พบผลลัพธ์ทั้งหมด 17 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1322/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของหุ้นส่วนจำกัดและการรับผิดในหนี้จากการซื้อวัสดุก่อสร้าง
หญิงมีสามีเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด ฟ้องคดีในนามของหุ้นส่วนจำกัดนั้นได้ โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากสามี
เรื่องการฟ้องคดี ไม่จำเป็นต้องมีระบุไว้ในวัตถุประสงค์ของห้างหุ้นส่วนจำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคล
ในชั้นชี้สองสถาน ประเด็นที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้มีแต่เพียงว่า จำเลยที่ 1 หรือจำเลยร่วมเป็นผู้สั่งซื้อสินค้าของโจทก์ซึ่งจำเลยที่ 1 ก็มิได้แถลงคัดค้านแต่อย่างไร จึงต้องถือว่ายอมรับตามประเด็นที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้ ที่จำเลยที่ 1 กลับมาอุทธรณ์ว่าจำเลยร่วมเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างอาคารพิพาทโดยการเชิดให้จำเลยที่ 1 เข้าประมูลรับเหมาก่อสร้างและจำเลยที่ 2 สั่งซื้อของจากโจทก์ในนามของจำเลยร่วม จำเลยที่ 1จึงไม่ต้องรับผิดนั้นศาลอุทธรณ์ย่อมไม่วินิจฉัยให้
เรื่องการฟ้องคดี ไม่จำเป็นต้องมีระบุไว้ในวัตถุประสงค์ของห้างหุ้นส่วนจำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคล
ในชั้นชี้สองสถาน ประเด็นที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้มีแต่เพียงว่า จำเลยที่ 1 หรือจำเลยร่วมเป็นผู้สั่งซื้อสินค้าของโจทก์ซึ่งจำเลยที่ 1 ก็มิได้แถลงคัดค้านแต่อย่างไร จึงต้องถือว่ายอมรับตามประเด็นที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้ ที่จำเลยที่ 1 กลับมาอุทธรณ์ว่าจำเลยร่วมเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างอาคารพิพาทโดยการเชิดให้จำเลยที่ 1 เข้าประมูลรับเหมาก่อสร้างและจำเลยที่ 2 สั่งซื้อของจากโจทก์ในนามของจำเลยร่วม จำเลยที่ 1จึงไม่ต้องรับผิดนั้นศาลอุทธรณ์ย่อมไม่วินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1266/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเบิกเงินค่าวัสดุก่อสร้างจากผู้ว่าจ้าง จำเลยไม่มีความผิดฐานยักยอก เพราะเป็นหน้าที่ต้องจัดหาวัสดุเอง
จำเลยรับเหมาก่อสร้างบ้านพักให้ ช. และขอเบิกเงินจำนวนหนึ่งจาก ช. เพื่อนำไปซื้อวัสดุก่อสร้าง ช. ก็ทดรองจ่ายเงินจำนวนนั้นให้จำเลยแต่จำเลยไม่นำเงินไปซื้อวัสดุก่อสร้างเช่นนี้ จำเลยไม่มีความผิดฐานยักยอกเพราะจำเลยมีหน้าที่จัดหาวัสดุก่อสร้างอยู่แล้ว มิใช่รับเงินไปซื้อวัสดุก่อสร้างตามคำสั่งของ ช.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1261/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ค่าวัสดุก่อสร้างและการหักกลบลบหนี้: ศาลพิพากษาตามประเด็นที่กะไว้โดยไม่ถือว่าต้องมีใบเสร็จ
ศาลชั้นต้นกะประเด็นไว้ โจทก์จำเลยมิได้คัดค้านว่าประเด็นที่ศาลชั้นต้นกำหนดไม่ถูกต้องแต่ประการใด จึงต้องเป็นไปตามนั้น
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 326 เพียงแต่บัญญัติว่า เมื่อมีการชำระหนี้กัน ผู้ชำระหนี้มีสิทธิที่จะเรียกร้องให้ผู้รับชำระหนี้ออกใบเสร็จให้เท่านั้น หาใช่เป็นบทบังคับโดยเด็ดขาดว่า เมื่อชำระหนี้กันแล้วจะต้องออกใบเสร็จให้ทุกกรณีจึงจะรับฟังเป็นหลักฐานได้เสมอไปไม่
จำเลยให้การต่อสู้ว่า ได้ชำระค่าวัสดุที่โจทก์ฟ้องเรียกร้องให้แก่โจทก์โดยรวมอยู่กับจำนวนเงินที่ได้จ่ายให้โจทก์รับไปแล้วนั้น และจำเลยได้จ่ายเงินเกินกว่าค่าวัสดุที่โจทก์เรียกร้อง ดังนี้ จึงเป็นประเด็นที่ศาลจะพิพากษาคิดหักเงินให้จำเลยได้
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 326 เพียงแต่บัญญัติว่า เมื่อมีการชำระหนี้กัน ผู้ชำระหนี้มีสิทธิที่จะเรียกร้องให้ผู้รับชำระหนี้ออกใบเสร็จให้เท่านั้น หาใช่เป็นบทบังคับโดยเด็ดขาดว่า เมื่อชำระหนี้กันแล้วจะต้องออกใบเสร็จให้ทุกกรณีจึงจะรับฟังเป็นหลักฐานได้เสมอไปไม่
จำเลยให้การต่อสู้ว่า ได้ชำระค่าวัสดุที่โจทก์ฟ้องเรียกร้องให้แก่โจทก์โดยรวมอยู่กับจำนวนเงินที่ได้จ่ายให้โจทก์รับไปแล้วนั้น และจำเลยได้จ่ายเงินเกินกว่าค่าวัสดุที่โจทก์เรียกร้อง ดังนี้ จึงเป็นประเด็นที่ศาลจะพิพากษาคิดหักเงินให้จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1261/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ค่าวัสดุก่อสร้างและการหักกลบลบหนี้จากสัญญาจ้างทำของ
ศาลชั้นต้นกะประเด็นไว้ โจทก์จำเลยมิได้คัดค้านว่าประเด็นที่ศาลชั้นต้นกำหนด ไม่ถูกต้องแต่ประการใด จึงต้องเป็นไปตามนั้น
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 326 เพียงแต่บัญญัติว่าเมื่อมีการชำระหนี้กัน ผู้ชำระหนี้มีสิทธิที่จะเรียกร้องให้ผู้รับชำระหนี้ออกใบเสร็จให้เท่านั้น หาใช่เป็นบทบังคับโดยเด็ดขาดว่า เมื่อชำระหนี้กันแล้วจะต้องออกใบเสร็จให้ทุกกรณีจึงจะรับฟังเป็นหลักฐานได้เสมอไปไม่
จำเลยให้การต่อสู้ว่า ได้ชำระค่าวัสดุที่โจทก์ฟ้องเรียกร้องให้แก่โจทก์โดยรวมอยู่กับจำนวนเงินที่ได้จ่ายให้โจทก์รับไปแล้วนั้น และจำเลยได้จ่ายเงินเกินกว่าค่าวัสดุที่โจทก์เรียกร้อง ดังนี้ จึงเป็นประเด็นที่ศาลจะพิพากษาคิดหักเงินให้จำเลยได้
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 326 เพียงแต่บัญญัติว่าเมื่อมีการชำระหนี้กัน ผู้ชำระหนี้มีสิทธิที่จะเรียกร้องให้ผู้รับชำระหนี้ออกใบเสร็จให้เท่านั้น หาใช่เป็นบทบังคับโดยเด็ดขาดว่า เมื่อชำระหนี้กันแล้วจะต้องออกใบเสร็จให้ทุกกรณีจึงจะรับฟังเป็นหลักฐานได้เสมอไปไม่
จำเลยให้การต่อสู้ว่า ได้ชำระค่าวัสดุที่โจทก์ฟ้องเรียกร้องให้แก่โจทก์โดยรวมอยู่กับจำนวนเงินที่ได้จ่ายให้โจทก์รับไปแล้วนั้น และจำเลยได้จ่ายเงินเกินกว่าค่าวัสดุที่โจทก์เรียกร้อง ดังนี้ จึงเป็นประเด็นที่ศาลจะพิพากษาคิดหักเงินให้จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 272/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องหนี้ซื้อเชื่อ: การซื้อวัสดุก่อสร้างของผู้รับเหมาไม่ใช่การกระทำเพื่ออุตสาหกรรม
บริษัทผู้รับเหมาทำการก่อสร้างซื้อเชื่อสิ่งของไปใช้ในการก่อสร้างในที่ทั่วๆ ไปสุดแต่บริษัทจะรับเหมาทำการก่อสร้างได้ นั้น มิใช่เป็นการที่ได้ทำเพื่ออุตสาหกรรมของบริษัทผู้เป็นลูกหนี้ เพราะบริษัทนั้นหาได้ซื้อมาเพื่อประดิษฐ์ผลิตออกจำหน่ายขายไปไม่ แต่เป็นการจัดหาสัมภาระมาใช้ทำการงานเพื่อได้สินจ้างในผลสำเร็จแห่งการที่รับเหมาก่อสร้างนั้น อายุความเรียกร้องจึงมีกำหนดเพียง 2 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1805-1806/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงเจตนาเชิดตัวแทนก่อหนี้: ผู้รับเหมาต้องรับผิดชอบหนี้ที่ตัวแทนซื้อวัสดุก่อสร้าง
การที่จำเลยที่ 1 เป็นผู้ทำสัญญารับเหมาก่อสร้างสถานที่แห่งหนึ่ง แม้จะจ้างเหมาให้จำเลยที่ 2 สร้างอีกต่อหนึ่งก็ตาม แต่ระหว่างก่อสร้างได้ปักป้ายว่าตนเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง และบางครั้งก็ไปตรวจงานเองหรือมอบให้คนอื่นไปตรวจแทน การส่งมอบงานและรับเงินแต่ละงวดจำเลยที่ 1 ก็ทำเองโดยตรง เช่นนี้ ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้เชิดจำเลยที่ 2 ออกแสดงเป็นตัวแทนแล้ว จึงต้องรับผิดในหนี้ที่จำเลยที่ 2 ไปซื้อเชื่อวัสดุก่อสร้างต่อบุคคลภายนอกด้วย
สัญญาซื้อขายสังหาริมทรัพย์เป็นเงินเกินกว่าห้าร้อยบาทเมื่อผู้ซื้อได้รับของไปแล้ว ย่อมฟ้องร้องบังคับคดีกันได้โดยไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ฉะนั้น การตั้งตัวแทนก็ไม่จำต้องทำเป็นหนังสือเช่นกัน
สัญญาซื้อขายสังหาริมทรัพย์เป็นเงินเกินกว่าห้าร้อยบาทเมื่อผู้ซื้อได้รับของไปแล้ว ย่อมฟ้องร้องบังคับคดีกันได้โดยไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ฉะนั้น การตั้งตัวแทนก็ไม่จำต้องทำเป็นหนังสือเช่นกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2296/2565
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อวัสดุก่อสร้างโดยจำเลยในฐานะตัวแทนของโจทก์ และการชำระหนี้ค่าวัสดุที่จำเลยต้องรับผิด
สัญญาว่าจ้างก่อสร้างอาคารโภชนาการกำหนดให้โจทก์ซึ่งเป็นผู้รับจ้างเป็นผู้จัดหาวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้าง แม้จำเลยซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างเป็นผู้จัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้างตามฟ้องเพื่อติดตั้งในอาคารโภชนาการ และเป็นผู้ชำระราคาวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้างดังกล่าวให้แก่ผู้ขาย แต่เป็นการทดรองจ่ายแทนโจทก์ จำเลยจึงเป็นเพียงตัวแทนของโจทก์ในการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้างแทนโจทก์ซึ่งเป็นตัวการ วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้างที่จำเลยจัดซื้อมาจึงเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ จำเลยซึ่งเป็นตัวแทนคงมีสิทธิเรียกร้องให้โจทก์ซึ่งเป็นตัวการจ่ายเงินทดรองคืนให้แก่จำเลยตาม ป.พ.พ. มาตรา 816 วรรคหนึ่ง