คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สอบถาม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 20 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2957-2966/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรวมสำนวนคดีแรงงานและการสอบถามคำให้การจำเลยตามกฎหมาย
จำเลยทั้งสิบสำนวนเป็นนิติบุคคลรายเดียวกัน ศาลสั่งรวมพิจารณาสำนวนที่ 1 ถึงสำนวนที่ 9 ซึ่งจำเลยได้ยื่นใบแต่งทนาย และคำให้การเป็นหนังสือไว้แล้ว ต่อมาศาลสั่งรวมพิจารณาสำนวนที่ 10 เข้ากับสำนวนทั้งเก้า แต่ไม่ปรากฏว่ามีใบแต่งทนายและคำให้การในสำนวนที่ 10 ซึ่งน่าจะเป็นเพราะหลงลืมหรือพลั้งเผลอ ดังนี้ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานฯ มาตรา 39 กำหนดให้เป็นหน้าที่ของศาลจะต้องสอบถามคำให้การด้วยวาจาของจำเลยสำนวนที่ 10 และบันทึกไว้หากจำเลยไม่ยอมให้การ ศาลไม่ปฏิบัติเกี่ยวกับจำเลยสำนวนที่ 10 ตามที่กฎหมายกำหนดหน้าที่ และสั่งสืบพยานโจทก์สำนวนที่ 10 ไปโดยไม่ปรากฏว่าจำเลยสำนวนที่ 10ประสงค์จะให้การหรือไม่ จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1913/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิจำเลยในการมีทนาย - การสอบถามและจัดหาทนายก่อนเริ่มพิจารณาคดี
ในคดีที่มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงถึง 10 ปี ศาลชั้นต้นมิได้สอบถามจำเลยในเรื่องทนายเสียก่อนเริ่มพิจารณาแต่ดำเนินกระบวนพิจารณาไปโดยจำเลยไม่มีทนาย และศาลอุทธรณ์ก็พิพากษาลงโทษจำเลยอีกโดยมิได้สั่งให้ศาลชั้นต้นจัดการสอบถามจำเลยเรื่องทนายเสียให้ถูกต้อง ดังนี้ ศาลฎีกาพิพากษายกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสอง ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาให้ถูกต้องแล้วพิพากษาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 862/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ศาลต้องกำหนดประเด็นตามที่คู่ความยกขึ้นเท่านั้น การสอบถามเพื่อความชัดเจน ไม่ใช่ตั้งประเด็นใหม่
การที่ศาลจะกำหนดประเด็นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 183 นั้น ย่อมจะต้องกำหนดตามประเด็นที่คู่ความยกขึ้นกล่าวอ้างมาในคำฟ้องและคำให้การเท่านั้น การสอบถามของศาลตามมาตรานี้ก็เพื่อให้ได้ความชัดในประเด็นที่โต้เถียงกัน จะสอบถามแล้วตั้งประเด็นขึ้นใหม่หาได้ไม่
ประเด็นที่ว่าจำเลยออกคำสั่งมิชอบ เพราะไม่ได้จัดที่อยู่อาศัยให้โจทก์ มิใช่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 465/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้การปฏิเสธของจำเลย แม้ศาลมิได้สอบถามคำให้การต่อสู้คดี ก็ถือเป็นคำให้การได้
คดีอาญาเมื่อปรากฏว่า จำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้แต่ในชั้นสืบพยานจำเลยตัวจำเลยเข้าเบิกความปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำผิด ก็ถือได้ว่าจำเลยให้การปฏิเสธ
ในกรณีที่ศาลมิได้สอบถามคำให้การต่อสู้คดีของจำเลยไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 172 นั้นกฎหมายมิได้บัญญัติไว้ว่าจะมีผลอย่างไรแต่ตามหลักกฎหมายจำเลยจะให้การเมื่อใดหรือให้การใหม่กลับคำให้การเดิมก็ได้ซึ่งจะเห็นได้ว่าการสอบถามคำให้การเป็นแต่เพียงเพื่อได้ทราบประเด็นเบื้องต้นแห่งคดีเท่าที่จะทำได้ แต่คำให้การของจำเลยตามที่ศาลสอบถามนั้น จำเลยจะให้การเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็ได้ดังนี้แม้ศาลมิได้สอบถามคำให้การจำเลยไว้แต่ต้นก็ไม่ทำให้การดำเนินกระบวนพิจารณาเสียไป หรือจำเป็นต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นสอบถามคำให้การจำเลยอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 363/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับโทษต่อ จำเป็นต้องมีการสอบถามจำเลยและรับรองว่าเป็นคนเดียวกัน
การสั่งให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีก่อนนั้น จะกระทำได้ต่อเมื่อความปรากฏว่าจำเลยเป็นคนๆ เดียวกันกับจำเลยในคดีก่อนซึ่งศาลลงโทษไปแล้วการที่จำเลยได้ให้การปฏิเสธความผิด ไม่ได้พูดถึงเรื่องโจทก์ขอให้นับโทษต่อกันแต่ก็มิได้มีการสอบถามจดบันทึกในเรื่องที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อไว้แต่ประการใดเช่นนี้ ยังไม่มีทางนับโทษต่อให้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 392/2486

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสอบถามพยานนอกศาลโดยไม่ระบุฐานะพยาน ทำให้การพิจารณาคดีไม่ชอบ
ในคดีซึ่งอยู่ในชั้นพิจารณาศาลชั้นต้นเรียกปลัดอำเภอและกำนันมาสอบถาม แล้วฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยมิได้กระทำผิดพิพากษายกฟ้อง โดยไม่ปรากฏว่าบุคคลทั้งสองนั้นมาศาลในฐานะเช่นไร เช่นนี้ ย่อมเป็นการไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 836/2483

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำเอกสารแก้ไขไปสอบถามความถูกต้อง ไม่ถือเป็นการใช้เอกสารปลอม
เอาตั๋วพิมพ์รูปพรรณปลอมไปให้เจ้าพนักงานดูและถามว่าจะใช้ได้หรือไม่นั้นไม่ผู้ถือว่านำหนังสือนั้นไปใช้ไม่เป็นผิดฐานนำหนังสือปลอมไปใช้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 84/2472

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสอบถามจำเลยเพื่อให้ได้ความจริงจากคำให้การที่คลุมเครือ เพื่อให้การตัดสินเป็นธรรม
คำให้การของจำเลยที่ฟังได้เปนสองนัยศาลควรสอบถามจำเลยให้ได้ความอย่างหนึ่งอย่างใดให้แน่นอนลงไปย้อนสำนวนให้ศาลเดิมตัดสินใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3865/2557

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสอบถามการรับสารภาพฐานความผิด: จำเป็นต้องระบุฐานความผิดที่จำเลยรับสารภาพเพื่อความถูกต้องของกระบวนการยุติธรรม
คดีนี้เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งประทับฟ้องคดีโจทก์ไว้พิจารณา ศาลชั้นต้นมีหน้าที่อ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลยฟังและถามว่าจำเลยกระทำความผิดหรือไม่ จะให้การต่อสู้อย่างไรบ้างตาม ป.วิ.อ. มาตรา 172 วรรคสอง คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรฐานใดฐานหนึ่ง ศาลชั้นต้นอ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลยฟังแล้ว จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลชั้นต้นก็ต้องสอบถามด้วยว่าจำเลยจะให้การรับสารภาพฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร แล้วพิพากษาลงโทษจำเลยในฐานความผิดนั้น แต่ศาลชั้นต้นมิได้สอบถามให้ชัดแจ้งกลับพิพากษาลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ โดยไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าจำเลยให้การรับสารภาพในฐานความผิดดังกล่าว การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นในส่วนนี้จึงไม่ชอบ และมีผลให้กระบวนพิจารณาถัดมาตลอดจนคำพิพากษาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 7 จึงไม่ชอบไปด้วย
พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 7 ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาตั้งแต่สอบคำให้การจำเลยใหม่ แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9157/2552

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาล: การไม่สอบถามก่อนสั่งไม่รับฟ้องคดีปกครอง และผลกระทบต่อกระบวนการพิจารณา
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์เนื่องจากโจทก์มิได้เสียค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ การที่โจทก์ฎีกาขอให้ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีของโจทก์อยู่ในอำนาจศาลยุติธรรมหรือไม่ โดยมิได้โต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ว่าไม่ถูกต้องอย่างไร ฎีกาของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคหนึ่ง
ในกรณีที่ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีที่โจทก์ได้ยื่นฟ้องไว้เป็นคดีปกครองไม่อยู่ในอำนาจศาลยุติธรรม ก่อนมีคำสั่งไม่รับฟ้องศาลชั้นต้นจะต้องสอบถามโจทก์เสียก่อนว่า โจทก์เคยฟ้องคดีต่อศาลปกครองแล้วและศาลปกครองไม่รับฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าคดีไม่อยู่ในอำนาจศาลปกครองมาก่อนหรือไม่ หากมีกรณีดังกล่าว ศาลชั้นต้นจะต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล พ.ศ.2542 มาตรา 12 วรรคสอง กล่าวคือ ศาลชั้นต้นต้องส่งเรื่องไปให้คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลเพื่อพิจารณาวินิจฉัย หรือหากปรากฏว่าโจทก์ฟ้องคดีนี้ต่อศาลชั้นต้นเป็นศาลแรก และศาลชั้นต้นเห็นว่าเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจศาลปกครองศาลชั้นต้นต้องแจ้งให้โจทก์ไปฟ้องคดีต่อศาลปกครองซึ่งเป็นศาลต่างระบบที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีโดยระบุไว้ในคำสั่งไม่รับฟ้องเสียก่อนและศาลชั้นต้นต้องแนะนำโจทก์ให้แจ้งต่อศาลปกครองด้วยว่า เคยยื่นฟ้องคดีนี้ต่อศาลชั้นต้นแล้วและศาลชั้นต้นไม่รับฟ้อง
ในกรณีที่ศาลชั้นต้นไม่รับฟ้องเนื่องจากเห็นว่าคดีอยู่ในอำนาจของศาลปกครอง หากโจทก์อุทธรณ์คำสั่งไม่รับฟ้องของศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นต้องมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์เนื่องจากโจทก์จะต้องฟ้องคดีต่อศาลระบบอื่นที่มีอำนาจ หากศาลในคดีหลังเห็นว่าคดีไม่อยู่ในอำนาจศาลนั้นก็ต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล พ.ศ.2542 มาตรา 12 วรรคสอง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฟ้องทันทีโดยมิได้สอบถามโจทก์เสียก่อนว่า โจทก์เคยฟ้องคดีต่อศาลปกครองแล้วและศาลปกครองไม่รับฟ้องหรือไม่ หากโจทก์ยังไม่เคยฟ้องคดีต่อศาลปกครองศาลชั้นต้นต้องแจ้งให้โจทก์ไปฟ้องคดีต่อศาลปกครองโดยระบุไว้ในคำสั่งไม่รับฟ้องดังกล่าวด้วยว่า ให้โจทก์แจ้งต่อศาลปกครองว่าเคยยื่นฟ้องคดีนี้ต่อศาลชั้นต้นแล้วและศาลชั้นต้นไม่รับฟ้อง การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฟ้องทันที โดยมิได้ดำเนินการดังกล่าว ครั้นเมื่อโจทก์อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับอุทธรณ์จึงเป็นการไม่ชอบ อันมีผลทำให้กระบวนพิจาณาต่างๆ ที่กระทำภายหลังจากนั้นไม่ชอบไปด้วย ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน เมื่อความปรากฏแก่ศาลฎีกา ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจหยิบยกปัญหาดังกล่าวขึ้นวินิจฉัยและเห็นสมควรให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ให้ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243 (1) ประกอบมาตรา 247
of 2