คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สถานการณ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 23 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4063/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพรากเด็กต้องพิจารณาจากสถานการณ์และการดูแลเด็ก หากเป็นการสงเคราะห์ให้ที่อยู่กิน และไม่มีเจตนาพรากเด็กจากผู้ดูแลย่อมไม่ถือว่าเป็นการพรากเด็ก
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยพรากเด็กไปจากบิดามารดาและ จ.ผู้ดูแลโดยไม่มีเหตุอันควร เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าเด็กพลัดมารดา การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการพรากเด็กจากบิดามารดา
ส่วน จ. ผู้ดูแลผู้ไปพบเด็ก มีอาชีพขับขี่รถสามล้อรับจ้าง อาศัยอยู่กับอาในกระท่อมหลังจวนผู้ว่าราชการจังหวัดบุตรภริยาอยู่ที่จังหวัดอื่นจ. มิได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือแจ้งให้บิดามารดาของเด็กทราบถึงการที่เด็กอยู่ในความดูแลของตน ทั้งความเป็นอยู่ของ จ.ก็ไม่อยู่ในฐานะที่จะรับเลี้ยงดูเด็กได้ การที่ จ.พาเด็กมาอยู่ด้วยจึงเป็นทำนองสงเคราะห์ให้ที่อยู่กินเท่านั้น ดังนั้น การที่ จ. มอบเด็กให้แก่จำเลยไป ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยพรากเด็กไปจาก จ. ผู้ดูแล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1776/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สำคัญผิดในสถานการณ์ป้องกันตัว: การกระทำเกินสมควรแก่เหตุทำให้ขาดความชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยใช้มีดดายหญ้าฟันผู้เสียหายโดยสำคัญผิดคิดว่าผู้เสียหายเป็นคนร้าย เช่นนี้ การกระทำของจำเลยหาเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายเสมอไปไม่
เมื่อคดีฟังข้อเท็จจริงได้ว่า จำเลยกระทำเพื่อป้องกันเกินสมควรแก่เหตุการกระทำของจำเลยก็หาเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 831/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สำคัญผิดในสถานการณ์ป้องกัน: การกระทำเกินกว่าเหตุเพื่อป้องกันทรัพย์สิน
เมื่อข้อเท็จจริงที่คู่ความนำสืบรับกันว่าบริเวณหมู่บ้านจำเลย มีโจรผู้ร้ายชุกชุม จำเลยเคยถูกคนร้ายลักเป็ดและลักเรือไปแล้ว 4 ครั้ง จำเลยจึงได้ล้อมรั้วชั้นนอกอีกชั้นหนึ่ง เมื่อก่อนที่จะเกิดเหตุคดีนี้เพียงเดือนเดียว คืนเกิดเหตุจำเลยจอดเรือไว้ที่ท่าทะเลสาบ 2 ลำและมีเป็ดอีก 800 ตัว ผู้เสียหายและพวกได้เดินผ่านประตูเข้าไปในรั้วบ้านชั้นนอกของจำเลยเมื่อ 01.00 นาฬิกา ซึ่งเป็นเวลาดึกดื่นโดยมิได้บอกกล่าวขออนุญาตเสียก่อน เมื่อจำเลยร้องถามว่าใคร ผู้เสียหายก็ร้องตอบแต่เพียงว่า ผม ไม่บอกชื่อให้ชัดเจน จำเลย จึงยิงผู้เสียหายเพราะสำคัญผิดว่าเป็นคนร้าย แต่การที่จำเลยยิงผู้เสียหายไปในพฤติการณ์เช่นนี้ ย่อมเป็นการกระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 69

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 257/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเมื่อถูกทำร้าย: ขนาดรูปร่างและสถานการณ์เป็นเหตุให้การกระทำไม่ผิด
จำเลยเป็นคนขาเป๋เดินไม่ถนัดร่างกายเตี้ยสูงเพียง 147 เซนติเมตรผู้ตายเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ การที่ผู้ตายรูปร่างสูงใหญ่กว่าตรงเข้ามาจะฟันแล้วหกล้มจำเลยจึงฟันผู้ตายหลายที เพราะกลัวผู้ตายจะฟันเอาดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1363/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงมทรัพย์สินที่ตกหล่น: ลักทรัพย์หรือยักยอกทรัพย์สินหาย พิจารณาจากเจตนาและสถานการณ์
ทรัพย์สินหายเป็นเรื่องที่ทรัพย์หลุดพ้น ไปจากความยึดถือของเจ้าของหรือผู้ครอบครองโดยมิได้ตั้งใจ ไม่ใช่เรื่องสละการครอบครอง ผู้ใดเก็บเอาทรัพย์นั้นไป จะเป็นลักทรัพย์หรือยักยอกทรัพย์สินหาย ต้องพิจารณาตามพฤติการณ์เป็นราย ๆ ไป คือ ถ้าเก็บเอาไปโดยรู้หรือควรรู้ว่าทรัพย์นั้นเจ้าของกำลังติดตามหรือจะติดตามเพื่อเอาคืนเป็นลักทรัพย์ ถ้าไม่รู้หรือไม่มีเหตุอันควรรู้เป็นยักยอก ทรัพย์สินหาย
รถทหารคว่ำทำให้ปืนทหารตกน้ำ 1 กระบอก ทหารงมหา 2 ครั้งไม่พบ จึงไปแจ้งความที่อำเภอ ต่อมาค่ำวันเดียวกันนั้นเอง จำเลยไปจมเอาปืนนั้นมาขายเสียแสดงว่าจำเลยรู้หรือควรรู้ว่ารถทหารคว่ำปืนจมน้ำอยู่ แล้วถือโอกาสตอนปลอดผู้คนไปงมเอาปืนที่อยู่ในระหว่างเจ้าของกำลังติดตามเพื่อเอาคืน จึงผิดฐานลักทรัพย์
(ประชมใหญ่ครั้งที่ 25/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 946/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ: การแทงตอบโต้เมื่อถูกทำร้ายและสถานการณ์ที่จำเลยต้องเผชิญ
ผู้ตายเมาสุราอาละวาดถือมีดไล่แทงผู้มีชื่อๆ หนีแอบข้างหลังจำเลยๆ ร้องขอห้าม ผู้ตายไม่ฟังจึงกอดคอจำเลยและแทงจำเลยถูกชายโครง จำเลยจึงแทงผู้ตายรวม 11 แผล ดังนี้การกระทำของจำเลยเป็นลักษณะของการป้องกัน แต่กระทำเกินกว่าเหตุเข้าเกณฑ์ตาม มาตรา 251,53

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1413/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตนเกินกว่าเหตุ: ศาลพิจารณาจากสถานการณ์ถูกทำร้ายรุมทำร้าย ไม่มีทางหลบหนี
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 251, 53 โจทก์พอใจมิได้อุทธรณ์หรือแก้อุทธรณ์แต่อย่างใด จำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโดยเห็นว่าเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ดังนี้โจทก์จะฎีกาว่าการกระทำของจำเลยไม่ใช่เป็นการป้องกันเลยไม่ได้ คงฎีกาได้แต่เพียงว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุเท่านั้น
จำเลยถูกคน 2 คนใช้ไม้กลุ้มรุมทำร้าย และคนหนึ่งกอดจำเลยไว้ อีกคนหนึ่งใช้ไม้ตีเช่นนี้จำเลยใช้มีดพกปลายแหลมยาวเกือบคืบที่แย่งมาได้จากคน 2 คนนั้นแทงคนทั้ง 2 ไป ย่อมเป็นการแสดงว่าจำเลยจะแทงเพื่อให้รอดพ้นจากการถูกกระทำร้ายเท่านั้น จึงเป็นการป้องกันตนพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 219/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตนเพื่อชีวิตในสถานการณ์ที่เข้าใจผิดว่าผู้ตายเป็นโจร การกระทำไม่เกินสมควรแก่เหตุ
พรึพิการที่ถือว่าเปนการป้องกันชีวิตไม่เกินสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 219/2486

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันตน/ทรัพย์สิน: การยิงเพื่อป้องกันชีวิตในสถานการณ์เข้าใจผิด ย่อมสมควรแก่เหตุ
จำเลยไปกับพี่ชายผู้ตายซุ่มรอจับคนร้ายที่ลักโคของจำเลยไปแล้วเอามาผูกทิ้งไว้ในป่า ก่อนค่ำผู้ตายได้มาพบจำเลยและพี่ชายผู้ตายครั้งหนึ่งแล้ว และว่าผู้ตายจะไม่กลับมาที่ซุ่มนี้อีก เพราะถ้ามืดค่ำแล้วเกรงว่าจะเข้าใจผิดว่าเป็นคนร้าย ครั้นพอเวลา 19.00 นาฬิกา ผู้ตายกับ ส. ได้ไปรับจำเลยและพี่ชายของผู้ตายกลับบ้านเพราะเห็นว่าฝนตกผู้ตายเดินตรงไปยังที่จำเลยและพี่ชายผู้ตายคนเดียวห่าง 1 วา และเปิดไฟฉายส่องเต็มหน้าจำเลยจำเลยทักว่าใคร ไม่มีเสียงตอบ จำเลยจึงยิงปืนไป 1 นัด ถูกผู้ตายถึงแก่ความตายทันที การกระทำของจำเลยไม่เป็นการกระทำเพื่อป้องกันทรัพย์ของตน แต่เนื่องด้วยที่เกิดเหตุเป็นที่ป่าและเป็นเวลาค่ำคืนทั้งฝนตก ซึ่งไม่น่าจะมีใครไปมานอกจากจะเป็นคนร้ายที่จะมาเอาโคย่อมจะทำให้จำเลยเข้าใจว่าผู้ตายเป็นคนร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ตายได้ยืนยันแล้วว่าจะไม่กลับมาอีก เมื่อจำเลยได้ยิงผู้ตายไปเช่นนี้ ก็นับว่าเป็นการป้องกันชีวิตได้และเวลานั้นจำเลยก็ถูกไฟฉายเต็มหน้าไม่เห็นอะไร ไม่มีทางทราบได้ว่าคนที่จำเลยคิดว่าเป็นคนร้ายมีอาวุธหรือไม่และทั้งอยู่ในระยะใกล้กัน ถ้าคนร้ายมีอาวุธก็อาจทำร้ายจำเลยได้ทันที การกระทำของจำเลยจึงไม่เกินสมควรแก่เหตุไม่เป็นความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 702/2485

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตนเอง: การยิงผู้บุกรุกที่มิได้ประทุษร้ายต่อผู้อื่น
การที่จำเลยยิงผู้ที่ลอบเข้าไปแอบอยู่นอกมุ้งที่ภรรยาจำเลยนอนในร้านของผู้อื่นในงานออกร้าน. โดยผู้นั้นมิได้ทำอะไรแก่ภรรยาจำเลยดังนี้. จะถือว่ากระทำโดยป้องกันมิได้.
of 3