คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ศาลแรงงานกลาง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 14 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2078/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจพิจารณาคดีแรงงาน: การวินิจฉัยอำนาจของศาลแรงงานกลางต้องเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย
เมื่อมีประเด็นข้อพิพาทในเรื่องอำนาจพิจารณาของศาลแรงงานกลางและผู้พิพากษาศาลแรงงานกลางมีคำสั่งให้ส่งสำนวนไปให้อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลางเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด แสดงว่าเกิดปัญหาแล้วว่าคดีอยู่ในอำนาจของศาลแรงงานกลางหรือไม่ ต้องตามบทบัญญัติของพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522 มาตรา 9 วรรคท้าย ที่บัญญัติให้อำนาจแก่อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลางเท่านั้นเป็นผู้มีอำนาจวินิจฉัย ผู้พิพากษาศาลแรงงานกลางไม่มีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาด การที่ศาลแรงงานกลางได้พิจารณาพิพากษาคดีไปก่อนมีคำวินิจฉัยชี้ขาดของอธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลางจึงเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาจึงต้องพิพากษายกคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง ให้ศาลแรงงานกลางส่งสำนวนให้อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลางวินิจฉัยเสียก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2508/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุม-อายุความละเมิด: ศาลฎีกายกคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง ให้พิจารณาพยานหลักฐานใหม่
การกระทำอย่างเดียวกันอาจเป็นทั้งละเมิดและผิดสัญญาด้วยในขณะเดียวกันได้ โจทก์บรรยายฟ้องเป็นใจความโดยละเอียดแล้วว่าในฐานะที่จำเลยเป็นลูกจ้างโจทก์ จำเลยมีหน้าที่ตามข้อบังคับหรือระเบียบเกี่ยวกับการทำงานประการใด กระทำหรืองดเว้นการกระทำประการใด ผลเสียหายอันเกิดแต่การนั้นเป็นประการใดเป็นคำฟ้องที่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหา ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาพร้อมด้วยคำขอบังคับครบถ้วนตามความต้องการแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสอง แล้วส่วนการกระทำของจำเลยเกิดแต่มูลหนี้อันใดจะปรับด้วยมูลหนี้สัญญาหรือมูลหนี้ละเมิดเป็นปัญหาข้อกฎหมายสุดแต่ศาลจะวินิจฉัยไปตามข้อเท็จจริงที่ได้ความ การฟ้องด้วยมูลหนี้สองประการมาในคำฟ้องหาเป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่
ศาลแรงงานกลางรับฟังคำให้การของจำเลยในสำนวนการสอบสวนสามฉบับที่โจทก์ส่งศาลโดยสั่งงดสืบพยานไม่รับฟังพยานหลักฐานใด ๆ ในชั้นพิจารณาที่คู่ความจะนำสืบต่อไปนั้นหาชอบด้วยกระบวนพิจารณาไม่ คดีจึงปรากฏเหตุที่มิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายวิธีพิจารณาความว่าด้วยการพิจารณาพิพากษา มีเหตุสมควรที่จะย้อนสำนวนไปให้ศาลแรงงานกลางพิจารณาพิพากษาใหม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 251-253/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลแรงงานกลางในคดีจ้างงานต่างประเทศ และการจ้างงานไม่มีกำหนดระยะเวลา
โจทก์เป็นลูกจ้างของจำเลยทำงานให้แก่จำเลยในประเทศไทยมูลคดีที่โจทก์ฟ้องเรียกค่าจ้างค้างจ้าย ค่าทำงานล่วงเวลาสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ค่าชดเชย และค่าเสียหายในการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นในประเทศไทยแม้จำเลยจะมิได้มีภูมิลำเนาในประเทศไทย โจทก์ก็ชอบที่จะเสนอคดีต่อศาลแรงงานกลางได้ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522มาตรา 33.
แม้อายุสัญญาขุดเจาะน้ำมันระหว่างจำเลยกับบริษัท ท. จะกำหนดเวลาไว้แน่นอน แต่โจทก์กับจำเลยมิได้ตกลงจ้างกันเพียงหมดอายุสัญญาระหว่างจำเลยกับบริษัท ท.คราวใดคาวหนึ่ง การจ้างระหว่างโจทก์กับจำเลยจึงหาใช่การจ้างที่มีกำหนดระยะเวลาแน่นอนไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1253/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ศาลฎีกาตัดสินให้ยกคำพิพากษาศาลแรงงานกลางที่วินิจฉัยขัดกับคำพิพากษาเดิม และขัดต่อพยานหลักฐานเรื่องการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม
ในกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานพิพากษายกคำพิพากษาศาลแรงงานกลางให้พิจารณาพิพากษาใหม่ ในชั้นพิจารณาใหม่นี้ ศาลแรงงานกลางจะยกประเด็นที่ศาลฎีกาได้วินิจฉัยไว้แล้วว่า โจทก์ฟ้องกล่าวหาว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่เป็นธรรม ซึ่งเป็นอันยุติตามคำพิพากษาศาลฎีกาขึ้นวินิจฉัยอีกไม่ได้ ศาลแรงงานกลางยกปัญหาดังกล่าวขึ้นวินิจฉัย จึงเป็นการไม่ชอบ
อุทธรณ์ว่าศาลวินิจฉัยคดีขัดต่อพยานหลักฐานในสำนวนเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมาย
of 2