พบผลลัพธ์ทั้งหมด 408 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2581/2548
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้สนับสนุนการกระทำความผิดยาเสพติด: การกระทำที่ช่วยเหลือเพื่อให้เกิดความผิด
จำเลยที่ 1 มีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ครอบครองเพื่อจำหน่าย จำเลยที่ 2 เป็นมารดาของจำเลยที่ 1 แต่มิได้อาศัยในบ้านที่เกิดเหตุร่วมกับจำเลยที่ 1 วันเกิดเหตุจำเลยที่ 2 ร้องตะโกนบอกให้จำเลยที่ 1 ซึ่งอยู่บนบ้านชั้นสอง ทราบว่ามีตำรวจมาและร่วมกันปิดประตูบ้านบนชั้นสองเท่านั้น พยานหลักฐานโจทก์ยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะ รับฟังว่า จำเลยที่ 2 เป็นตัวการร่วมกระทำความผิดกับจำเลยที่ 1 ฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่าย แต่การที่จำเลยที่ 2 ร้องตะโกนบอกให้จำเลยที่ 1 ทราบว่ามีตำรวจมาและร่วมกันปิดประตูบ้านบนชั้นสอง แสดงให้เห็นว่าจำเลยที่ 2 ทราบดีว่าจำเลยที่ 1 บุตรชายของจำเลยที่ 2 มีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่าย การกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ 1 ในการกระทำความผิด ซึ่งเป็นการสนับสนุนให้จำเลยที่ 1 มีเมทแอมฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยที่ 2 เป็นเพียงผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดดังกล่าว ศาลฎีกาก็พิพากษาลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนตามที่พิจารณาได้ความได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคหก
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยที่ 2 เป็นเพียงผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดดังกล่าว ศาลฎีกาก็พิพากษาลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนตามที่พิจารณาได้ความได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคหก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 905/2547
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยที่ 2 สนับสนุนจำหน่ายยาเสพติด: ไม่เป็นตัวการร่วม แต่เป็นผู้ให้ความสะดวก
พฤติการณ์จำเลยที่ 2 ที่พาสิบตำรวจโท อ. และสายลับไปซื้อเมทแอมเฟตามีนจากจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 1 เป็นผู้เจรจาและต่อรองราคากับสิบตำรวจโท อ. และสายลับด้วยตนเอง โดยจำเลยที่ 2 ไม่ได้มีส่วนร่วมเจรจาด้วย เมื่อตกลงซื้อขายกันได้แล้ว จำเลยที่ 1 เป็นผู้นำเมทแอมเฟตามีนที่ซุกซ่อนไว้มามอบให้สิบตำรวจโท อ. และสายลับ แสดงให้เห็นว่าจำเลยที่ 2 ไม่มีอำนาจตัดสินใจในการซื้อขายเมทแอมเฟตามีนดังกล่าว การตัดสินใจซื้อขายและตกลงราคาขึ้นอยู่กับจำเลยที่ 1 เท่านั้น ชั้นจับกุมเจ้าพนักงานตำรวจค้นพบธนบัตรที่ใช้ล่อซื้อฉบับละ 500 บาท เพียงฉบับเดียวที่จำเลยที่ 2 ซึ่งจำเลยที่ 2 ก็ยอมรับในทันทีว่าเป็นเงินที่จำเลยที่ 2 ให้เป็ฯค่านายหน้าที่พาคนมาซื้อเมทแอมเฟตามีน การกระทำของจำเลยที่ 2 ดังกล่าวยังไม่พอฟังว่าเป็นตัวการกระทำความผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 หากแต่เป็นเพียงการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่จำเลยที่ 1 กระทำความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จึงเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดตาม ป.อ. มาตรา 86
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6591/2547
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในการสนับสนุนการฆ่า: การกระทำเกินกว่าผู้สนับสนุน กลายเป็นตัวการ
ก่อนเกิดเหตุจำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมดื่มสุราด้วยกันตั้งแต่ก่อนหนึ่งทุ่มครึ่งจนกระทั่งเวลาเลยเที่ยงคืนแล้ว จำเลยที่ 1 เล่าเรื่องที่ผู้ตายด่าว่าเกี่ยวกับการไม่เคร่งครัดต่อการปฏิบัติหน้าที่ของจำเลยที่ 1 ให้จำเลยที่ 2 ฟัง ในภาวะเช่นนั้นจำเลยที่ 2 ย่อมทราบอยู่แก่ใจดีว่าจำเลยที่ 1 มีความเคียดแค้นต่อผู้ตาย แทนที่จำเลยที่ 2 จะห้ามปรามหรือปลอบประโลมใจจำเลยที่ 1 เพื่อคลายความโกรธแต่กลับไปหยิบขวานขนาดใหญ่ที่พอจะทำร้ายผู้ตายให้ถึงแก่ความตายได้มาส่งให้ และเมื่อจำเลยที่ 1 รับขวานมาแล้วได้ลุกเดินตรงไปยังที่ที่ผู้ตายนอนอยู่ จำเลยที่ 2 ย่อมรู้อยู่แก่ใจดีว่าจำเลยที่ 1 จะต้องไปทำร้ายผู้ตายแน่ แต่จำเลยที่ 2 ก็ยังได้เดินตามจำเลยที่ 1 ไป หลังจากจำเลยที่ 1 ได้ใช้ขวานฟันทำร้ายผู้ตายจนถึงแก่ความตาย จำเลยที่ 2 ก็ยังยืนให้คำปรึกษาแก่จำเลยที่ 1 ถึงการที่จะดำเนินการเกี่ยวกับศพผู้ตายต่อไป เมื่อตกลงกันได้ว่าจะต้องทำการซ่อนเร้นศพโดยการนำไปทิ้งบ่อน้ำที่ใกล้เคียง ขณะที่จำเลยที่ 1 แบกศพผู้ตายไปยังบ่อ ศพได้หล่นจากบ่า จำเลยที่ 2 ยังได้นำเสื้อกันฝนมาคลุมศพช่วยจำเลยที่ 1 ในการนำศพไปซ่อนในบ่อน้ำ พร้อมกับนำขวานที่ใช้เป็นอาวุธไปทิ้งลงบ่อด้วย ดังนี้ แม้จะได้ความว่าจำเลยที่ 2 จะมิใช่ผู้ลงมือฟันทำร้ายผู้ตายโดยตรง แต่พฤติการณ์ส่อแสดงให้เห็นว่าจำเลยที่ 2 ก็มีความประสงค์ต่อความตายของผู้ตายด้วย ประกอบกับทุกขั้นตอนของการกระทำของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 จะอยู่ร่วมด้วยในลักษณะที่จะช่วยเหลือจำเลยที่ 1 ได้ทุกเมื่อหากมีเหตุขัดข้องเกิดขึ้น การกระทำเช่นนี้จึงเป็นการเกินเลยของการเป็นผู้สนับสนุนและถึงขั้นเป็นตัวการในการกระทำความผิดแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4975/2547
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสนับสนุน vs. ตัวการในคดียาเสพติด และการพิสูจน์ความผิดของจำเลยร่วม
ปัญหาว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นเพียงการสนับสนุนการกระทำความผิดหรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จะไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลล่างทั้งสอง จำเลยที่ 1 ก็ยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นฎีกาได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5874/2546 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสนับสนุนความผิดพยายามฆ่า: จำเลยต้องมีส่วนร่วมก่อนหรือขณะกระทำความผิด จึงจะมีความผิดฐานสนับสนุน
โจทก์ร่วมกับจำเลยและ ฉ. พวกจำเลยไม่เคยรู้จักและไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน โจทก์ร่วมพบกับจำเลยและ ฉ. ในที่เกิดเหตุโดยบังเอิญ การที่โจทก์ร่วมเดินเข้าไปหากลุ่มของจำเลยกับ ฉ. แล้วถูก ฉ. ใช้อาวุธปืนยิงถูกบริเวณช่องท้อง 1 นัด เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในทันทีทันใด การที่ ฉ. ใช้อาวุธปืนยิงโจทก์ร่วมจึงเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า จำเลยหาได้ร่วมวางแผนหรือสมคบคิดกับ ฉ. ด้วยไม่ แม้ภายหลังที่ ฉ. ใช้อาวุธปืนยิงโจทก์ร่วมแล้ว ฉ. กับจำเลยจะวิ่งออกไปจากที่เกิดเหตุด้วยกัน แล้ว ฉ. นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่จำเลยขับหลบหนีไปก็เป็นเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นภายหลังที่ ฉ. ใช้อาวุธปืนยิงพยายามฆ่าโจทก์ร่วมแล้ว การกระทำของจำเลยมิได้เกิดขึ้นก่อนหรือขณะ ฉ. ใช้อาวุธปืนยิงโจทก์ร่วม จึงไม่อาจถือว่าเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกก่อนหรือขณะที่ ฉ. ใช้อาวุธปืนยิง โจทก์ร่วมแต่อย่างใด การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานสนับสนุนผู้อื่นกระทำความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5874/2546
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสนับสนุนการกระทำผิดฐานพยายามฆ่า: จำเลยไม่ได้มีส่วนร่วมวางแผนหรือช่วยเหลือขณะเกิดเหตุ
จำเลยและ ฉ. พวกจำเลยซึ่งใช้อาวุธปืนยิงโจทก์ร่วมไม่เคยรู้จักและไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับโจทก์ร่วมมาก่อน การที่โจทก์ร่วมเดินเข้าไปหากลุ่มของจำเลยกับ ฉ. แล้วถูก ฉ. ใช้อาวุธปืนยิงถูกบริเวณช่องท้อง 1 นัด เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในทันทีทันใดโดยจำเลยไม่อาจคาดคิด การที่ ฉ. ใช้อาวุธปืนยิงโจทก์ร่วมจึงเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า จำเลยมิได้ร่วมวางแผนหรือสมคบคิดกับ ฉ. ด้วย แม้ ฉ. กับจำเลยจะวิ่งออกไปจากที่เกิดเหตุด้วยกันแล้ว ฉ. นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่จำเลยขับหลบหนีไปก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายหลัง จึงไม่อาจถือได้ว่าเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกก่อนหรือขณะ ฉ. ใช้อาวุธปืนยิงโจทก์ร่วม จึงไม่เป็นความผิดฐานสนับสนุนผู้อื่นกระทำความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4978/2546 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและการสนับสนุน หากจำเลยหลักพ้นผิด ผู้สนับสนุนก็ต้องพ้นผิดด้วย
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดดังกล่าวของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 1 โจทก์ฎีกา เมื่อศาลฎีกาฟังว่าจำเลยที่ 1 ไม่มีความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำเลยที่ 2 ย่อมไม่อาจกระทำความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดดังกล่าวได้ ซึ่งเป็นเหตุในส่วนลักษณะคดี ศาลฎีกาย่อมพิพากษาไปถึงจำเลยที่ 2 ซึ่งมิได้อุทธรณ์ฎีกาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3962/2546
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดสนับสนุนการฉ้อโกงและใช้เอกสารปลอม: พยานหลักฐานรับสารภาพและพฤติการณ์สนับสนุน
จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ไปส่งจำเลยที่ 2 และที่ 3 ที่บ้านผู้เสียหายเพื่อให้จำเลยที่ 2ที่ 3 กู้เงินผู้เสียหายโดยใช้หนังสือรับรองการทำประโยชน์ สำเนาทะเบียนบ้าน และบัตรประจำตัวประชาชนปลอมเป็นหลักฐานการขอกู้เงิน และไปจอดรถรออยู่ริมบึง ซึ่งพันตำรวจตรี บ. ผู้ร่วมจับกุมจำเลยทั้งสามได้วางกำลังเจ้าพนักงานตำรวจไว้รอบบึงเจ้าพนักงานตำรวจได้วิทยุแจ้งเหตุการณ์ให้ทราบ ตั้งแต่ขณะจำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ไปส่งจำเลยที่ 2 และที่ 3 แล้วไปจอดรถรออยู่ระหว่างจับกุมจำเลยที่ 2 และที่ 3 จำเลยที่ 1รู้ตัวจึงขับรถยนต์หลบหนี เจ้าพนักงานตำรวจวิทยุสกัดจับกุมไว้ได้ ในชั้นสอบสวนจำเลยที่ 1 รับว่าได้ร่วมกับจำเลยที่ 2 และที่ 3 ในการปลอมเอกสารนำเอกสารที่ช่วยกันทำปลอมขึ้นไปถ่ายสำเนาหลายครั้งและขับรถยนต์ไปส่งจำเลยที่ 2 และที่ 3 ตั้งแต่วันแรกและไปนอนค้างคืนที่โรงแรมในอำเภอ และวันรุ่งขึ้นก็ยังขับรถยนต์ไปส่งจำเลยที่ 2 และที่ 3 ที่บ้านผู้เสียหายอีก และขณะถูกจับกุมเจ้าพนักงานตำรวจค้นในรถก็พบกระเป๋าเสื้อผ้าของจำเลยที่ 2 และที่ 3 พยานหลักฐานโจทก์จึงปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยที่ 1เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของจำเลยที่ 2 และที่ 3 ฐานร่วมกันพยายามฉ้อโกงและฐานร่วมกันใช้เอกสารราชการและเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการปลอม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3378/2546
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสนับสนุนการปล้นทรัพย์: พยานหลักฐานจากคำซัดทอดผู้ร่วมกระทำผิดและการรับสารภาพของผู้ต้องหา
แม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานเห็นจำเลยที่ 5 จัดหามีดของกลางมาใช้ปล้นทรัพย์แต่โจทก์มีคำให้การซัดทอดของจำเลยที่ 4 ที่ให้การต่อพนักงานสอบสวนว่าจำเลยที่ 5เป็นผู้จัดหาอาวุธมีดมาใช้ในการปล้นทรัพย์ ซึ่งแม้คำให้การซัดทอดของจำเลยที่ 4 จะเป็นคำซัดทอดของผู้ร่วมกระทำผิด แต่คำซัดทอดดังกล่าวมิได้เป็นเรื่องการปัดความผิดของจำเลยที่ 4 ไปยังผู้อื่น แต่เป็นการให้การถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และคำให้การรับสารภาพของจำเลยที่ 5 นั้นก็เป็นถ้อยคำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อตนเอง โดยให้การในรายละเอียดถึงเหตุการณ์การกระทำผิดตั้งแต่วางแผนกระทำผิดจนกระทั่งหลังกระทำผิดแล้วตกลงแบ่งปันทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิด เชื่อว่าจำเลยที่ 5 ให้การตามความจริงด้วยความสมัครใจจึงรับฟังได้ว่าจำเลยที่ 5 ได้จัดหามีดมาใช้ในการปล้นทรัพย์คดีนี้อันเป็นการช่วยเหลือและให้ความสะดวกในการกระทำความผิด จึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดฐานปล้นทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 136/2546
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานสนับสนุนการตั้งโรงงานแปรรูปไม้เถื่อน และการมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครอง โดยมีเจตนา
ความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม่โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดต่อเนื่องอยู่ตลอดเวลาตราบเท่าที่โรงงานแปรรูปไม้นั้นยังตั้งอยู่ และผู้ตั้งโรงงานยังไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ การช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่ผู้ตั้งโรงงานในช่วงเวลาดังกล่าวจึงเป็นการสนับสนุนการกระทำความผิด เมื่อจำเลยไปช่วยก่อสร้างและรับจ้างทำงานในโรงงานดังกล่าวแสดงว่าจำเลยทำงานมานานประกอบกับพฤติการณ์ที่จำเลยหลบหนีจึงฟังได้ว่าจำเลยรู้ว่าโรงงานนั้นตั้งขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย การที่จำเลยทำงานเป็นลูกจ้างในโรงงานโดยทำไม้วงกบประตูให้แก่ ค. นายจ้างที่จะนำไปสร้างบ้านย่อมเป็นการช่วยเหลือ ค. อันเป็นการสนับสนุนการกระทำความผิดของ ค. แล้วและเมื่อจำเลยเป็นผู้แปรรูปไม้สักของกลาง จำเลยย่อมเป็นผู้ดูแลรักษาไม้นั้นเพื่อมอบให้แก่ ค. จำเลยจึงมีความผิดฐานมีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองอีกกระทงหนึ่ง