คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สัญญาชดใช้

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 19 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5749/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาชดใช้ราชการหลังลาศึกษาต่อ: เวลาทำการสอนระหว่างลาศึกษาต่อมิอาจนำมาหักออกจากระยะเวลาชดใช้
จำเลยที่ 1 เป็นข้าราชการครูในสังกัดของโจทก์ ได้รับอนุญาตให้ลาศึกษาต่อ โดยทำสัญญากับโจทก์ว่า เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วจำเลยที่ 1 ต้องทำงานชดใช้ตามระยะเวลาที่กำหนด มิฉะนั้นจะต้องชดใช้เบี้ยปรับ ดังนี้ แม้จำเลยที่ 1 จะมาช่วยสอนในระหว่างที่ได้รับอนุญาตให้ลา ก็จะนำเวลาที่มาช่วยสอนมาคิดหักออกจากเวลาที่จำเลยที่ 1 จะต้องปฏิบัติราชการชดใช้หลังจากครบกำหนดเวลาที่ได้รับอนุญาตให้ลาหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 449/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาชดใช้ค่าเสียหายจากการไม่จดทะเบียนสมรส แม้ไม่ใช่สัญญาหมั้น ก็มีผลผูกพันตามกฎหมาย
โจทก์ผู้เยาว์ยินยอมให้จำเลยที่ 1 กระทำชำเราโดยความสมัครใจซึ่งแม้ไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์ก็ตาม แต่เมื่อบิดาโจทก์ทราบเรื่องได้ไปร้องเรียนต่อกำนันท้องที่ จำเลยที่ 1 ก็ได้ทำสัญญากับโจทก์ว่า จำเลยที่ 1 จะจดทะเบียนสมรสกับโจทก์ หากผิดสัญญายินยอมชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน 50,000 บาท และจำเลยที่ 2ได้ลงชื่อเป็นผู้ค้ำประกันการปฏิบัติตามสัญญาของจำเลยที่ 1 ด้วยต่อมาจำเลยที่ 1 ผิดสัญญาไม่จดทะเบียนสมรสกับโจทก์ แม้มิใช่เป็นกรณีผิดสัญญาหมั้น โจทก์ก็มีสิทธิฟ้องเรียกร้องให้จำเลยทั้งสองชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ตามสัญญาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1088/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องคดีสัญญาชดใช้ค่าเสียหายจากการค้ำประกัน และขอบเขตความรับผิดของจำเลย
หนังสือสัญญาที่ ร. กับจำเลยทำไว้ให้กับโจทก์ว่า หากโจทก์ได้รับความเสียหายจากการที่โจทก์เข้าค้ำประกันในการที่ร.จะปฏิบัติตามสัญญาขนส่งไม้สักที่ร. ทำไว้กับองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ร. กับจำเลยจะร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ทั้งสิ้นนั้น ไม่ใช่สัญญาค้ำประกันตามป.พ.พ. มาตรา680 แต่เป็นสัญญาธรรมดาซึ่งต้องบังคับตามข้อตกลงในสัญญา จะนำบทบัญญัติว่าด้วยลักษณะค้ำประกันมาใช้บังคับมิได้อายุความฟ้องร้องจึงต้องนำอายุความทั่วไปมาใช้บังคับตามป.พ.พ. มาตรา 164 คือ 10 ปี โดยอายุความฟ้องร้องเริ่มนับแต่วันที่โจทก์ได้ชดใช้ค่าเสียหายให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ไป
การที่ ร. ผิดสัญญากับองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้และไม่ชดใช้ค่าเสียหายให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ โจทก์ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันมีหน้าที่ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้การที่โจทก์ไม่ยอมชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวจนโจทก์ถูกองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ฟ้องในฐานะผู้ค้ำประกันและถูกศาลพิพากษาให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความแทนองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ เงินค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความที่โจทก์เสียไปดังกล่าวไม่ใช่ค่าเสียหายโดยตรงอันเกิดจากการที่ ร. ผิดสัญญากับองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิบังคับให้จำเลยชดใช้เงินค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ย.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2093/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความสัญญาชดใช้หนี้ตามหนังสือรับรองตั๋วสัญญาใช้เงิน แม้ตั๋วหมดอายุความแล้ว
โจทก์ฟ้องบังคับเรียกเงินตามหนังสือรับรองการมอบตั๋วสัญญาใช้เงิน แม้ตั๋วสัญญาใช้เงินจะขาดอายุความฟ้อง ร้อง แต่สิทธิเรียกร้องตามหนังสือรับรองการมอบ ตั๋วสัญญาใช้เงิน เป็นสัญญาอีกฉบับหนึ่งต่างหากจาก ตั๋วสัญญาใช้เงิน เมื่อเอกสารดังกล่าวมีข้อความว่าหาก จำเลยที่ 1 ไม่จ่ายเงินตามมูลค่าแห่งตั๋วสัญญาใช้เงิน ฉบับนี้ก็ดี หรือจ่ายเงินล่าช้ากว่ากำหนดที่ระบุไว้ ในตั๋วสัญญาใช้เงินฉบับนี้ก็ดี หรือเพราะเหตุแห่ง ตั๋วสัญญาใช้เงินฉบับนี้สูญหายไปก็ดี จำเลยที่ 1 ยอมชดใช้เงินตามมูลค่าแห่งตั๋วสัญญาใช้เงินฉบับนี้พร้อมด้วย ค่าดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ โดยจำเลยที่ 2 ยอมเข้า ค้ำประกันหนี้รายหนี้ ดังนั้นจำเลยทั้งสองจึงต้องรับผิด ตามหนังสือรับรองการมอบตั๋วสัญญาใช้เงิน ซึ่งข้อสัญญา ดังกล่าวไม่มีกฎหมายบัญญัติอายุความไว้เป็นอย่างอื่น จึงมีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1650-1651/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาทุนการศึกษาชดใช้: โจทก์มีอำนาจฟ้องเรียกเงินทุนคืนได้หากผู้รับทุนผิดสัญญา แม้มูลนิธิไม่ได้ผูกพันโดยตรง
แม้มูลนิธิที่ให้ทุนจะมิได้มีข้อตกลงกับผู้รับทุนถึงเรื่องการทำงานชดใช้ภายหลังการศึกษา แต่ตามข้อความในหนังสือของมูลนิธิที่มีถึงโจทก์เป็นการยืนยันว่า ในการที่โจทก์ให้ผู้รับทุนของมูลนิธิทำสัญญาผูกพันว่า ต้องมาทำงานชดใช้ภายหลังการศึกษาชั่วระยะเวลาหนึ่ง เป็นสิ่งที่ถูกต้องและเหมาะสม ดังนั้น การที่โจทก์ให้ผู้รับทุนทำสัญญาดังกล่าวจึงไม่เป็นการผิดต่อวัตถุประสงค์ของมูลนิธิ เมื่อผู้รับทุนผิดสัญญา โจทก์มีอำนาจฟ้องให้ชดใช้เงินทุนคืนตามสัญญาได้
เมื่อจำนวนเงินที่ศาลล่างให้จำเลยชดใช้แก่โจทก์ ได้คำนวณถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในสัญญา และเป็นการเหมาะสมแล้ว ก็ไม่มีเหตุที่ศาลสูงจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 958/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาชดใช้ค่าเสียหายเพื่อระงับคดีอาญาแผ่นดินเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113
จำเลยทำสัญญายอมชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์โดยมีเจตนาที่จะไม่ให้โจทก์แจ้งความดำเนินคดีอาญากับบุตรจำเลยในการที่ทำให้บุตรโจทก์ตาย โจทก์ตกลงด้วยวัตถุประสงค์ของสัญญาเป็นการตกลงให้ระงับคดีอาญาแผ่นดิน ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113 สัญญาจึงตกเป็นโมฆะกรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 958/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาชดใช้ค่าเสียหายเพื่อระงับคดีอาญาแผ่นดินเป็นโมฆะ
จำเลยทำสัญญายอมชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์โดยมีเจตนาที่จะไม่ให้โจทก์แจ้งความดำเนินคดีอาญากับบุตรจำเลยในการที่ทำให้บุตรโจทก์ตาย โจทก์ตกลงด้วยวัตถุประสงค์ของสัญญาเป็นการตกลงให้ระงับคดีอาญาแผ่นดิน ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 113 สัญญาจึงตกเป็นโมฆะกรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1239/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาไม่เป็นค้ำประกัน แต่เป็นสัญญาชดใช้ค่าเสียหาย อายุความ 10 ปี
จำเลยขอให้โจทก์ค้ำประกันบุคคลผู้ส่งข้าวไปขายต่างประเทศต่อกระทรวงเศรษฐการ โดยจำเลยยอมรับผิดต่อโจทก์ ถ้าโจทก์ต้องเสียหายอย่างใด ๆ ในการค้ำประกันนั้น ดังนี้ ไม่ใช่เป็นสัญญาค้ำประกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 680 แต่เป็นสัญญาธรรมดาระหว่างโจทก์ จำเลย เมื่อโจทก์ต้องชำระหนี้ค่าข้าวแทนบุคคลนั้นโดยสุจริต ย่อมมีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยใช้เงินนั้นได้โดยต้องใช้อายุความ 10 ปีตามมาตรา 164 ไม่ใช่ 5 ปีตามมาตรา 165

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 310/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาชดใช้ค่าเสียหายจากการยักยอกทรัพย์ การฟ้องซ้ำ และการไม่ต้องปิดอากรแสตมป์
ถอนฟ้องคดีแพ่งแล้วกลับมาฟ้องใหม่ได้ตาม ป.ม.วิ.แพ่ง ม. 176 และไม่ใช่เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต รับฝากของที่ขะโมยเขามา มารดาและพี่ของผู้รับฝากทำสัญญายอมใช้ราคาของที่ฝากให้แก่เจ้าของและคนขะโมย เจ้าของย่อมฟ้องเรียกเงินตามสัญญานั้นได้และสัญญาชะนิดนี้ไม่ใช่สัญญาประกันการทำยอมใช้ทรัพย์ยักยอกอันเป็นความผิด ส่วนตัวนั้นไม่นับว่าสัญญาเป็นโมฆะคนที่สามทำสัญญายอมรับใช้ทรัพย์แทนผู้รับฝากนั้นไม่ต้องปิดแสตมป์
of 2