พบผลลัพธ์ทั้งหมด 19 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 851/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความและการยอมรับสภาพหนี้ การทวงหนี้และการไม่ปฏิเสธไม่ถือเป็นการยอมรับสภาพหนี้ที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลง
การที่โจทก์หรือทนายโจทก์ทวงถามค่าวัสดุก่อสร้างที่จำเลยค้างชำระ และ ล. ซึ่งเป็นผู้ควบคุมดูแลงานก่อสร้างแทนจำเลยตอบทำนองว่า แล้วแต่จำเลยผู้เป็นลูกหนี้นั้นยังถือไม่ได้ว่า ล. ทำการอย่างใดอย่างหนึ่งอันปราศจากเคลือบคลุมสงสัย ตระหนักเป็นปริยายว่ายอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องนั้นแทนจำเลย อันเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงและการที่ทนายโจทก์มีหนังสือทวงหนี้ถึงจำเลย 2 ครั้ง จำเลยมิได้ปฏิเสธ จะถือว่าจำเลยยอมรับสภาพหนี้แล้วไม่ได้ดุจกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 438/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือรับสภาพหนี้ทำให้อายุความสะดุดหยุดลง และเริ่มนับใหม่ตามอายุความของมูลหนี้เดิม
หนังสือรับสภาพหนี้ เป็นหนังสือที่ลูกหนี้ยอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องต่อเจ้าหนี้ มีผลแต่เพียงทำให้ อายุความสะดุดหยุดลงแล้วเริ่มนับอายุความขึ้นใหม่ตามอายุความแห่งมูลหนี้ที่ลูกหนี้รับสภาพต่อเจ้าหนี้ ตั้งแต่เวลาเมื่อเหตุที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงนั้นสุดสิ้นไป
จำเลยทำหนังสือรับสภาพหนี้ค่าซื้อสินค้าเงินเชื่อให้โจทก์ไว้เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2511 สัญญาว่าจะนำเงินที่เป็นหนี้มาชำระให้โจทก์เสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2511 ถึงกำหนดแล้วจำเลยไม่ชำระให้ โจทก์มาฟ้องคดีเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2514นับแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2511 เกินสองปีแล้ว คดีโจทก์จึงขาดอายุความ
จำเลยทำหนังสือรับสภาพหนี้ค่าซื้อสินค้าเงินเชื่อให้โจทก์ไว้เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2511 สัญญาว่าจะนำเงินที่เป็นหนี้มาชำระให้โจทก์เสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2511 ถึงกำหนดแล้วจำเลยไม่ชำระให้ โจทก์มาฟ้องคดีเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2514นับแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2511 เกินสองปีแล้ว คดีโจทก์จึงขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 873/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสภาพหนี้ทำให้ระยะเวลาอายุความสะดุดหยุดลง แม้หนี้มีหลักฐานก็ได้ และอายุความนับใหม่จากวันรับสภาพ
แม้วันที่จำเลยได้กู้เงินโจทก์ไปถึงวันฟ้องเป็นเวลาเกิน 10 ปีแล้วก็ตามแต่เมื่อวันที่จำเลยรับสภาพหนี้นั้นถึงวันฟ้องยังไม่เกิน 10 ปีเช่นนี้ คดีโจทก์ก็ยังไม่ขาดอายุความ
การรับสภาพหนี้นั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นหนี้ที่ไม่มีหลักฐานแม้หนี้ที่มีหลักฐานกู้ยืมอยู่แล้วก็มีการรับสภาพหนี้กันได้
จำเลยทำสัญญากู้ให้โจทก์ไว้เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม2496 และต่อมาเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2501 จำเลยได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้นั้นซึ่งเป็นฉบับท้ายฟ้องโจทก์ดังนี้ เมื่อปรากฏว่าโจทก์ฟ้องเรียกหนี้เงินกู้ซึ่งจำเลยกู้ไปเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2496 ส่วนเดียวเท่านั้น ฟ้องโจทก์จึงหาใช่ฟ้องให้ชำระหนี้ ส่วนอุปกรณ์ซึ่งมีหนี้ในส่วนที่เป็นประธานแต่อย่างใดไม่ จะนำมาตรา 190 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาปรับแก่คดีนี้ไม่ได้
การรับสภาพหนี้นั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นหนี้ที่ไม่มีหลักฐานแม้หนี้ที่มีหลักฐานกู้ยืมอยู่แล้วก็มีการรับสภาพหนี้กันได้
จำเลยทำสัญญากู้ให้โจทก์ไว้เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม2496 และต่อมาเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2501 จำเลยได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้นั้นซึ่งเป็นฉบับท้ายฟ้องโจทก์ดังนี้ เมื่อปรากฏว่าโจทก์ฟ้องเรียกหนี้เงินกู้ซึ่งจำเลยกู้ไปเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2496 ส่วนเดียวเท่านั้น ฟ้องโจทก์จึงหาใช่ฟ้องให้ชำระหนี้ ส่วนอุปกรณ์ซึ่งมีหนี้ในส่วนที่เป็นประธานแต่อย่างใดไม่ จะนำมาตรา 190 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาปรับแก่คดีนี้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 344/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมรับสภาพหนี้ทำให้อายุความสะดุดหยุดลง แม้เป็นการฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทน
จำเลยรับฝากสินค้าราคาสองหมื่นบาทเศษของโจทก์ไว้แล้วสินค้านั้นสูญหายไป จำเลยจึงมีหนังสือยอมชดใช้ค่าเสียหายให้ 5,000 บาท โจทก์ปฏิเสธ ต่อมาได้มีการเจรจากันอีก จำเลยมีหนังสือยอมใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ครึ่งหนึ่งของราคาสินค้า แต่โจทก์ก็ไม่ตกลง ดังนี้ เห็นได้ว่าเอกสารทั้ง 2 ฉบับ ที่จำเลยยอมชดใช้ค่าสินค้าที่หายรายนี้ให้โจทก์นั้นเป็นการยอมรับแล้วว่าหนี้ค่าสินค้าของโจทก์ที่หายไปมีอยู่จริงเรียกได้ว่าจำเลยยอมรับสภาพหนี้ชดใช้ค่าสินค้าของโจทก์ที่หายไปแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1382/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความครอบครอง: การรับสภาพสิทธิทำให้สะดุดหยุดลง
มาตรา 1386 แห่งประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ ให้นำบทบัญญัติว่าด้วยอายุความมาใช้บังคับในเรื่องอายุความได้สิทธิครอบครองด้วยโดยอนุโลม ฉะนั้น จึงนำบทบัญญัติว่าด้วยอายุความ สะดุดหยุดลงมาให้แก่การฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองได้
ฟ้องโจทก์ที่ระบุถึงเรื่องโจทก์ไปร้องต่ออำเภอว่าจำเลยบุกรุกล้อมรั้ว จำเลยยอมรื้อรั้วกับอำเภอแล้ว เช่นนี้ อย่างน้อยก็มีผลเป็นการรับสภาพตามสิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงอย่างหนึ่ง
ฟ้องโจทก์ที่ระบุถึงเรื่องโจทก์ไปร้องต่ออำเภอว่าจำเลยบุกรุกล้อมรั้ว จำเลยยอมรื้อรั้วกับอำเภอแล้ว เช่นนี้ อย่างน้อยก็มีผลเป็นการรับสภาพตามสิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงอย่างหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1382/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความได้สิทธิครอบครองสะดุดหยุดลงจากการรับสภาพสิทธิ การร้องเรียนต่ออำเภอถือเป็นการรับสภาพได้
มาตรา 1386 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ให้นำบทบัญญัติว่าด้วยอายุความมาใช้บังคับในเรื่องอายุความได้สิทธิครอบครองด้วยโดยอนุโลม ฉะนั้น จึงนำบทบัญญัติว่าด้วยอายุความสะดุดหยุดลงมาใช้แก่การฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองได้
ฟ้องโจทก์ที่ระบุถึงเรื่องโจทก์ไปร้องต่ออำเภอว่าจำเลยบุกรุกล้อมรั้วจำเลยยอมรื้อรั้วกับอำเภอแล้ว เช่นนี้อย่างน้อยก็มีผลเป็นการรับสภาพตามสิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงอย่างหนึ่ง
ฟ้องโจทก์ที่ระบุถึงเรื่องโจทก์ไปร้องต่ออำเภอว่าจำเลยบุกรุกล้อมรั้วจำเลยยอมรื้อรั้วกับอำเภอแล้ว เช่นนี้อย่างน้อยก็มีผลเป็นการรับสภาพตามสิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงอย่างหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10969/2555
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความสะดุดหยุดลงจากการชำระหนี้บางส่วนและข้อตกลงให้หักเงินจากบัญชี
เหตุที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงอันเกิดจากการกระทำของลูกหนี้อาจเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ เช่น ลูกหนี้รับสภาพหนี้ต่อเจ้าหนี้ตามสิทธิเรียกร้องโดยทำเป็นหนังสือรับสภาพหนี้ รวมไปถึงการชำระหนี้ให้บางส่วนตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/14
เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า จำเลยตกลงชำระหนี้บัตรเครดิตโดยยินยอมให้โจทก์หักเงินจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ของจำเลย และสัญญาการใช้บัตรเครดิตระบุว่า หากมีการยกเลิกการใช้บัตรเครดิตไม่ว่าด้วยเหตุประการใด ให้ถือว่าเป็นการยกเลิกการใช้บัตรเครดิตเท่านั้น มิใช่เป็นการยกเลิกสัญญา และหากปรากฏว่ามียอดเงินเป็นลูกหนี้โจทก์ จำเลยตกลงที่จะชำระหนี้โดยให้โจทก์หักเงินจากบัญชีชำระหนี้ได้ ดังนี้ การที่โจทก์หักเงินจากบัญชีออมทรัพย์ของจำเลยเพื่อชำระหนี้จึงเป็นกรณีที่จำเลยยอมชำระหนี้ให้แก่โจทก์ตามข้อตกลง หาใช่เป็นเรื่องที่โจทก์หักเงินจากบัญชีของจำเลยตามอำเภอใจไม่ กรณีจึงเป็นการรับสารภาพหนี้ต่อโจทก์ด้วยการชำระหนี้ให้บางส่วนอันเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/14 (1) เช่นนี้นับแต่วันที่จำเลยชำระหนี้บัตรเครดิตให้แก่โจทก์ครั้งสุดท้ายจนถึงวันฟ้องยังไม่พ้นกำหนด 2 ปี คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า จำเลยตกลงชำระหนี้บัตรเครดิตโดยยินยอมให้โจทก์หักเงินจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ของจำเลย และสัญญาการใช้บัตรเครดิตระบุว่า หากมีการยกเลิกการใช้บัตรเครดิตไม่ว่าด้วยเหตุประการใด ให้ถือว่าเป็นการยกเลิกการใช้บัตรเครดิตเท่านั้น มิใช่เป็นการยกเลิกสัญญา และหากปรากฏว่ามียอดเงินเป็นลูกหนี้โจทก์ จำเลยตกลงที่จะชำระหนี้โดยให้โจทก์หักเงินจากบัญชีชำระหนี้ได้ ดังนี้ การที่โจทก์หักเงินจากบัญชีออมทรัพย์ของจำเลยเพื่อชำระหนี้จึงเป็นกรณีที่จำเลยยอมชำระหนี้ให้แก่โจทก์ตามข้อตกลง หาใช่เป็นเรื่องที่โจทก์หักเงินจากบัญชีของจำเลยตามอำเภอใจไม่ กรณีจึงเป็นการรับสารภาพหนี้ต่อโจทก์ด้วยการชำระหนี้ให้บางส่วนอันเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/14 (1) เช่นนี้นับแต่วันที่จำเลยชำระหนี้บัตรเครดิตให้แก่โจทก์ครั้งสุดท้ายจนถึงวันฟ้องยังไม่พ้นกำหนด 2 ปี คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4618/2552 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความหนี้ค่าเช่า: เริ่มนับเมื่อพ้น 30 วันจากใบแจ้งหนี้ และสะดุดหยุดลงเมื่อมีการชำระหนี้บางส่วน
การนับอายุความต้องเริ่มนับแต่ขณะที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้เป็นต้นไปตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/12 การที่โจทก์กับจำเลยตกลงชำระค่าเช่าเครื่องจักรเป็นรายเดือนและจำเลยต้องชำระภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับใบแจ้งหนี้เมื่อพ้นกำหนดเวลา 30 วันดังกล่าว โจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะบังคับสิทธิเรียกร้องค่าเช่าค้างชำระดังกล่าวได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้สัญญาเช่าสิ้นสุดหรือให้จำเลยส่งมอบเครื่องจักรคืนโจทก์ก่อน อายุความเรียกค่าเช่าค้างชำระ 2 ปี จึงเริ่มนับเมื่อพ้นกำหนด 30 วัน นับแต่วันที่จำเลยได้รับใบแจ้งหนี้ในแต่ละฉบับ
จำเลยเป็นหนี้โจทก์หลายจำนวนและนำเงินมาผ่อนชำระหนี้โดยไม่ระบุว่าชำระหนี้จำนวนใด ถือว่าเป็นการชำระหนี้บางส่วนของหนี้ทั้งหมดข้างต้นแล้ว อันเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงทั้งหมดในวันดังกล่าวตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/14 (1)
จำเลยเป็นหนี้โจทก์หลายจำนวนและนำเงินมาผ่อนชำระหนี้โดยไม่ระบุว่าชำระหนี้จำนวนใด ถือว่าเป็นการชำระหนี้บางส่วนของหนี้ทั้งหมดข้างต้นแล้ว อันเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงทั้งหมดในวันดังกล่าวตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/14 (1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4602/2562
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความคดีหนี้ค่าขาดราคาเช่าซื้อ: การทวงหนี้ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทำให้ระยะเวลาอายุความสะดุดหยุดลง
การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีหนังสือทวงถามให้จำเลยทั้งสองชำระหนี้ เป็นการบังคับตามสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจกระทำได้โดยไม่ต้องฟ้องคดีต่อศาล ถือว่าเป็นการกระทำอื่นใดอันนับว่ามีผลเป็นอย่างเดียวกันกับการฟ้องคดี อันเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/14 (5) เมื่อโจทก์ซื้อและรับโอนสิทธิเรียกร้องดังกล่าวต่อมาจากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และได้ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2554 ยังไม่เกินสิบปีนับแต่วันที่อายุความสะดุดหยุดลงดังกล่าว คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ
เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีหนังสือทวงถามให้จำเลยทั้งสองชำระหนี้เป็นเงินค่าขาดราคาและภาษีมูลค่าเพิ่มค้างจ่าย แต่ปรากฏว่าเมื่อจำเลยทั้งสองได้รับหนังสือให้ชำระเงินดังกล่าวแล้ว ไม่ได้ปฏิเสธหรือแสดงเหตุผลประกอบข้อปฏิเสธเป็นหนังสือมายังเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในกำหนดสิบสี่วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งความ ถือว่าจำเลยทั้งสองเป็นหนี้กองทรัพย์สินของลูกหนี้อยู่ตามจำนวนที่แจ้งไปเป็นการเด็ดขาด ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 119 วรรคหนึ่ง เมื่อโจทก์เป็นผู้ซื้อและรับโอนสิทธิเรียกร้องดังกล่าวจากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ จำเลยทั้งสองจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ตามที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แจ้งไป
เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีหนังสือทวงถามให้จำเลยทั้งสองชำระหนี้เป็นเงินค่าขาดราคาและภาษีมูลค่าเพิ่มค้างจ่าย แต่ปรากฏว่าเมื่อจำเลยทั้งสองได้รับหนังสือให้ชำระเงินดังกล่าวแล้ว ไม่ได้ปฏิเสธหรือแสดงเหตุผลประกอบข้อปฏิเสธเป็นหนังสือมายังเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในกำหนดสิบสี่วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งความ ถือว่าจำเลยทั้งสองเป็นหนี้กองทรัพย์สินของลูกหนี้อยู่ตามจำนวนที่แจ้งไปเป็นการเด็ดขาด ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 119 วรรคหนึ่ง เมื่อโจทก์เป็นผู้ซื้อและรับโอนสิทธิเรียกร้องดังกล่าวจากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ จำเลยทั้งสองจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ตามที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แจ้งไป