจำตำบลมีคำวินิจฉัยว่า โจทก์นำนาพิพาทไปให้บุคคลอื่นเช่าช่วงโดยไม่ได้รับความยินยอมจากจำเลย จำเลยจึงมีสิทธิบอกเลิกไม่ให้โจทก์เช่านาพิพาทได้ตามมาตรา 32(2) แห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2517 โจทก์อุทธรณ์คำวินิจฉัยดังกล่าวต่อคณะกรรมการควบคุมการเช่านาประจำจังหวัดตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา มาตรา 43 ดังนั้นการบอกเลิกการเช่านาตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการฯประจำตำบลยังไม่มีผลใช้บังคับได้ในทันที เมื่อจำเลยเข้าไปทำนาพิพาทจึงเป็นการละเมิดต่อสิทธิการเข้าทำนาพิพาทของโจทก์ อายุความจึงต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่โจทก์รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์ตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 บัญญัติไว้ อายุความมิได้นับเริ่มตั้งแต่วันที่นายอำเภอมีหนังสือแจ้งให้โจทก์ทราบถึงคำวินิจฉัยของคณะกรรมการฯ ประจำจังหวัดว่า จำเลยไม่มีสิทธิบอกเลิกการเช่านาพิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความละเมิด: เริ่มนับเมื่อรู้การละเมิดและตัวผู้ต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่แค่มารู้ว่ามีการยักยอก
การนับอายุความ 1 ปีเรื่องละเมิดตาม มาตรา448 นั้นต้องเริ่มนับแต่วันที่ผู้เสียหายทราบจากรายงานของกรรมการถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนนั้น หาใช่นับจากวันที่รู้ว่ามีผู้ยักยอกเงินของผู้เสียหายไม่
แม้ฟ้องของโจทก์ได้กล่าวหาถึงการกระทำของจำเลยทั้งจงใจและประมาทเลินเล่อก็ดีแต่ในฟ้องก็ได้กล่าวข้อเท็จจริงโดยละเอียดแล้วเป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาทั้งข้อที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาแล้ว จึงเป็นฟ้องที่ไม่เคลือบคลุม
แม้ฟ้องของโจทก์ได้กล่าวหาถึงการกระทำของจำเลยทั้งจงใจและประมาทเลินเล่อก็ดีแต่ในฟ้องก็ได้กล่าวข้อเท็จจริงโดยละเอียดแล้วเป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาทั้งข้อที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาแล้ว จึงเป็นฟ้องที่ไม่เคลือบคลุม