พบผลลัพธ์ทั้งหมด 15 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2266/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อวินิจฉัยคดีแพ่งต้องสอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่ศาลอาญาได้วินิจฉัยถึงที่สุดแล้ว
คดีอาญาเรื่องบุกรุกกับคดีแพ่งขอให้ขับไล่มีประเด็นโดยตรงว่าที่พิพาทเป็นของใครเมื่อในคดีอาญาศาลฟังข้อเท็จจริงว่าที่พิพาทเป็นของ ท. จำเลยอยู่ในที่พิพาทโดยการเช่าคดีแพ่งจึงต้องถือตามคดีส่วนอาญาว่าที่พิพาทไม่ใช่ของจำเลยโดยการครอบครองปรปักษ์ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1189/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีแพ่งต้องสอดคล้องกับคำพิพากษาคดีอาญาที่ถึงที่สุด
ในกรณีที่โจทก์ฟ้องคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยบุกรุก ขอให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุก และให้จำเลยออกไปจากที่พิพาทตลอดจนชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์นั้น เมื่อคำพิพากษาส่วนอาญาศาลชั้นต้นวินิจฉัยไว้เป็นที่ยุติแล้วว่าที่พิพาทไม่ใช่ของโจทก์ ดังนี้ ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่ง ศาลฎีกาจำต้องถือตาม จะฟังข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่นหาได้ไม่ (อ้างฎีกาที่ 1172/2513)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 486/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลคดีแพ่งต้องสอดคล้องกับผลคดีอาญา หากศาลอาญาไม่พบสิทธิครอบครอง คดีแพ่งก็ต้องยกฟ้อง
ฟ้องคดีแพ่งฐานละเมิด ซึ่งมีมูลคดีเป็นอันเดียวกับคดีอาญาฐานบุกรุก. ศาลฟังข้อเท็จจริงในคดีอาญาว่า.'ตามหลักฐานโจทก์ยังฟังไม่ได้ถนัดว่า. โจทก์มีสิทธิครอบครองที่พิพาท' ศาลในคดีแพ่งต้องถือตาม และต้องพิพากษายกฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 800/2484
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความถูกต้องของฟ้องอาญา: การระบุเวลาและความสอดคล้องกับคำขอท้ายฟ้อง
ฟ้องต้องระบุวันเดือนและเวลา แต่ถ้าไม่ปรากฎเวลาก็ต้องระบุไว้ การที่ระบุเวลากลางวันหรือกลางคืน แต่ตามคำขอท้ายฟ้องขอให้ลงโทษตามมาตรา 288 ซึ่งเป็นมาตราที่ลงโทษผู้กระทำผิดในเวลากลางวันนั้น เป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องซึ่งศาลควรสั่งให้โจทก์แก้เสีย ให้ถูกต้องได้ ตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 161
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2219/2558
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แก้ไขคำพิพากษาให้สอดคล้องกับเหตุผล - ค่าขาดราคาเช่าซื้อรถยนต์
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองใช้ค่าขาดราคาจากการขายทอดตลาดรถยนต์ที่เช่าซื้อ ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าค่าเช่าซื้อรถได้รวมดอกเบี้ยที่โจทก์คิดไว้ล่วงหน้าตามระยะเวลาค่างวดเช่าซื้อมิใช่มีแต่ราคารถเพียงอย่างเดียว จึงเอาค่าเช่าซื้อค้างชำระมาเป็นเกณฑ์เรียกราคารถพิพาทไม่ได้ เมื่อโจทก์ไม่นำสืบว่ารถพิพาทที่แท้จริงมีราคาเท่าไร เห็นสมควรกำหนดค่าเสียหายให้เป็นเงิน 57,000 บาท ซึ่งสอดคล้องกับคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ในส่วนที่โจทก์ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชำระเงินค่าขาดราคาเช่าซื้อจากการขายทอดตลาดเพียงแต่ศาลชั้นต้นลดจำนวนเงินที่โจทก์ขอมาลงเหลือ 57,000 บาท การที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนโจทก์ จึงเป็นเรื่องที่ไม่ตรงกับคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้น ที่โจทก์ขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้แก้ไขคำพิพากษานั้น จึงเป็นการขอแก้ไขเพื่อให้ถูกต้องตรงกับเหตุผลแห่งคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นที่กล่าวไว้ในคำพิพากษาและถือว่าเป็นการแก้ไขข้อผิดพลาดหรือข้อผิดหลงเล็กน้อย มิใช่เป็นการทำคำสั่งที่เป็นการกลับหรือแก้คำวินิจฉัยในคำพิพากษาเดิม จึงชอบที่จะมีคำสั่งแก้ไขข้อผิดพลาด หรือข้อผิดหลงเช่นว่านั้นให้ถูกต้อง ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 143 วรรคแรก ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ยกคำร้องโจทก์มานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น