คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สลักหลังเช็ค

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 40 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1880/2534 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบพยานหลักฐานเพิ่มเติมหลังหมดพยานฝ่ายจำเลย และการพิสูจน์ลายมือชื่อเพื่อยืนยันการเป็นผู้สลักหลังเช็ค
โจทก์นำสืบพยานก่อน และเมื่อสืบเสร็จแล้วก็แถลงหมดพยาน จำเลยที่ 2 นำสืบพยานโดยขอให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อผู้สลักหลังเช็คพิพาทด้วย ซึ่งกรณีขอให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อนี้ เป็นเรื่องการนำสืบพยานหลักฐานของจำเลยที่ 2 ไม่ใช่ของโจทก์ โจทก์จะขอให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อดังกล่าวอีกครั้งหนึ่งหลังจากจำเลยที่ 2 ได้ขอให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์เสร็จสิ้นแล้วไม่ได้ เป็นการไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา แม้ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์ช่วยหาตัวอย่างลายมือชื่อของจำเลยที่ 2 เพื่อส่งไปเปรียบเทียบในการตรวจพิสูจน์ ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นการอนุญาตให้โจทก์นำสืบพยานหลักฐานเพิ่มเติม เมื่อศาลชั้นต้นเห็นว่าการตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อดังกล่าวได้ดำเนินการโดยครบถ้วนจนทราบผลการตรวจพิสูจน์แล้ว จึงย่อมมีอำนาจไม่อนุญาตให้ตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อนั้นซ้ำใหม่ตามที่โจทก์ขอได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5513/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือมอบอำนาจ, การสลักหลังเช็ค, มูลหนี้, ผู้ทรงเช็ค, อำนาจฟ้อง
แม้หนังสือมอบอำนาจจะมิได้ระบุโดยตรงว่าห้างโจทก์เป็นผู้มอบอำนาจให้ ม. ฟ้องคดีแทน แต่ในตอนต้นของหนังสือมอบอำนาจระบุว่า ข้าพเจ้านาย ป. และมีข้อความต่อมาว่า ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจลงนามผูกพันห้างโจทก์-------------------------------------และในช่องผู้มอบอำนาจ นอกจากนาย ป. หุ้นส่วนผู้จัดการของห้างโจทก์จะได้ลงลายมือชื่อแล้วยังได้ประทับตราของห้างโจทก์อีกด้วย ดังนี้ถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้มอบอำนาจให้ ม. ฟ้องคดีแทนโจทก์
จำเลยที่ 1 เป็นผู้สลักหลังเช็คพิพาท เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงจำเลยที่ 1 จะอ้างว่าจำเลยที่ 1 ไม่เคยเป็นหนี้โจทก์จึงไม่มีมูลหนี้ที่จะต้องรับผิดต่อโจทก์หาได้ไม่ เพราะการที่จำเลยที่ 1เข้าสลักหลังเช็คพิพาทย่อมก่อให้เกิดมูลหนี้ในเช็คอยู่ในตัว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3176/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสลักหลังเช็คโดยกรรมการคนเดียวและการให้สัตยาบันของบริษัท แม้ไม่ถูกต้องตามข้อบังคับ ก็มีผลผูกพันบริษัท
จำเลยที่ 3 เป็นกรรมการผู้หนึ่งของบริษัท น. ลงชื่อสลักหลังและประทับตราสำคัญของบริษัทในเช็คที่สั่งจ่ายให้แก่โจทก์ซึ่งนำเงินมาฝาก แม้ข้อบังคับของบริษัทจะต้องมีกรรมการสองคนลงชื่อร่วมกันพร้อมกับประทับตราสำคัญก็ตาม แต่การที่บริษัทได้นำเงินฝากของโจทก์มาใช้ในกิจการของตนโดยนำไปปล่อยให้กู้และรับดอกเบี้ยส่วนเกินจากผู้กู้เป็นผลประโยชน์ของบริษัท ถือได้ว่าเป็นการให้สัตยาบันและมีผลผูกพันบริษัท จำเลยที่ 3 จึงไม่ต้องรับผิดเป็นการส่วนตัวต่อโจทก์ผู้ทรงเช็ค

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3359/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญากู้มีมูลหนี้จากเงินทดรองจ่าย การสลักหลังเช็คเป็นวิธีชำระหนี้เดิม ไม่ใช่การกู้เงินใหม่
สัญญากู้มีมูลหนี้มาจากการที่โจทก์ทดรองจ่ายเงินในการซื้อขายหุ้นให้จำเลย การที่โจทก์ออกเช็คให้จำเลยและจำเลยสลักหลังคืนแก่โจทก์เป็นวิธีการชำระหนี้เงินทดรองที่โจทก์จ่ายแทนจำเลยไปในการซื้อหุ้นเท่านั้น เจตนาอันแท้จริงเป็นเรื่องที่โจทก์จำเลยตกลงระงับหนี้เงินทดรองที่โจทก์จ่ายไปโดยวิธีให้จำเลยกู้เงินโจทก์ใช้หนี้ จำนวนเงินที่โจทก์จะต้องจ่ายแก่จำเลยตามสัญญากู้ก็คือจำนวนเงินที่โจทก์นำไปชำระหนี้เงินทดรองจ่ายนั่นเอง เมื่อปรากฏว่าจำเลยลงลายมือชื่อในสัญญากู้ดังกล่าวและโจทก์ได้นำจำนวนเงินตามสัญญากู้ไปชำระหนี้เงินทดรองจนเสร็จสิ้นแล้ว จึงต้องฟังว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามจำนวนที่ระบุไว้ในสัญญากู้นั้น จำเลยจะอ้างว่าจำเลยยังไม่ได้รับเงินตามสัญญากู้และไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ตามสัญญากู้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2356/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คพิพาท: การสันนิษฐานหน้าที่ชำระหนี้, การสลักหลังเช็คเพื่อประกัน, และการประวิงคดี
พยานที่มิได้เกี่ยวข้องกับข้อต่อสู้ในมูลคดีแต่จะนำเข้าสืบเพื่อประโยชน์แห่งคดีอื่นศาลงดสืบพยานนี้เสียได้เพราะเป็นการนำสืบพยานอันไม่เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาจำเลยมีหน้าที่นำสืบแต่ขอเลื่อนคดีหลายนัดติดต่อกันอ้างว่าตัวจำเลยป่วยบ้างทนายจำเลยป่วยบ้างหรือขอเลื่อนคดีอ้างว่าจะเจรจากับโจทก์เพื่อตรวจสอบหนี้สินแต่จำเลยก็มิได้ไปตรวจสอบหนี้สินตามที่โจทก์นัดเมื่อศาลชั้นต้นสั่งกำชับให้จำเลยนำพยานมาสืบให้เสร็จในวันนัดจำเลยนำพยานเข้าสืบแล้วขอเลื่อนคดีพฤติการณ์เช่นนี้ถือได้ว่าเป็นการประวิงคดีศาลสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีและตัดพยานจำเลยได้ จำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คพิพาทต้องสันนิษฐานว่าได้ออกเช็คเพื่อชำระหนี้หากจำเลยจะอ้างว่าได้ออกเช็คเพื่อวัตถุประสงค์อื่นจำเลยต้องมีหน้าที่นำสืบ เช็คพิพาทเป็นเช็คผู้ถือซึ่งจำเลยสั่งจ่ายมอบให้โจทก์โจทก์นำไปแลกเงินจากส. โดยโจทก์ลงลายมือชื่อสลักหลังเช็คพิพาทไว้อันเป็นการประกัน(อาวัล)สำหรับจำเลยผู้สั่งจ่ายเมื่อโจทก์ได้ใช้เงินตามเช็คและรับเช็คคืนมาจากส. เพราะธนาคารตามเช็คปฏิเสธการใช้เงินโจทก์ก็นับได้ว่าเป็นผู้ทรงเช็คนั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3506/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสลักหลังเช็คและสิทธิเรียกร้องของผู้รับช่วงสิทธิ: อายุความ 10 ปี
จำเลยสั่งจ่ายเช็คให้แก่ผู้ถือโจทก์ผู้ทรงได้สลักหลังเช็คนั้นโดยมิได้ ระบุข้อความใด ๆไว้แล้วนำไปขายลดให้แก่บุคคลภายนอกผู้รับซื้อเช็คไว้ ย่อมเป็นผู้ทรงการสลักหลังของโจทก์เป็นเพียงประกันหนี้ตามเช็คที่จำเลย จะต้องรับผิดต่อผู้ทรงโจทก์ย่อมอยู่ในฐานะผู้ค้ำประกันหนี้ตามเช็ค ของจำเลยเมื่อผู้ทรงรับเงินตามเช็คไม่ได้และโจทก์ได้ชำระหนี้ให้แก่ผู้ทรง แทนจำเลยไปย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของผู้ทรงที่จะไล่เบี้ยเอาจากจำเลยสิทธิเรียกร้องของโจทก์ดังกล่าวไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้ จึงต้องใช้อายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา164 กรณีไม่ต้องด้วยมาตรา1002 ซึ่งบัญญัติไว้แต่เฉพาะกรณีที่ ผู้ทรงเช็คฟ้องผู้สลักหลังและผู้สั่งจ่ายและโจทก์ก็มิได้อยู่ในฐานะ ผู้สลักหลังเช็คตามมาตรา 1003

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1063/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสลักหลังเช็คโดยตัวแทนที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว ทำให้สัญญาไม่ผูกพันจำเลยอื่น
การที่จำเลยที่ 2 ผู้จัดการธนาคารจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นสาขาของธนาคารจำเลยที่ 4 ลงชื่อรับรองการใช้เงินตามเช็คแทนจำเลยที่ 3 และที่ 4 เป็นการที่ตัวแทนเข้าทำสัญญากับบุคคลภายนอก แต่ในการเข้าทำสัญญาดังกล่าวจำเลยที่ 2 ได้กระทำไปโดยเห็นแก่ประโยชน์ที่โจทก์ได้ให้เป็นลาภส่วนตัวแก่จำเลยที่ 2 คือโจทก์ยอมรับชำระหนี้ด้วยเช็คและคืนหลักฐานที่จำเลยที่ 2 ยืมเงินจากโจทก์ให้แก่จำเลยที่ 2 ซึ่งจะเป็นผลให้จำเลยที่ 2 หลุดพ้นจากการเป็นลูกหนี้โจทก์โดยจำเลยที่ 3 และที่ 4 มิได้ยินยอมในการกระทำของจำเลยที่ 2 ด้วยการเข้าทำสัญญาดังกล่าวจึงไม่มีผลผูกพันจำเลยที่ 3 และที่ 4 ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 825

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2460/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้สลักหลังเช็คในฐานะผู้รับประกัน (อาวัล) และผลของการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเช็ค
จำเลยที่ 2 สลักหลังเช็คซึ่งจำเลยที่ 1 เป็นผู้สั่งจ่ายแก่ผู้ถือ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 921 ให้ถือว่าการสลักหลังนั้นเป็นเพียงประกัน (อาวัล)สำหรับผู้สั่งจ่าย จำเลยที่ 2 จึงต้องผูกพันตนเป็นอย่างเดียวกันและรับผิดร่วมกันกับจำเลยที่ 1 ต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงตามมาตรา 940, 967, 989
กำหนดเวลาที่ต้องยื่นเช็คแก่ธนาคารเพื่อให้ใช้เงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 990 เป็นเรื่องเงื่อนไขแห่งสิทธิไล่เบี้ยของผู้ทรงเช็คต่อผู้สลักหลังโอนเช็คเท่านั้น มิได้รวมถึงผู้สลักหลังเช็คในฐานะผู้รับประกันการใช้เงิน (ผู้รับอาวัล) สำหรับผู้สั่งจ่ายตามเช็คนั้นด้วย
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้สลักหลังเช็ครู้เห็นยินยอมด้วยกับการที่จำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายแก้วันที่สั่งจ่ายในเช็คอันเป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงในข้อสำคัญ จำเลยที่ 2 จึงต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อสำคัญในเช็คนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1007

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2460/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสลักหลังเช็คในฐานะอาวัลและความรับผิดชอบต่อการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเช็ค
จำเลยที่ 2 สลักหลังเช็คซึ่งจำเลยที่ 1 เป็นผู้สั่งจ่ายแก่ผู้ถือ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 921 ให้ถือว่าการสลักหลังนั้นเป็นเพียงประกัน (อาวัล)สำหรับผู้สั่งจ่าย จำเลยที่ 2 จึงต้องผูกพันตนเป็นอย่างเดียวกันและรับผิดร่วมกันกับจำเลยที่ 1 ต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงตามมาตรา 940,967,989
กำหนดเวลาที่ต้องยื่นเช็คแก่ธนาคารเพื่อให้ใช้เงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 990 เป็นเรื่องเงื่อนไขแห่งสิทธิไล่เบี้ยของผู้ทรงเช็คต่อผู้สลักหลังโอนเช็คเท่านั้น มิได้รวมถึงผู้สลักหลังเช็คในฐานะผู้รับประกันการใช้เงิน (ผู้รับอาวัล) สำหรับผู้สั่งจ่ายตามเช็คนั้นด้วย
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้สลักหลังเช็ครู้เห็นยินยอมด้วยกับการที่จำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายแก้วันที่สั่งจ่ายในเช็คอันเป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงในข้อสำคัญ จำเลยที่ 2 จึงต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อสำคัญในเช็คนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1007

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3343/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของธนาคารต่อการสลักหลังเช็คโดยไม่ได้รับมอบอำนาจ: หลักการบุคคลภายนอกสุจริต
จำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นผู้ช่วยสมุห์บัญชีธนาคารจำเลยที่ 2 สาขาราชวงศ์และเป็นเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจลงชื่อแทนธนาคารจำเลยที่ 2 ได้ลงชื่อและประทับตราสลักหลังเช็คพิพาทซึ่งจำเลยที่ 1 เป็นผู้สั่งจ่ายให้โจทก์ อันแสดงว่า กระทำแทนธนาคารจำเลยที่ 2 สาขาราชวงศ์ โดย ส.ผู้จัดการธนาคารจำเลยที่ 2 สาขาราชวงศ์รู้เห็นและยินยอมด้วยเช่นนี้แม้การกระทำของจำเลยที่ 3 จะเกินอำนาจที่ได้รับมอบหมายจากธนาคารจำเลยที่ 2 ก็ตามแต่การปฏิบัติของ ส. ผู้มีอำนาจกระทำแทนธนาคาร จำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3 ทำให้โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้สุจริตมีมูลเหตุอันควรเชื่อว่าการกระทำของจำเลยที่ 3 อยู่ภายในขอบอำนาจที่จะสลักหลังเช็คแทนธนาคารจำเลยที่ 2 สาขาราชวงศ์ ธนาคารจำเลยที่ 2จึงต้องร่วมกับจำเลยที่ 1 รับผิดต่อโจทก์ด้วย
of 4