พบผลลัพธ์ทั้งหมด 23 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 437/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ไม้แปรรูป vs. เครื่องใช้: การต่อเรือยังไม่สำเร็จรูปไม่ถือเป็นไม้แปรรูป
แม้เรือของกลางจะใช้ในการประมงยังไม่ได้ โดยยังไม่ได้ติดตั้งเครื่องยนต์และหางเสือ และยังไม่ได้ต่อปากระวางเรือทำเก๋งก็ดี แต่ก็สำเร็จเป็นตัวลำเรือและตอกหมันยาชันใช้ล่องตามลำคลองได้แล้ว เห็นได้ว่าอยู่ในสภาพเป็นเครื่องใช้อันแท้จริง ไม่ใช่ทำขึ้นเพียงชั่วคราวเพื่อลวงหรือพราง โดยเจตนาหลีกเลี่ยงกฎหมายจึงไม่ใช่ไม้แปรรูป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 907/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นอุทธรณ์แก้ไข – อุทธรณ์ใหม่ไม่มีสภาพเป็นอุทธรณ์ – คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ถึงที่สุด
โจทก์ยื่นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งว่าอุทธรณ์ไม่มีข้อความเป็นอุทธรณ์ จึงไม่รับโจทก์ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ แล้วต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องพร้อมกับยื่นอุทธรณ์ใหม่อีก 1 ฉบับ (ภายในอายุความอุทธรณ์) ขอให้ศาลชั้นต้นรวมสำนวนส่งไปยังศาลอุทธรณ์เพื่อประกอบการพิจารณาพิพากษาคดีต่อไป ดังนี้ เมื่อปรากฏความประสงค์อันชัดแจ้งของโจทก์ที่ยื่นอุทธรณ์ฉบับใหม่เข้ามาเพื่อจะขอแก้อุทธรณ์ฉบับเดิมและให้ถือเอาอุทธรณ์ฉบับใหม่เป็นส่วนหนึ่งของอุทธรณ์ฉบับเดิม มิใช่เป็นการยื่นอุทธรณ์ใหม่เป็นอีกฉบับหนึ่งแยกต่างหากจากฉบับเดิม อุทธรณ์ฉบับใหม่หาได้มีสภาพเป็นอุทธรณ์โดยแท้ไม่ หากมีสภาพเป็นทำนองคำแถลงประกอบอุทธรณ์ฉบับเดิมเท่านั้น และอุทธรณ์ฉบับเดิมที่ศาลสั่งไม่รับก็ไม่มีข้อความเป็นอุทธรณ์ทั้งคำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ถึงที่สุดแล้วมีผลเท่ากับไม่มีอุทธรณ์ฉบับเดิมเป็นหลักอ้างอิงที่จะนำเอาอุทธรณ์ฉบับใหม่ประกอบการพิจารณา จึงไม่มีปัญหาจะต้องพิจารณาและวินิจฉัยว่าอุทธรณ์ฉบับใหม่มีสภาพเป็นอุทธรณ์ที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ฉะนั้นการที่จะรับอุทธรณ์ฉบับใหม่ของโจทก์ไว้ตามที่โจทก์ฎีกาขึ้นมาก็ไม่มีประโยชน์อันใดอันจะพึงเกิดแก่คดีของโจทก์ จึงไม่รับอุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 444/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาว่าไม้เป็นสิ่งปลูกสร้างหรือไม้แปรรูปตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ และการส่งรายงานตรวจพิสูจน์แก่จำเลย
อย่างไรจึงจะเรียกว่าเป็นไม้ที่อยู่ในสภาพเป็นสิ่งปลูกสร้างหรือว่า เป็นไม้แปรรูปตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 4(4) วรรคหนึ่ง
ในกรณีที่โจทก์อ้างผู้ชำนาญการพิเศษมาเป็นพยานเพื่อให้เบิกความประกอบรายงานการตรวจพิสูจน์ไม้ของกลางในคดีอาญานั้นไม่จำต้องส่งสำเนารายงานการตรวจพิสูจน์นั้นให้จำเลยทราบล่วงหน้า 3 วัน ก่อนเบิกความ เพราะมิใช่กรณีที่ศาลสั่งให้ผู้ชำนาญการพิเศษทำความเห็นเป็นหนังสือตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 243 วรรคสอง
ในกรณีที่โจทก์อ้างผู้ชำนาญการพิเศษมาเป็นพยานเพื่อให้เบิกความประกอบรายงานการตรวจพิสูจน์ไม้ของกลางในคดีอาญานั้นไม่จำต้องส่งสำเนารายงานการตรวจพิสูจน์นั้นให้จำเลยทราบล่วงหน้า 3 วัน ก่อนเบิกความ เพราะมิใช่กรณีที่ศาลสั่งให้ผู้ชำนาญการพิเศษทำความเห็นเป็นหนังสือตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 243 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1493/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาว่าไม้แปรรูปอยู่ในสภาพสิ่งปลูกสร้างหรือเครื่องใช้ตามกฎหมายป่าไม้ จำเป็นต้องมีข้อเท็จจริงที่ชัดเจน
เมื่อข้อเท็จจริงตามฟ้องคำให้การว่า++และโจทก์แถลงยังไม่ชัดแต่ศาลชั้นต้นงดสืบพยานโจทก์จำเลย จึงยังไม่มีข้อเท็จจริงที่จะวินิจฉัยว่าไม้สักที่จำเลยมีไว้ละใช้ตีพื้นตีฝา ไม้ลักษณะบานประตูหน้าต่างที่ยังไม่ติดอาคาร ไม้โครงเตียงที่ยังไม่ได้ประกอบเป็นเตียง เป็นไม้ที่อยู่ในสภาพเป็นสิ่งปลูกสร้างหรือเครื่องใช้หรือไม่ ก็จำต้องฟังข้อเท็จจริงต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 267/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ปลอกกระสุนใช้สวมปลายไม้ตะพด ไม่เป็นเครื่องกระสุนปืนตามกฎหมาย
จำเลยมีปลอกกระสุนปืนอยู่เพียง 2 ปลอก และไม่ปรากฏว่าจำเลยมีไว้เพื่ออัดหรือใช้ประกอบเครื่องกระสุนปืน กลับได้ความว่ามีไว้ใช้สวมปลายไม้ตะพด ปลอกกระสุนปืนดังกล่าวจึงไม่มีสภาพเป็นเครื่องหรือสิ่งสำหรับอัดหรือทำหรือใช้ประกอบเครื่องกระสุนปืนตามบทวิเคราะห์ศัพท์มาตรา 3 (2) แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2501 จำเลยไม่มีความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนโดยมิได้รับอนุญาต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 267/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สภาพปลอกกระสุนปืนและลักษณะการใช้งานที่ไม่เข้าข่ายเป็นเครื่องกระสุน
ปลอกกระสุนปืนตามสภาพอาจเป็นเครื่องหรือสิ่งสำหรับอัดหรือทำหรือใช้ประกอบเครื่องกระสุนปืนได้ แต่การมีอยู่เพียง 2 ปลอก และได้ความว่ามีไว้ใช้สวมปลายไม้ตะพด ปลอกกระสุนปืนนั้นก็ไม่มีสภาพเป็นเครื่องหรือสิ่งสำหรับอัดหรือทำหรือใช้ประกอบเครื่องกระสุนปืนเสียแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 264/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สภาพปลอกกระสุนปืนและลักษณะการใช้งานที่เปลี่ยนไป ไม่ถือเป็นส่วนประกอบอาวุธปืน
ปลอกกระสุนปืนตามสภาพอาจเป็นเครื่องหรือสิ่งสำหรับอัดหรือทำหรือใช้ประกอบเครื่องกระสุนปืนได้ แต่การมีอยู่เพียง 2 ปลอกและได้ความว่ามีไว้ใช้สวมปลายไม้ตะพด ปลอกกระสุนปืนนั้นก็ไม่มีสภาพเป็นเครื่องหรือสิ่งสำหรับอัดหรือทำ หรือใช้ประกอบเครื่องกระสุนปืนเสียแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 257/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ไม้แปรรูปเป็นรูปเรือยังไม่ถือเป็นเครื่องใช้ตามกฎหมายป่าไม้
ไม้สักที่จับได้จากจำเลย จำเลยได้ต่อเป็นรูปร่างเรือขึ้นแล้ว ยังคงค้างอยู่แต่ส่วนบนลำเรือที่ยังไม่ได้ปูกระดาน กับไม่ได้ยาชันตามแนวประสาน และยังไม่ได้นำลงน้ำใช้สอยเลย สภาพของเรือของกลางเช่นนี้ ยังไม่มีสภาพเป็นเครื่องใช้ จึงต้องถือว่าเป็นไม้แปรรูปตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2503 ม. 4 (4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1672/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกเรือนให้โดยไม่จดทะเบียน: สภาพเป็นอสังหาริมทรัพย์ทำให้สัญญาไม่สมบูรณ์
แม้สัญญาให้จะมีข้อความว่า ผู้ให้ยินยอมให้ผู้รับรื้อถอนเรือนได้ในเมื่อไปอยู่ที่อื่นก็ดี แต่ถ้าคู่สัญญามิได้เจตนาจะให้มีการรื้อเรือนไปในเวลาใกล้ชิดกับวันที่ทำสัญญายกให้แล้ว เรือนนั้นหากลายสภาพเป็นสังหาริมทรัพย์ไม่ แต่ยังคงมีสภาพเป็นอสังหาริมทรัพย์ดังเดิม ฉะนั้นเมื่อการยกให้ทำแต่เพียงเป็นหนังสือ มิได้จดทะเบียน จึงไม่สมบูรณ์ และตกเป็นโมฆะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 627/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความ 'เคหะ' ตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ พิจารณาจากเจตนา,สภาพ,ทำเลที่ตั้ง และการใช้ประโยชน์
ความหมายของคำว่า "เคหะ" ตามมาตรา 3 ก็คือ "สิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย" ส่วนบทบัญญัติต่อไปที่ว่า"โดยไม่คำนึงว่าจะใช้เป็นที่ประกอบธุระกิจการค้าหรืออุตสาหกรรมด้วยเป็นส่วนประธานหรืออุปกรณ์" นั้น เป็นแต่ขยายความแห่งบทบัญญัติตอนต้นเท่านั้น แต่ส่วนสำคัญอยู่ที่ว่า "สิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย" และโดยที่พระราชบัญญัตินี้เกี่ยวกับเรื่องการเช่า ฉะนั้นการที่จะวินิจฉัยสิ่งปลูกสร้างใดที่มีการเช่าจะเข้าอยู่ในความคุ้มครองของพระราชบัญญัติหรือไม่ จึงจำเป็นจะต้องพิจารณาถึงเจตนาของคู่สัญญาด้วย ว่าจะใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินที่เช่าเพื่อการอยู่อาศัยหรือเพื่อการอื่นใดจึงวางหลักไว้ว่า การที่จะวินิจฉัยว่าสิ่งปลูกสร้างใดเป็น "เคหะ" ตามความหมายแห่ง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าหรือไม่นั้น จำต้องคำนึงถึงเจตนาในเวลาเช่า สภาพและทำเลที่ตั้งของสถานที่เช่า และเหตุผลแวดล้อมอย่างอื่นเป็นข้อประกอบด้วย
ม.13 นั้น เป็นเรื่องกฎหมายกำหนด เกณฑ์ที่จะขึ้นค่าเช่าสำหรับเคหะที่ใช้อย่างใดเท่านั้น
เมื่อสัญญาใดไม่มีข้อความระบุถึงผู้ใด ผู้นั้นก็ไม่มีทางจะถือเอาประโยชน์แห่งสัญญานั้นได้
ม.13 นั้น เป็นเรื่องกฎหมายกำหนด เกณฑ์ที่จะขึ้นค่าเช่าสำหรับเคหะที่ใช้อย่างใดเท่านั้น
เมื่อสัญญาใดไม่มีข้อความระบุถึงผู้ใด ผู้นั้นก็ไม่มีทางจะถือเอาประโยชน์แห่งสัญญานั้นได้